ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดถึงคนที่ทำงานหนักมากหรือทำกิจกรรมบางอย่าง จนเหงื่อออกท่วมตัวเหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ อาบน้ำด้วยเหงื่อของตัวเอง ทำงานหนักมากจริงๆ หรืออาจจะมีเหงื่อออกเพราะสาเหตุอื่นก็ได้

ตัวอย่าง :

การทำสิ่งใดหรือทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม ต้องรู้ถึงกำลังความสามารถของตนเองในการทำงานนั้นๆ ว่าสามารถทำได้มากน้อยเพียงใดไม่ควรฝืน บางคนทำงานหนักมากจน เหงื่อท่วมตัวเหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องดีอาจมีปัญหาเจ็บป่วยตามมาในทันที หรือในภายหลังได้หากต้องทำอย่างต่อเนื่องนานหลายปี

หากไม่เคยทำงานหนักมาก่อน ก็มีเคล็ดลับการทำงานแบบ อึด ถึก ทน เหมือนแรดที่มือใหม่สามารถนำไปใช้ได้ แม้จะทำงานไม่หยุด จนเหงื่อท่วมตัวเหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ แต่ก็ยังไม่หมดแรงเอาง่ายๆ ด้วยวิธีการทำงานช้าๆ ไม่ต้องรีบ ไม่ต้องใช้กำลังมากเกินไปนัก ซึ่งก็จะทำงานได้นานโดยไม่เหนื่อยมากนักเพียงแต่อาจจะได้ปริมาณงานไม่มาก สำหรับมือใหม่ไม่เคยทำงานหนักมาก่อนก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา อย่างบางคนไม่เคยทำการเกษตร ถางหญ้า ขุดดิน ตัดหญ้า แต่ไปลงมือทำการเกษตรครั้งแรกก็ย่อมจะเหงื่อไหลไคลย้อยเหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ เป็นธรรมดา แต่ทำงานช้าๆ จะไม่เหนื่อยมาก ร่างกายไม่ช้ำมาก

แต่ในขณะเดียวกันก็จงพยายามคิดหาวิธีลดภาระในการทำงาน เพื่อให้เป็นงานเบาลง อย่างการย้ายกองดินจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ถ้าใช้ปุ้งกี๋โดยตักไปทีละปุ้งกี๋ก็จะใช้เวลานานมาก หากใช้รถเข็นตักดินใส่รถเข็น เมื่อเต็มแล้ว ก็นำไปเทอีกที่หนึ่ง ก็จะทำงานได้เร็วขึ้น แต่หากมีรถกระบะก็จะช่วยลดเวลา การทำงานได้เร็วมากยิ่งขึ้น ตักดินใส่รถกระบะแล้วก็ขับเอาไปเทในอีกที่นึง หากรู้จักใช้สมองช่วยทำงาน ก็จะไม่ต้องทำงานหนักจนเหงื่อท่วมตัวเหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ หรืออาบน้ำด้วยเหงื่อ อย่างแน่นอน

บางคนไม่ต้องทำงานหนัก จนเหงื่อท่วมตัวเหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ อยู่ในห้องแอร์เย็นๆ เหงื่อก็ออกท่วมตัวได้เหมือนกัน หากไปกระทำความผิดมา และมีคนรู้ หรือโดนแฉในห้องแอร์ ก็อาจจะเกิดอาการตกใจ หน้าซีด เหงื่อท่วมตัว เหมือน อาบเหงื่อต่างน้ำ ได้เช่นกัน