ความหมาย : สำนวนนี้มักจะพูดถึงประโยชน์ของความรู้ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ความรู้เป็นสิ่งดีมี ประโยชน์ มีติดตัวไว้ไม่ต้องแบก ไม่ต้องถือ แต่... การศึกษาหาความรู้นั้นเป็นเรื่องที่ยาก หลายคนขี้เกียจไม่อยากเรียนรู้ ไม่ อยากศึกษาอะไร
ตัวอย่าง :
ในช่วงที่อายุยังน้อย ควรเร่งศึกษาหาความรู้ ศึกษาวิชาใส่ตัว เพราะความรู้มีประโยชน์ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม รู้แล้วก็เก็บ ความรู้ไว้ในสมองเท่านั้น ไม่ใช่จะต้องแบก ไม่หามให้เหนื่อย แต่อย่างใด และความรู้นั้นบางเรื่อง ศึกษาครั้งเดียวก็จะใช้งานได้ ตลอดไป โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพซึ่งถือว่าเป็นความรู้ที่สำคัญ จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้อยู่รอด
การมีความรู้เป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องนี้ไม่ง่าย บางคนอาจจะบอกว่า รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม ความรู้ศึกษาแล้วก็เก็บไว้ในหัว เก็บไว้ในสมอง ไม่ต้องถือ ไม่ต้องแบก ไม่ต้องหาม แต่ความยากอยู่ที่การศึกษาความรู้ใส่ตัวนั่นเอง เรื่องนี้ไม่เหมือนหนังจีน กำลังภายใน การถ่ายถอยความรู้ ถ่ายทอดวิทยายุทธ ดูเป็นเรื่องง่าย
แต่ชีวิตจริงยากกว่านั้น กว่าจะสามารถศึกษาหาความรู้ใน แต่ละเรื่องให้เกิดความเชี่ยวชาญชำนายมักจะใช้เวลาเป็นปี อย่างการเรียนเพื่อเอาวุฒิปริญญาด้วยแล้ว ก็จะใช้เวลาเป็นสิบปี เลยทีเดียว และหากต้องการประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยแล้ว จำเป็นต้องศึกษาหลายด้าน ทั้งการทำงาน การหาเงิน การบริหารเงิน บริหารชีวิต การเข้าสังคม การเอาตัวรอด ฯลฯ จึงไม่แปลกใจที่ว่าแม้ความรู้จะเป็นเรื่องที่ดี แต่น้อยคนจะขยันศึกษาหาความรู้ เพราะความขี้เกียจก็เป็นนิสัยพื้นฐานของคนเราอยู่แล้ว หากไม่เดือดร้อนหรือไม่มีความมุ่งมั่นอยางแรงกล้าอยากประสบ ความสำเร็จจริงๆ แล้ว คนส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะอยู่สบายๆ มากกว่า
ทุกวันนี้ความรู้ในแทบทุกเรื่อง สามารถเข้าถึงได้ง่าย อยากรู้เรื่องอะไร ก็สามารถค้นหาได้ตามต้องการ ไม่ต้องเข้าห้องสมุด ไม่ต้องถามใคร เป็นเรื่องดีสำหรับคนชอบศึกษาหาความรู้ ชอบเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม รู้มาก รู้ทุกเรื่องย่อม เป็นเรื่องดี เพราะความรู้ไม่ต้องแบก ไม่ต้องหาม แต่ต้องมีมือถือสมาร์ทโฟน และรู้วิธีค้นหาข้อมูล คัดแยกข้อมูล เพราะข้อมูล ขยะนั้นมีมากกว่าข้อมูลที่ตรงกับความต้องการจริงๆ