บทความนี้จะมาแนะนำ เรื่องที่มือใหม่ กำลังจะใช้ซิมเน็ต Sim my ซึ่งเป็นซิมที่สามารถเชื่อมต่อเน็ตในราคาประหยัดที่สุด ที่ความเร็วเริ่มต้น 2 Mb ขึ้นไป ซึ่งก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป ใช้ LINE, เฟสบุ๊ค ดู Youtube ช้อปปิ้ง ฯลฯ ความรู้เล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้จะช่วยให้มือใหม่ใช้ซิมค่ายนี้อย่างเข้าใจ สามารถเลือกโปรเน็ตที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ไม่เสียเงินมากเกินไปโดยใช่เหตุ
การใช้มือถือเชื่อมต่อเน็ต เพื่อใช้บริการต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งซิม my by NT ก็มีหลายแพ็คเกจที่รองรับ เริ่มต้นค่าบริการตั้งแต่ 100 บาท ขึ้นไป แต่ทั้งนี้ก็มีหลายเรื่องที่ควรรู้ตามนี้
เรื่องที่ 1
ซื้อซิม my จากเน็ต ถูกกว่า
การซื้อซิมจากศูนย์ให้บริการจะขายที่ 69 บาท แต่ซื้อจากเน็ต สามารถซื้อได้ในราคาถูกกว่า โดยการซื้อหลายๆ ซิม อาจจะมีค่าส่ง แต่รวมๆ แล้วก็ถูกกว่าซื้อจากศูนย์
เรื่องที่ 2
ประหยัดเงินค่าโทรศัพท์ ไม่ต้องเติมเงิน ก็โทรหากันได้
สำหรับการใช้งานในบ้าน ครอบครัว หน่วยงานที่ต้องมีการโทรศัพท์ติดต่อกัน คุยกัน ซึ่งคุยผ่านการโทรปกติจะง่ายกว่า สะดวกกว่า โทรผ่านแอป อย่าง LINE การเติมเงินตามแพ็คเกจเช่น 100 บาท ก็ใช้เน็ตได้ 31 วัน และโทรหาซิม My ด้วยกัน ฟรี!!! ไม่ต้องกังวลกับการเติมเงินเอาไว้ในซิม แล้วโดนพวก SMS ข้อความดูดเงิน พวกดูดวง ต่างๆ มาดูดเอาไปหมด
เรื่องที่ 3
ใช้ซิม my ความเร็วเน็ต 2 Mbps/4 Mbps เพียงพอแล้ว
สำหรับการเน้นใช้งานอินเตอรเน็ต ซื้อซิมเน็ตความเร็ว 2MB หรือ 4 Mb ก็เพียงพอแล้ว ใครที่ไม่ได้ใช้เน็ตมาก ไม่เน้นดูวิดีโอคมชัด ไม่ได้วิดีโอคอล บ่อยๆ ใช้แบบ 2 MB ก็เพียงพอ โดยจะมีค่าบริการเดือนละ 100 บาท (2Mbps) และ 150 บาท (4Mbps) รวม VAT แล้ว
- ความเร็วเน็ต 2 Mbps การเชื่อมต่อเน็ตจะทำได้ประมาณ 1.5-1.8 Mbps
- ความเร็วเน็ต 4 Mbps การเชื่อมต่อเน็ตจะทำได้ประมาณ 3.5-3.9 Mbps
เรื่องที่ 4
ซิม my ความเร็ว 15 Mbps ขึ้นไป เชื่อมต่อได้ที่ความเร็วต่ำในบางพื้นที่
