Sponsored Ads

มือถือ Android ปัจจุบัน (สิงหาคม 2558) ราคาไม่ถึงพันบาทก็มีขาย ราคาถูกลงมากแต่คุณสมบัติการใช้งานพื้นฐานก็ยังรองรับได้อย่างดี ทำได้ เหมือนอย่างที่มือถืแพงๆ สามารถทำได้เช่นกัน แต่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้อาจจะไม่มีคุณภาพเหมือนรุ่นแพง ความทนทานอาจเป็นเรื่องที่ต้องทำใจ ราคาถูก วัสดุคุณภาพต่ำ เสียเร็ว หรือบริการหลังการขายไม่ดี เป็นเรื่องที่ต้องทำใจ แต่เมื่อมองที่ประโยชน์ที่จะได้ ผู้เขียนมองว่าคุ้มค่ามาก

มือถือราคาหลักหมื่นผ่านไป 6 เดือนราคาก็หายไปไม่น้อยกว่า 3000 บาทแล้ว ดังนั้นหากมือถือราคาประมาณนี้ผ่านไป 6 เดือนอาจจะมีปัญหา ก็ถือว่าคุ้ม สำหรับการใช้งานเพื่อติดต่อธุรกิจ ทำมาค้าขาย หรือให้ลูกหลานใช้ พังก็ไม่เสียดายเงิน แต่ความรู้ที่ได้นั้นสำคัญกว่า เพราะมือถือเหล่านี้ เป็นสมาร์ทโฟน เป็นคอมพิวเตอร์พกพาประเภทหนึ่ง เราสามารถใช้ทำอะไรได้หลายอย่าง ขึ้นอยู่กับแอพที่ติดตั้งลงไป การมีมือถือเครื่องเดียวก็ สามารถใช้ทำมาหากินกันได้สบายๆ เลยทีเดียว อย่างอาชีพนักเขียน มีมือถือเครื่องหนึ่ง คีย์บอร์ดบลูทูธอีกตัว ก็ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์แต่อย่างใด งบ 3000 ก็มีอุปกรณ์ทำมาหากิน หาเงินได้สบายๆ

ในบทความนี้จะเน้นกล่าวถึงคุณลักษณะและคุณสมบัติของมือถือ Android ในงบไม่เกิน 3000 เพื่อให้ผู้อ่านได้มองเห็นว่า เราจะใช้เครื่องพวกนี้ ทำอะไรได้บ้าง เพราะการใช้งานจริงๆ น้อยคนจะศึกษาและทดสอบการใช้งานเหมือนนักเขียน ที่ต้องพยายามศึกษาทุกแอพ ทุกความสามารถ เพื่อ เขียนเป็นบทความ จึงจำเป็นต้องรู้มากกว่าคนทั่วไป

 

มือถือ Android ราคาไม่เกิน 3000 ทำอะไรได้บ้าง

ความสามารถพื้นฐานที่มือถือทั่วไป

ความสามารถพื้นฐานที่มือถือเหล่านี้สามารถทำได้เหมือนกัน ความสะดวกหรือคุณภาพหรืองานบางอย่าง อาจจะไม่ออกมาดี เช่น กล้อง คุณภาพต่ำ ในมือถือราคาถูกอาจจะมีมาให้แค่ 2 MB ภาพถ่ายย่อมสู้รุ่นที่ราคาเกือบ 3000 ให้กล้องมา 8 MB ไม่ได้เป็นต้น

1. การโทรศัพท์ ซึ่งจะมีความสามารถด้านอื่นๆ เพิ่มเติมเช่น การบันทึกเสียงสนทนา บล็อกเบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น

2. SMS การรับส่งข้อความ ฟรี หากส่งให้ผู้รับผ่านแอป Hangouts แต่จะเสียค่าบริการอินเตอร์เน็ต ซึ่งนอกจากข้อความแล้ว ก็ยังสามารถส่งภาพ วิดีโอ เสียง แผนที่ ให้กันได้อีกด้วย ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการส่ง SMS หรือ MMS ผ่านระบบของผู้ให้บริการมือถือ หากเครื่องนั้นๆ เชื่อมต่อเน็ตตลอดเวลาหือ แม้แต่การใช้เน็ตโปรโมชันถูก 20 ชั่วโมง 99 บาท ค่าใช้จ่ายก็ยังถูกกว่ามาก

3. ปฏิทินนัดหมาย สามารถแชร์ให้ผู้ใช้มือถือ Android คนอื่นๆ ได้ อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงาน พนักงานในบริษัท เป็นต้น

4. ดูวิดีโอ Youtube และดูดวิดีโอในเน็ตมาไว้ดูในมือถือก็ยังได้ แปลงเป็น MP3 ก็ได้เช่นกัน

