ข้อมูลของ สะเดา ประโยชน์ หรือ สรรพคุณ ในการใช้เป็นยารักษาอาการเจ็บป่วย หรือ บำรุงสุขภาพ หรือ ใช้ สะเดา เป็นอาหาร วิธีการปลูกการ ดูแล ตลอดจนตัวอย่างการแปรรูป สะเดา เป็นสินค้าแบบต่างๆ ราคาซื้อขาย เพื่อเป็นประโยชน์สำหรับผู้สนใจ ปลูกไว้ใช้ประโยชน์ หรือ ปลูกไว้ขาย สร้างรายได้
ข้อมูลทั่วไปของ สะเดา
สะเดา มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Neem ส่วนชื่อภาษาไทย นั้นมีหลายชื่อ เช่น สะเดา กระเดา จะดัง ผักสะเลม ไม้เดา เป็นไม้ยืนต้น มีประโยชน์ทั้งเป็น อาหาร โดยใช้ยอด ดอก และเป็นพืชสมุนไพรโดยใช้ส่วนต่างๆ ของต้น ทั้ง ใบ ราก เปลือก ผล ดอก
สะเดา มีหลายพันธุ์ทั้ง ไทย อินเดีย โดยพันธุ์ไทย จะมีทั้งชนิดขมยอดอ่อนเป็นสีแดง และชนิดมัน ยอดอ่อน ดอก จะเป็นสีขาว หลายคนชอบแบบ มัน เพราะไม่ขม อร่อยกว่า โดยจะออกดอกช่วงเดือนธันวาคม
การนำ สะเดา ไปประกอบอาหารแบบต่างๆ
การนำสะเดาไปทำอาหาร จะมีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะมีรสขม หลายคนอาจจะไม่ขอบ และจะเข้ากันได้กับอาหารบางอย่างเท่านั้น เช่น
1. การยอดอ่อน หรือ ดอกสะเดาไปลวก จิ้มน้ำพริกแบบต่างๆ อย่าง น้ำพริกกะปิ ซึ่งหาได้ง่ายที่สุด เป็นเมนูที่ง่ายที่สุด โดยยอดหรือดอกที่ลวกแล้ว สามารถเก็บได้นานเป็นเดือน ด้วยการแช่ตู้เย็นไว้
2. สะเดาน้ำปลาหวาน เป็นอีกเมนูที่นิยม อาจจะเพิ่มปลาดุกย่างเข้าไปด้วย ก็จะเข้ากันมากขึ้น
3. กินยอดอ่อน หรือ ดอกสะเดากับเมนูประเภทย่าง หมูย่าง ปลาย่าง กุ้งย่าง คอหมูย่าง
4. ยอดสะเดาหรือดอกสะเดาเผา จิ้มน้ำพริก
5. ยำสะเดาใส่กุ้ง ใส่ปลาทู ใส่หมูสับ
6. ลาบปลาดุก กับ ยอดสะเดาหรือดอกสะเดา
7. ยอดสะเดาหรือดอกสะเดาเผา กินกับลาบ
8. สะเดาผัดกะปิ หมูสามชั้น
9. ไข่เจียวดอกสะเดา
คุณค่าทางโภชนาการชอง สะเดา
ในสะเดาจะมีสารอาหารต่างๆ เช่น
1. มีแคลเซียม
2. มีธาตุเหล็ก
3. มีเส้นไยอาหาร
4. มีเบตาแคโรทีนสูง
5. มีวิตามินซี
สรรพุคณทางยา การรักษา ของ สะเดา
การใช้ สะเดา เป็นยารักษานั้น จะต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นยาแผนปัจจุบัน หรือ สมุนไพรจะมีผลข้างเคียงเสมอ ตัวอย่างการใช้ สะเดาเป็นยา หรือบำรุงร่างกายแบบต่างๆ
1. นำใบสะเดาต้มจิบน้ำวันละครั้ง ล้างพิษในกระแสเลือด
2. กินยอดอ่อน ช่วยบำรุงสายตา
3. ใช้ใบและก้านต้ม กินครั้งละแก้ว ช่วยให้นอนหลับสบาย
