ความหมาย : สำนวนนี้ จะใช้พูดถึง ความเก่งความฉลาดของคนเรา บางคน มีสติปัญญาดี มาตั้งแต่เกิด เก่งได้ โดยไม่ต้องมีคนสอน เหมือน หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีคนกลึง คนเหล่านี้มีความฉลาด สามารถ เรียนรู้เองได้จากการสังเกต การอ่านการศึกษา การทดลองทำ แต่เรื่องเหล่านี้ ก็ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด ทุกคนต้องมีการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาตนเอง เพียงแต่ในขั้นตอนการเรียนรู้นั้น บางทีก็จะดูไม่ออก ว่าเรียนรู้เมื่อใด เพราะกระบวนการคิด การทำงานของ สมอง ยากจะดูออก ว่ากำลังทำอะไรกำลังคิดอะไร บางคนอยู่นิ่งๆ อยู่เฉยๆ นั่งๆนอนๆ แต่ในสมองนั้น อาจกำลังคิดแก้ปัญหา บางอย่าง จนหัวแทบระเบิดก็ได้
ตัวอย่าง :
คนไม่เก่ง ไม่ฉลาด จริงๆ แล้ว คนเหล่านี้อาจเป็นคนขี้เกียจ จึงเอามาเป็นข้ออ้างว่าไม่เก่งไม่ฉลาดเป็นคนโง่ จึงไม่ยอมเรียน รู้อะไร แต่หากหมั่นศึกษาหาความรู้ลงมือทำ จนเกิดความเชี่ยวชาญ ก็จะกลายเป็นคนเก่งได้เหมือนกัน เพียงแต่อาจจะช้ากว่า คนที่มีสติปัญญาดีมาตั้งแต่เกิด เหมือน หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยม มะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีคนกลึง ธรรมชาติให้มาแบบนั้น คน ฉลาดปัญญาดีนั้น บางคนสามารถเรียนรู้ได้เองเข้าใจอะไรได้เร็ว ต่างจากคนที่ไม่ฉลาด อาจจะต้องใช้เวลา ฝึกฝนพัฒนาตนเอง มากกว่า
วิธีเรียนรู้ ในเรื่องใหม่ๆ ในสิ่งใหม่ๆ เป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ ซึ่งก็จะช่วยให้เรียนรู้เรื่องใหม่หรือเข้าใจอะไร ได้เร็วกว่าปกติ ประสบการณ์ความรู้ก็จะทำให้คนเรามีความฉลาดมากขึ้น ต่อไปการเรียนรู้อะไรก็จะเป็นเรื่องง่าย โดยไม่ต้องมี คนสอน เข้าทำนอง หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยมมะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีคนกลึง เมื่อสมองถูกฝึกฝนมาอย่างดีแล้ว จะเรียนรู้อะไรก็ เข้าใจได้เร็วเข้าใจได้ง่าย
คนมีสติปัญญาดีเรียนรู้อะไรได้เร็วเหมือน หนามแหลมไม่มีคนเสี้ยมมะนาวกลมเกลี้ยงไม่มีคนกลึง คนประเภทนี้ถือว่า มี ความได้เปรียบคนอื่นเพราะประสบปัญหาชีวิตในด้านต่างๆ ทั้งหน้าที่การงาน ความรัก หรือเรื่องใดๆ ก็ตามก็จะคิดหาวิธี เอาตัว รอดผ่านไปได้ ต่างจากบางคนที่ไม่สามารถหาทางออกด้วยตัวเองได้ แต่คนส่วนใหญ่ ไม่ได้มีสติปัญญาที่ฉลาดมาก มักต้อง อาศัยการศึกษาหาความรู้ เพื่อพัฒนาตัวเอง ก็จะเป็นคนเก่ง คนฉลาดได้เช่นกัน
คนมีสติปัญญาดีเป็นคนเก่งคนฉลาด คนประเภทนี้ มีไม่น้อยที่ไม่ประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงานหรือในชีวิต เพราะความ ฉลาดของคนเรานั้นก็มีหลายแบบ และคนฉลาดมักจะถือว่าตัวเองมีความฉลาดมากกว่าคนอื่น จึงมักเกิดความประมาทในการทำ งาน ไม่ทำอย่างจริงๆ จังๆ แต่สนใจแค่ว่า จะแสดงความโดดเด่น ในเรื่องความฉลาดของตัวเองอย่างไรเท่านั้น เหมือนมีความ สามารถไว้โชว์ไว้อวด บางคนก็กลายเป็นคนประเภท ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด ก็มาก