5. ฟังเพลง MP3 โหลดเพลง MP3 จากเน็ตได้ฟรีๆ แปลงเพลง ตัดต่อทำริงโทน สามารถจัดการด้วยมือถือได้เลย

6. ถ่ายภาพ มือถือราคาถูกกล้องจะไม่ชัดเหมือนมือถือราคาสูงบางรุ่น ให้มาตั้ง 8 MB ถ่ายภาพออกมาได้เลยดีทีเดียว

7. สำรองข้อมูลในมือถือ เบอร์โทรศัพท์ ภาพ วิดีโอ ข้อมูลส่วนตัว ไฟล์ต่างๆ ไปไว้ในพื้นที่ฟรี ซึ่งผู้ใช้งานมือถือ Android ทุกคนจะได้รับพื้นที่ฟรี 15 GB หากเชื่อมต่อเน็ตไว้แล้ว ก็จะสามารถส่งข้อมูลในมือถือไปไว้ในพื้นที่ฟรีส่วนตัวเลยได้ แต่ต้องจำอีเมล์และรหัสผ่านให้ได้ ก็จะสามารถดึงข้อมูลกลับมา ได้ เครื่องอาจเสีย หรือซื้อเครื่องใหม่ หรือมีหลายเครื่อง ก็สามารถดูดข้อมูลกลับลงมาไว้ที่เครื่องได้เหมือนกันทุกเครื่อง ขอให้อีเมล์ในมือถือทุกเครื่อง เหมือนกัน ดังนั้น หากใช้ไปสักพักเครื่องพัง ก็ไม่มีปัญหา จัดการอัพข้อมูลไปไว้ในพื้นที่ฟรี ก็ไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะหายไปไหน

8. อ่าน eBook สามารถใช้มือถืออ่านหนังสืออีเล็คทรอนิคได้ ซึ่งปัจจุบันมี eBook มากมายให้ดาวน์โหลดฟรี

9. อ่านข่าวในเน็ต ดูข้อมูลในเว็บไซต์ต่างๆ ในมือถือเหล่านี้จะมีแอป เบราว์เซอร์ เป็นมาตรฐานมากับเครื่อง หากได้เชื่อมต่อเน็ตแล้ว ก็จะสามารถไป ยังเว็บไซต์ต่างๆ ไปอ่านข่าวในไทยรัฐ อ่านกระทู้ใน Pantip ฯลฯ แม้จะเป็นมือถือ Android ราคาไม่ถึงพันก็ทำได้เหมือนกัน

10. รับ ส่ง อีเมล์ การสื่อสารผ่านทางอีเมล์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดต่อกัน ซึ่งนิยมใช้การติดต่อที่เป็นทางการหรือต้องการหลักฐานในการ ติดต่อกรณีทำธุรกิจมากกว่าการติดต่อประเภทอื่นๆ คนยุคใหม่รวมทั้งคนรุ่นเก่าด้วยต้องใช้ให้เป็น เพราะการติดต่อไม่ได้แค่มีการโทรศัพท์อีกแล้ว มี หลายช่องทาง

11. กระจายสัญญาณเน็ตให้เครื่องอื่นหรือทำไวไฟฮอตสปอทนั่นเอง เพื่อให้มือถือเครื่องใกล้ๆ สามารถใช้อินเตอร์เน็ตร่วมกันได้

12. การใช้งานแผนที่ มีประโยชน์มาก ทั้งช่วยนำทางขณะเดินทาง หรือหากต้องการไปยังสถานที่ใดๆ ก็ตาม สามารถส่งตำแหน่งที่ตัวเองอยู่ให้เพื่อนที่ ใช้มือถือ Android ด้วยกันได้ พ่อแม่ลูก ลูกค้า อยู่ไหน แจ้งตำแหน่งกันได้ หากันเจอ สะดวก อยู่ที่ไหนก็ไม่ต้องกลัวหลงทางหากมีสัญญาณมือ ถือ

13. ค้นหาข้อมูลประเภทต่างๆ อยากรู้เรื่องอะไร โรคภัยไข้เจ็บ ความรู้ด้านวิชาการ อาชีพ ฯลฯ สามารถค้นหาจากมือถือได้เลย อาจจะค้นหาเฉพาะ ภาพ วิดีโอก็เช่นกันอยากศึกษาความรู้เรื่องใด หรือความบันเทิงก็สามารถดูผ่านวิดีโอได้ทั้งหมด

14. การบันทึกเสียง จะมีแอปที่ช่วยอัดเสียงได้

15. นาฬิกาบอกเวลา ใช้เป็นนาฬิกาปลุก

ความสามารถเสริมที่สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยแอปหลักแสน

