Sponsored Ads

บทความแนะนำคุณสมบัติที่ควรรู้ของมือถือ Andrid ในราคาไม่เกิน 3000 บาท ที่มีจำหน่ายในช่วงนี้ (สิงหาคม 2558) เพื่อเป็นแหล่งความรู้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหามือถือแอนดรอยด์สักเครื่องไว้ใช้งานพื้นฐานทั่วไป ซึ่งมือถือในงบประมาณนี้ มีหลายรุ่นที่รองรับได้อย่างดี ทั้งยี่ห้อดังและยี่ห้อ เกิดใหม่ ซึ่งหลายรุ่นเสป็คดีมาก เมื่อเปรียบเทียบกับที่ผ่านๆ มา นับวันมือถือประเภทนี้ราคายิ่งถูกแต่คุณสมบัตินั้นน่าสนใจมากทีเดียว ซึ่งเราควรจะรู้ เกี่ยวกับคุณสมบัติเหล่านั้นก่อนจะเลือกซื้อมาใช้งาน

มือถือ Adroid ราคาประหยัดจะมีตั้งแต่ราคาไม่ถึงพันบาทถึง 3000 บาท เป็นมือถือราคาประหยัด รองรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป แต่มีบางรุ่นที่เส ป็คดีมาก อย่าง AIS Lava Pro จอ 4.5 นิ้ว รองรับการใช้งานระดับสูงได้สบายๆ เช่น กล้องหลัง 8 MP กล้องหลัง 5 MP แรม 1 GB ซีพียู Quade Core พื้นที่เก็บข้อมูล 8 GB สามารถหาได้ในราคาไม่ถึง 3000 บาท ถ้าเป็นเมื่อก่อน ราคาจะสูงกว่านี้มากไม่น้อยกว่าเท่าตัวเลยทีเดียว

แต่มือถือยี่ห้อใหม่ๆ หลายรุ่นแม้จะมีเสป็คค่อนข้างสูง แต่ความทนทานนั้นดูจะสวนทางกัน บางยี่ห้อ บางรุ่นไม่กี่วันก็พัง หรือมีปัญหาในการใช้งาน แต่โชคดีที่ทุกวันนี้ ข้อมูล ต่างๆ สามารถหาได้ง่ายในอินเตอร์เน็ต แต่ละรุ่นที่มีปัญหามักจะมีการนำมาโพสต์ลงกระทู้ในเว็บไซต์ดัง อย่าง Panti รุ่นไหนมีปัญหา จึงหาข้อมูลไม่ยาก นอกเสียจากจะเป็นรุ่นใหม่ๆ ก็ต้องมีหนูทดลองยากันก่อน

ในราคาไม่เกิน 3000 บาท ก็มีบริษัทมือถือยี่ห้อดังผลิตสินค้าลงมาทำตลาด ทั้ง Samsung, Acer, Asus, Lenovo ฯลฯ บางบริษัทก็ผลิตรุ่นใหม่เพื่อ ขายในราคาถูกโดยเฉพาะ บางบริษัทก็นำบางรุ่นมาลดราคาแต่เสป็คค่อนข้างต่ำ ยี่ห้อดี แต่เสป็คต่ำ และแม้จะเป็นบริษัทมีชื่อเสียง แต่สินค้าหลายรุ่น จากบริษัทเหล่านี้ก็สร้างปัญหาไม่น้อยเหมือนกัน มือถือในราคาไม่เกิน 3000 หลายรุ่นจากที่อ่านกระทู้ต่างๆ ในเน็ต เหมือนว่าต้องวัดดวงเหมือนกัน ถ้าต้องการความสบายใจก็พยายามเลือกยี่ห้อตลาดไว้ก่อน

ตัวอย่าคุณสมบัติต่างๆ ที่จะพบในมือถืองบไม่เกิน 3000 บาท

CPU

มือถือ Android เป็นสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์พกพาประเภทหนึ่ง จึงมีซีพียูเหมือนคอมพิวเตอร์แต่ออกออกแบบสำหรับอุปกรณ์พกพาอย่างมือ ถือหรือแท็บเล็ต ตัวอย่างซีพียูที่ใช้ในมือถือมีหลายยี่ห้อเช่น Intel, Cortex, MTK หรือ ARM ซีพียูในมือถือแต่ละยี่ห้อจะไม่เหมือนกัน บางรุ่นใช้ซีพียูความ เร็วสูงราคาก็สูงตามไปด้วย บางรุ่นใช้ซีพียูความเร็วต่ำราคาก็จะประหยัดกว่า จะเลือกแบบใดก็ต้องดูการใช้งาน แต่ถ้าเลือกได้ ก็เลือกเท่าที่จะสามารถซื้อ ได้ รุ่นราคาสูงเกือบ 3000 บาท