ซิม my ความเร็ว 15 Mbps ขึ้นไป มีค่าบริการแพงกว่าแบบ 2 และ 4 Mbps แต่ในบางพื้นที่จากที่ผู้เขียนได้ทดสอบ ตั้งแต่ 2, 4, 15 และ 30 พบว่า แบบ 15 Mbps เชื่อมต่อได้ประมาณ 3-5 Mbps เท่านั้น ส่วนแบบ 30 Mbps เชื่อมต่อได้ไม่ถึง 10 Mbps หากอากาศแปรปรวน มีฟ้าฝน ความเร็วเน็ตจะลดลงไปอีก บางครั้งเหลือไม่ถึง 1 Mbps ก็มี ทำให้หลายครั้ง แทบจะใช้งานไม่ได้ แต่แบบ 2 และ 4 จะยังคงเชื่อมต่อที่ความเร็วคงที่
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้น่าจะเกิดจากการใช้เสาส่งสัญญาณร่วมกับมือถือค่ายอื่น หรือเปล่า ดังนั้น หาข้อมูลให้ดี ก่อนตัดสินใจเลือก ซิม my ความเร็วสูง อาจจ่ายแพง แต่ได้เน็ตความเร็วต่ำ
เรื่องที่ 5
การเปิดใช้งานซิม My
การซื้อซิม My แนะนำให้ซื้อผ่านเน็ต ทางร้านค้าจะมีบริการเปิดใช้งานซิม เพียงแค่ ถ่ายภาพบัตรประชาชน และ หมายเลขซิม my ส่งให้ร้านค้าทาง Line และ สามารถสอบถามปัญหาได้สะดวกกว่า
เรื่องที่ 6
ปิดข้อมูลมือถือ ปิดเน็ตในมือถือก่อนใส่ซิมทุกครั้ง
มือถือจะชอบเปิดข้อมูลมือถือ หรือเปิดเน็ตเอาไว้ เมื่อใส่ซิมเข้าไป ก็จะทำการเชื่อมต่อเน็ตทันที หากเติมเงินเข้าไป ก็จะทำการต่อเน็ตแบบไม่มีโปรโมชัน เงินจะหมดเร็วมาก เรื่องนี้ห้ามลืมอย่างเด็ดขาด ทุกครั้งที่จะใส่ซิม My หรือ เติมเงินเข้าซิม my ต้อง
1. ปิดเน็ตในมือถือก่อน
2. สมัครโปรเน็ตซิม my ให้เรียบร้อย แล้วจึงเปิดข้อมูลมือถือ หรือ ต่อเน็ต
เรื่องที่ 7
โปรเน็ตใช้งานได้ 31 วัน และต้องเติมเงินก่อนหมดเวลา
เมื่อสมัครโปรเน็ตเสร็จแล้ว ก็จะใช้งานได้ 31 วัน โดยจะต้องเติมเงินเข้าไปก่อนจะหมดเวลา เพื่อให้ระบบทำการต่อโปรเน็ตให้อัตโนมัติ หากเติมเงินไม่ทัน สิ่งที่จะต้องระวังก็คือ ระบบจะรีเซ็ตใหม่ หากมีการเติมเงินเข้าไป จะต้อง
1. ปิดข้อมูลมือถือก่อน บางคนลืมผิด เมื่อเติมเงินเข้าไป ก็จะต่อเน็ตทันที ทำให้เงินหมดเร็วมาก เพราะเป็นการต่อเน็ตแบบไม่มีโปรโมชัน
2. ให้เติมเงิน แล้วทำการสมัครโปรเน็ตอีกครั้ง เช่น แบบ 2 Mbps *906*438# โทรออก จากนั้นจึงเปิดข้อมูลมือถือ เพื่อใช้งาน คราวนี้ ต้องระวังเติมเงินไว้ก่อนหมดเวลา เพราะหากเลยเวลาที่กำหนด ระบบจะรีเซ็ตใหม่ หากลืมปิดเน็ต เงินที่เติมเข้าไป ก็จะหายไปทันที รับรองได้ว่า เสียเงินทั้งปี แน่นอน
สรุป
การใช้งานซิม my ก็จะมี 7 เรื่องพื้นฐานต้องรู้ตามนั้น เพื่อให้สามารถเลือกโปรเน็ตที่เหมาะสม และไม่ลืมเติมเงินไว้ก่อนหมดเวลา จะไม่พลาดท่า เสียเงินฟรี เพราะลืมปิดเน็ต