นอกจากความสามารถด้านพื้นฐานแล้ว เราสามารถใช้มือถือ Android ทำอะไรต่อมิอะไรได้อีกมาก เพราะมีแอปเป็นแสนรอให้ดาวน์โหลดมาติดตั้ง เพื่อความความสามารถด้านต่างๆ เช่น
1. ติดตั้ง Line เพื่อแชท สนทนากัน ส่งรูป ส่งวิดีโอ คุยแบบเห็นหน้า
2. ติดต้องแอป Facebook เพื่อใช้งาน Facebook
3. ติดตั้งแอป Office เพื่อจัดการกับไฟล์เอกสาร Word, Excel หรือ PowerPoint
4. ติดตั้งแอป Google แปลภาษาไว้แปลภาษาต่างชาติเป็นภาษาไทย
5. ติดตั้งแอปแต่งภาพ ไว้แต่งภาพถ่าย ลดขนาดภาพ พิมพ์ข้อความลงบนภาพ
6. ติดตั้งแอปช่วยจัดการธุรกรรมการทางเงิน แอปธนาคารต่างๆ
7. ติดตั้งแอป Blogger ช่วยทำเว็บบล็อก
ฯลฯ

แอปที่จะช่วยเสริมการทำงานด้านต่างๆ ของมือถือ Android มีเป็นแสนแอป ซึ่งแม้จะเป็นมือถือราคาแสนถูกก็สามารถใช้งานได้ นอกเสียจากบาง แอปอาจจะต้องการเสป็คเครื่องที่ค่อนข้างสูง อย่างพวกเกมต่างๆ แต่เชื่อไหมว่า ความสามารถต่างๆ ของมือถือที่ผู้เขียนอธิบายไปข้างต้น น้อยคนจะ ได้ใช้ เพราะพอเอาเข้าจริงๆ บางคนก็เล่นแค่ไม่กี่แอพเท่านั้นเอง เล่น Line, Facebook, ท่องเน็ตอ่านข่าว, โทรศัพท์, เช็ค อ่าน ส่งอีเมล์, ดูวิดีโอ Youtube, ใช้แผนที่บ้าง, ฟังเพลง เป็นต้นๆ รวมๆ แล้วไม่น่าถึง 10 แอป

จุดเด่น จุดด้วยของมือถือ Android ราคา 1000-3000 บาท

มือถือเหล่านี้ราคาประหยัด แต่ก็มียี่ห้อดังลงมาทำตลาดแช่งขันกันทั้งนั้น เพียงแต่ยี่ห้อดัง อย่าง Samsung เสป็คเรื่องจะต่ำกว่าเมื่อเทียบกับยี่ห้อ ไม่ดัง ซึ่งก็มีผู้ผลิตรายอื่นนอกเหนือจาก Samsung เช่น Lenovo, Acer ที่ลงมาทำตลาด มือถือของผู้ผลิตเหล่านี้บางรุ่นราคาสูงแต่ตกรุ่นก็นำมาลดราคา ซึ่งคุณภาพการผลิตค่อนข้างดีทีเดียว

มือถือราคาประมาณนี้ เหมาะสำหรับการใช้งานระดับพื้นฐานเท่านั้น หากต้องการระดับสูงขึ้นมาอีกนิดก็ต้องเล่นรุ่นที่ราคาใกล้ๆ 3000 บาท ก็จะ ได้รุ่นที่รองรับการใช้งานได้อีกนาน ถ้าไม่พังเสียก่อน เช่น กล้องความละเอียดสูง 5-8 Mb หน่วยความจำภายใน 8 GB แรม 1 Gb แบตเตอรี่ความจุ สูงขึ้น เป็นต้น

มือถือราคาประมาณนี้ต้องทำใจในเรื่องคุณภาพ แม้จะเป็นยี่ห้อดังก็ตาม หลายยี่ห้อเหมือนทำมาให้มีวันหมดอายุ ต้องวัดดวงเหมือนกัน แต่หาก มองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่าได้ประสบการณ์ในการใช้งาน หากใช้ในทางธุรกิจ ก็ถือว่าคุ้มแต่นอน เช่น ใช้ Line เพื่อติดต่อ สั่งซื้อ รับออเดอร์สินค้า เป็นต้น อย่างผู้เขียนจะใช้งานค่อนข้างคุ้ม เพราะจะศึกษาการใช้งานแล้วนำมาเขียนบทความ หารายได้จากโฆษณา จะใช้รุ่นไหน ก็ช่วยทำเงินได้ทุกรุ่น

