ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึง ตำหนิ หรือนินทา ว่ากล่าว คนเกียจคร้าน ไม่ชอบทำงานทำการใดๆ หรืออาจจะทำ แต่ก็เสมอต้น เสมอปลาย แค่พอมีพอกิน ก็หยุดใช้ให้หมดเสียก่อน

ตัวอย่าง :

คนเกียจคร้านไม่ยอมทำงานทำการใดๆ งอมืองอตีน แบมือขอคนอื่นไปวันๆ บางคน ก็เป็นนิสัยติดตัวมาจากการเลี้ยงดู จึงทำให้ เป็นคนขี้เกียจ

บางคนไม่ใช่คนขี้เกียจ งอมืองอเท้า ไม่ทำงานทำการ แต่อาจเป็นคนที่รู้จักวางแผนในเรื่องการทำงาน ขึ้นอยูกับว่าไปเราพบคน ประเภทนี้เวลาใด หากไปพบในช่วงทำลังทำงาน ก็จะมองว่า เป็นคนขยัน แต่หากไปพบในช่วงที่ประสบความสำเร็จแล้ว อาจจะนั่งๆ นอนๆ เหมือนไม่ทำมาหากินอะไรเลย อาจจะเป็นช่วงที่สบายแล้ว

บางคนเล่นหุ้นมานาน จนมีผลตอบแทนเงินปันผลแต่ละปี เพียงพอ ต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน จึงใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ทำงานทำการ ก็แล้วแต่การวางแผนในเรื่องการทำงานของแต่ละคน

การเป็นคนขี้เกียจ มักจะถูกตำหนิ ดุด่า นินทาว่าเป็นพวก งอมืองอเท้า ไม่ทำงานทำการอะไรเป็นหลักแหล่ง ใครๆ ก็ไม่อยากจะคบ หาสมาคมด้วย เพราะมีแต่จะทำให้เดือดร้อน

คนขี้เกียจบางคน จริงๆ ไม่ใช่คนขี้เกียจ แต่แกล้งทำเป็นขี้เกียจ เพราะไม่อยากจะทำงานใดๆ หรือทำอะไร เป็นคนประเภทเห็นแก่ตัวอย่างฉลาด ด้วยการแกล้งทำเป็น งอมืองอเท้า ไม่ทำอะไร เพื่อไม่ให้ใครกล้ามายุ่ง เจอคนประเภทนี้ มีหลายแบบ ต้องมองให้ออกว่าเป็นคนแบบไหน หากเป็นคนขี้เกียจที่ฉลาด บางคนก็อาจจะใจดี แนะนำวิธีคิด วิธีทำงาน แนะนำสิ่งดีๆ ให้เราได้เช่นกัน ไม่ใช่คนขี้เกียจจะสร้างปัญหาเสมอไป บางคนทำงานปีละ 2-3 เดือน เวบาที่เหลือนั่งๆ นอนๆ เหมือนคนขี้เกียจไม่ทำงานทำการใดๆ แต่จริงๆ แล้วกำลังคิดและวางแผนอะไรบางอย่างอยู่เงียบ และลงมือทำเสร็จอย่างรวดเร็ว