ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงอาการโกรธมาก ชนิดที่ว่าควบคุมอารมณ์ไม่ได้แล้ว โกรธจน เลือดขึ้นหน้า จนขาดสติ ทำสิ่งไม่ดีลงไป กว่าจะรู้ตัวก็เกิดความเสียหาย หรือคนที่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บ หรือทำให้ตัวเองได้รับ ความเดือดร้อนตามมา

ตัวอย่าง :

ความโกรธของคนเรา มากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับการควบคุมอารมณ์ ความมีสติ บางคนโกรธมาก จน เลือดขึ้นหน้า เคยมี เรื่องเล่า พ่อทำร้ายลูกตีมือหัก เพราะเอาตะปูไปเขียนบนรถยนต์สุดที่รัก เมื่อได้สติ ก็เกิดความเสียใจอย่างมาก เพราะข้อความ ที่ลูกขีดเขียนบนรถก็คือ รักพ่อ

การหมั่นควบคุมอารมณ์ เป็นเรื่องดี อย่าเสพความสุขกับการได้ทำอะไรแรงๆ อารมณ์รุนแรง จนติดเป็นความเคยชิน บาง คนแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ความโกรธจะรุนแรงมาก และขาดสติบ่อยๆ โกรธจน เลือดขึ้นหน้า ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำให้ เกิดความเดือดร้อนตามมาทั้งตัวเองและผู้อื่น คนแบบนี้มักจะไม่มีใครอยากเข้าใกล้ คบแล้วเครียด เพราะบางคนขัดใจไม่ได้เลย อารมณ์พร้อมพุ่งปรี๊ดทันที

การที่คนเราเกิดความโกรธอย่างรุนแรง โกรธจน เลือดขึ้นหน้า ควบคุมตัวเองไม่ได้ นั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น - ของรักของหวงถูกทำลาย อยู่ดีๆ มีคนมาทำสร้างความเสียหายให้เข้าของ ก็มักจะเกิดความโกรธ จนควบคุมตัวเองไม่ได้ และบรรดาลความโกรธกับคนต้นเหตุ
- การสะสมพฤติกรรมด้านลบ ขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ไว้มากเกินไป นานวันเข้าจะทำให้กลายเป็นคนอารมณ์ร้าย เวลาโกรธจะมี อารมณ์รุนแรง จนอาจควบคุมสติไม่อยู่ บางคนมีแฟนซึ่งไม่เข้าใจกัน จนทำให้
- การเป็นคนมีปมด้อย หรือมีแผลในใจ หากมีคนพูดถึงปมด้อยหรือแผลในใจตัวเองในทางไม่ดี ก็มีโอกาสเกิดความโกรธจน เลือดขึ้นหน้า หน้าแดงก่ำ ได้เหมือนกัน
- การสะสมความทุกข์ใจ หรือความเจ็บปวดในใจ ไว้มากเกินไป หากมีใครพูดอะไรหรือทำอะไรให้ไม่พอใจ หรืออยู่ในอาการ มึนเมา ก็มีโอกาสเกิดความโกรธจน เลือดขึ้นหน้า ควบคุมสติดไม่ได้ ดังนั้นต้องระวังอย่างเก็บกดอารมณ์ไม่ดี เรื่องราวไม่ดีใส่ ตัวเองมากเกินไป หลีกเลี่ยงการทำตัวเองเป็นกระโถนรับเรื่อ่งราวจากคนอื่น เพราะแม้ตัวเองจะไม่มีปัญหาอะไร แต่การรับเอา ปัญหาของคนอื่นมาใส่ตัวเองไว้มากๆ ก็จะทำให้กลายเป็นคนโมโหร้ายได้เหมือนกัน