ราคาที่ตกลงอย่างแรง หากจอแตก หรือมีชิ้นส่วนชำรุด ค่าซ่อมแพงจนบางทีซื้อใหม่ดีกว่า ส่วนที่เสียบ่อยๆ เช่น ที่ชาร์จมีปัญหาชาร์จไฟไม่เช้า หรือถ่ายโอนข้อมูลไม่ได้ จอแตกเพราะทำตก หากเครื่องชำรุด ราคายิ่งตกมาก ร้านซ่อมมือถือบางร้านรับซื้อแค่ 4-500 บาทเท่านั้นเอง จริงๆ ก็ยังใช้ งานได้ แต่ค่าเปลี่ยนจอไม่คุ้มซ่อม หากเครื่องมีปัญหา ก็เตรียมทิ้งได้ทันที หากใช้ดี ก็ถือว่าโชคดี

การเลือกรุ่นที่หน่วยความจำในตัวเครื่องน้อยๆ เช่น 4 Gb ต้องไว้ใช้เฉพาะแอปพื้นฐานจริงๆ เนื่องจากแอปต่างๆ จะมีการอัพเตทอยู่เรื่อยๆ ขนาด ไฟล์ก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ดังนั้นอาจจะมีปัญหากับพื้นที่เก็บข้อมูล การซื้อรุ่นที่หน่วยความจำในเครื่องมากหน่อยสัก 8 GB ราคาส่วนใหญ่เกือบ 3000 บาท แต่ในอนาคตดีกว่าแน่นอน พื้นที่ไม่เติมง่ายๆ

อุปกรณ์เสริมที่ควรมีสำหรับเครื่องในงบไม่ถึง 3000

อุปกรณ์ที่ควรมีเพิ่มเติมเช่น เคส เพื่อช่วยป้องกัน กรณีตกหล่น ช่วยได้มาก การตกทีเดียวอาจจะหมายถึงต้องทิ้งหรือขายทิ้งแบบถูกๆ ดังนั้นต้อง พยายามปกป้องเครื่องให้ดี

พาวเวอร์แบงก์ เป็นอุปกรณ์ที่ควรซื้อเพิ่ม เพื่อช่วยชาร์จแบตเตอรี่ กรณีใช้งานนอกสถานที่ หากปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงบ่อยๆ แบตเตอรี่จะ เสื่อมเร็ว

การหาข้อมูลก่อนซื่้อมือถือในงบไม่เกิน 3000

ปัจจุบันข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับมือถือ การรีวิวการใช้งาน ปัญหาแต่ละรุ่น เราสามารถค้นหาได้จาก Google จึงควรหาข้อมูลก่อน เพื่อศึกษาข้อดี ข้อ เสียของแต่ละรุ่น การใช้บริการกับศูนย์บริการ การซ่อม ฯลฯ ในการค้นหาข้อมูล ก็สามารถพิมพ์คำค้นหาได้ง่ายๆ เช่น รีวิว ยี่ห้อ รุ่นของมือถือ หรือ อาจจะมีคำว่า Pantip ต่อท้าย เพื่อไปค้นหาในกระทู้ใน Pantip หากเครื่องมีปัญหา ก็มักจะมีคนมาร้องเรียนหรือแนะนำปัญหา เพื่อผู้บริโภคด้วยกันจะ ได้มีข้อมูลก่อนจะซื้อมาใช้งาน

การสำรองข้อมูลในมือถือราคาไม่ถึง 3000

สำหรับมือถือ Android ทุกรุ่น จะสามารถใช้บริการดีๆ ของ Google ได้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นที่ดีมากก็คือ Drive หรือพื้นที่เก็บไฟล์ฟรีของ Google ที่จะมองให้ผู้ใช้มือถือ Android ทุกคน คนละ 15 GB และเราก็สามารถสำรองหรือถ่ายโอนข้อมูล ไฟล์ต่างๆ จากมือถือของเราไปเก็บไว้ในพื้นที่ของเรา ได้ ทั้งเบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ การติดต่อ ภาพ วิดีโอ ไฟล์ต่างๆ ฯลฯ หากสำรองไว้บ่อยๆ ขอเพียงจำอีเมล์และรหัสผ่านได้ ก็จะสามารถถ่ายโอนข้อมูล กลับมาไว้ในมือถือได้เหมือนเดิม

ในอนาคตมือถืออาจจะมีปัญหา หรือซื้อเครื่องใหม่ก็จะสามารถถ่ายโอนข้อมูลที่เก็บไว้ในพื้นที่ฟรีหรือไดรฟ์ มาไว้ในมือถือได จะมีกี่เครื่องก็สามา รถก็อปปี้กลับมาได้ทั้งหมด ดังนั้นการใช้มือถือแม้จะเป็นราคาถูกไม่ถึง 3000 บาท ก็ไม่ต้องกังวลมาก เครื่องมีปัญหา เป็นเรื่องปกติสำหรับมือถือ Android แต่ความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลและการนำกลับมาใช้ จะช่วยให้สามารถมือถือ Android ได้อย่างมีความสุขมากขึ้น อย่างแน่นอน

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :