ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงการทะเลาะวิวาทหรือมีเรื่องชกต่อย ทำร้ายกัน ซึ่งหลายครั้งจะเป็น ไปในลักษณะ หมาหมู่ ฝ่ายที่มีคนมากกว่า พากันรุมทำร้ายอีกฝ่ายที่มีคนน้อยกว่าหรืออาจจะมีแค่คนเดียว ยากจะต่อสู้และมัก จะได้รับบาดเจ็บสาหัสเสมอ
ตัวอย่าง :
การทะเลาะวิวาท หากเป็นการต่อสู้กันตัวต่อตัว ไม่มีอาวุธ ก็อาจจะไม่มีความรุนแรงมากนัก อย่างมากก็ตาบวม ปากแตก แล้วก็แยกทางกันไป แต่หากเป็นไปในลักษณะ หมาหมู่ อีกฝ่ายมีคนมาก มารุมทำร้ายอีกฝ่ายที่มีคนน้อยกว่า ก็มักจะทำให้ได้ รับบาดเจ็บหนักกว่าที่คิด โดยเฉพาะหากมีการใช้อาวุธ
หมามักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง หรือมีหลายตัว เวลากัดกัน ทะเลาะกัน ก็จะรุมอีกฝ่ายที่อาจจะเป็นหมาต่างถิ่น เดินผ่านมาตัว เดียว กลายเป็น หมาหมู่ ของจริง หมาหลายตัวรุมทำร้ายหมาที่มีจำนวนน้อยกว่า คนเรานั้นเมื่อมีเรื่องทะเลาะวิวาทก็จะคล้ายกัน จะพยายามหาพรรคพวกไปช่วยกัน ยิ่งมากยิ่งดี จะยิ่งได้เปรียบฝ่ายที่พวกน้อยกว่า
นักเลงจริงๆ สมัยก่อน จะไม่ใช้วิธี หมาหมู่ รุมทำร้ายอีกฝ่าย แต่จะดวลหรือต่อสู้กันตัวต่อตัว ให้รู้แพ้ชนะกันไปเลย
การเป็นคนต่างถิ่น ต้องย้ายหรือเดินทางไปทำงานไปอยู่ถิ่นอื่น ต้องระวังการมีเรื่องทะเลาะวิวาท โดยเฉพาะกับคนในพื้นที่ เพราะมีโอกาสโดนรุมทำร้ายจากพวก หมาหมู่ หรือคนในพื้นที่ซึ่งจะมีพวกมากกว่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องปกติที่คนถิ่นเดียวกันก็ต้อง เป็นพวกกัน ช่วยเหลือกัน
เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายก็อาจจะมีการทะเลาะกันเป็นเรื่องธรรมดา อาจจะมีการยกพวกตีกัน ฝ่ายที่ มากกว่า กลายเป็น หมาหมู่ รุมทำร้ายอีกฝ่าย เป็นเรื่องปกติในการทะเลาะวิวาท แต่หากเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์หรือสถานการณ์ แบบนี้ ก็ต้องใจเย็น ควบคุมสติให้ดี ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายอาจจะคิดว่าเป็นพวกเดียวกับคู่ขัดกรณี อาจจะได้รับอันตรายได้