4. ใช้เปลือกถูฟันที่โยกคลอน จะช่วยให้ฟันแข็งแรงขึ้น
5. กินยอดสะเดาลวก รักษาปากเปื่อย แผลในปาก
6. เปลือกสะเดาต้มกับเกลือ อมวันละ 2-3 ครั้ง รักษาเหงือกอักเสบ
7. ใช้เปลือกรักษาโรคสะเก็ดเงิน
8. กำจัดเหา โดยใช้ใบแก่มาโขลกผสมกับน้ำ ทาให้ทั่วศรีษะ หรือรักษาสุนัขเป็นขี้เรื้อน
โทษของ สะเดา
อาหารทุกชนิด จะมีสรรพคุณทางยา หรือมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ขณะเดียวกัน ก็จะมีโทษด้วยเช่นกัน หากทานมากเกินไป กรณีของ สะเดา ก็ เช่นกัน เช่น
1. ระวังการให้เด็กเล็กกินสะเดา อาจจะมีอาการอาเจียน หรือเกิดปัญหากับเลือด
2. สะเดาอาจจะทำให้ท้องอืด
3. ผู้เป็นความดันโลหิตต่ำ ไม่ควรกินสะเดา
4. สตรีหลังคลอดบุตร ห้ามกิน เพราะจะทำให้น้ำนมแห้ง
การปลูก สะเดา
การปลูกสะเดานั้น ควรเลือกสายพันธุ์ที่ตรงกับความต้องการใช้งาน เช่น สะเดามันทวายปลูกไว้กินยอด หรือ ดอก หรือ ใช้ใบ ใช้เมล็ด การปลูก จากกิ่งตอน หรือทาบกิ่งจะได้ผลผลิตเร็วกว่า
การแปรรูป สะเดา เป็นสินค้าแบบต่างๆ
สำหรับสะเดา จะมีการปลูกแล้วนำไปแปรรูปเป็นสินค้าได้หลายอย่าง เช่น
1. ไม้สะเดา ใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำเสาบ้าน ทำฝาบ้าน
- แผ่นไม้สะเดา ยาว 160 ซม. หนา 4 ซม. กว้าง 33-39 ซม. ราคาแผ่นละ 2100 บาท
- แผ่นไม้สะเดา ยาว 180 ซม. หนา 2 นิ้ว กว้าง 35-45 ซม. ราคา 2900 บาท
- เก้าอี้นั่งยาว ไม้สะเดา 1980 บาท
2. ต้นกล้าสะเดาทวายเพราะเมล็ด 20 บาท
3. ดอกสะเดาสด 500 กรัม 39 บาท
4. ดอกสะเดาขายตามตลาดสดกำละ 10 บาท
5. สะเดาทวายแบบเสียบยอด 100 บาท
6. กิ่งตอนสะเดาขมน้อย 95 บาท
7. สารสกัดสะเดา 500 cc 299 บาท
8. น้ำหมักสะเดา 350 มล. 50 บาท
9. สมุนไพรไล่แมลงสะเดา 790 บาท
10. กากสะเดา 1 กิโลกรัม 35 บาท
11. น้ำมันสะเดา 30 ซีซี 240 บาท
12. สะเดาตากแห้ง บดละเอียด 10 กิโลกรัม 200 บาท
13. น้ำส้มควันไม้สะเดา 140 บาท
14. เมล็ดสะเดาบด 1 กก. 139 บาท
15. สบู่สมุนไพรสะเดา รักษาภูมิแพ้ งูสวัด เริม 79 บาท
16. ดินปลูกต้นไม้ผสมเนื้อสะเดา 8 กิโลกรัม 235 บาท
สรุป
สำหรับข้อมูลของ สะเดา ก็หวังว่า คงจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านใดที่สนใจ ทั้งเพื่อนำมาใช้เป็นอาหาร เป็นยารักษา หรือบำรุงร่างกาย หรือใช้ไล่ แมลง หรือการแปรรูปเป็นสินค้าในรูปแบบต่างๆ ไว้สร้างรายได้