แรมหรือหน่วยความจำ

แรมหรือหน่วยความจำของเครื่อง ในมือถือราคาไม่เกิน 3000 จะมี 2 แบบ ขนาด 512 MB และ 1 GB รุ่นราคาแพงเกิน 2000 จะให้แรม 1 GB ยกเว้น Samsung เสป็คต่ำแต่ราคาแพง แต่ความเชื่อมั่นในการใช้งานสูงกว่า เสป็คต่ำ แต่ใช้งานสบายใจกว่า มือถือยี่ห้อใหม่ ซึ่งให้ซีพียูความเร็วสูง แรม เยอะ แต่ต้องวัดดวงในการใช้งานพอสมควร ต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนซื้อ สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป แรม 512 MB ก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อใช้งานไป สักพักเครื่องเริ่มทำงานช้า ก็ต้องค่อยเคลียหน่อยความจำบ่อยๆ

พื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง

พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่องจะมี 2 ขนาด คือ 4 GB และ 8 GB โดยขนาด 8 GB จะพบในมือถือเสป็คสูงราคาเกือบ 3000 บาท หากมีงบควรเลือก พื้นที่เก็บข้อมูลมากๆ ไว้ก่อน เพราะรุ่นที่ให้พื้นที่มาแค่ 4 GB แม้จะสามารถใช้หน่วยความจำภายนอกได้ แต่แอปส่วนใหญ่จะมีการอัพเดทเพิ่มขนาดไฟล์ ไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องมีปัญหาพื้นที่เหลือน้อยอยู่ดี อย่างรุ่น 4 GB เฉพาะพื้นที่เก็บไฟล์ระบบ ไฟล์ของ Android ก็ใช้ไปประมาณ เกือบ 3 GB เช้าไปแล้ว จึงเหลือพื้นที่ 1 Gb กว่าๆ เท่านั้นเอง หากเน้นใช้มือถือพื้นฐานทั่วไป โทรศัพท์ เล่นเน็ต Line Facebook ถ่ายภาพ ไม่มีการติดตั้งแอปเพิ่ม เน้นพื้นฐาน เท่านั้นก็ใช้ได้อีกนาน หากพื้นที่เต็มก็ลบแอปบางตัวที่ไม่ใช้ออกไปได้

จอ ขนาดจอ ความละเอียดจอภาพ

จอภาพมือถือ Android ราคาไม่เกิน 3000 บาท มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 3.5", 4", 4.5", 5", 5.5" และ 6" เลยทีเดียว จะเลือกขนาดใดก็พิจารณา การใช้งานและการพกพา หากเน้นใช้พื้นฐาน โทรศัพท์ เล่น Line เป็นหลัก หน้าจอขนาดเล็ก ก็ไม่เป็นปัญหา แต่หากต้องอ่านข้อความจากหน้าจอมากๆ อ่านข่าว เล่นเฟสบุ๊ค ดูภาพ ก็ต้องเลือกรุ่นที่หน้าจอใหญ่สักหน่อย เลือกให้เหมาะสมกับสายตา อ่านง่ายสบายตา และมีความละเอียดที่ยอมรับได้ รุ่น ราคาเกิน 2000 ยี่ห้อดังบางรุ่น จอมีขนาดเล็กแค่ 4" แต่บางรุ่นให้จอใหญ่ 4.5"-5.5"

นอกจากขนาดจอแล้วก็จะมีในเรื่องความละเอียด เช่น 480 x 800, 960 x 540 เป็นต้น จอที่มีความละเอียดสูง ก็จะมีความคมชัด หากเน้นอ่าน ข้อความจากหน้าจอเป็นหลัก ก็ต้องพิจารณาตรงนี้ให้ดี ลองเปิดอ่านข้อความ โดยเฉพาะการเข้าเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อดูว่า ข้อความมีความคมชัดมากพอ หรือไม่

แบตเตอรี่มือถือ

คุณสมบัติ 4 ประการแรกที่อยากจะให้พิจารณาเพราะมีความสัมพันธ์กันก็คือ ซีพียู หน่วยความจำ หน้าจอ และขนาดแบตเตอรี่ ต้องเลือกให้ลงตัว ซี พียูความเร็วสูง แรมเยอะ หน้าจอใหญ่จะใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น ก็ต้องเลือกรุ่นที่แบตเตอรี่ความจุสูงเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะหมดเร็วมาก ซึ่งมือถือราคา ประมาณนี้ แบตแค่พอใช้ได้ทั้งวันแค่นั้นหรืออาจจะไม่ถึง พาวเวอร์แบงก์เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องซื้อเพิ่ม ไว้ชาร์จขณะพกพา

แบตเตอรี่สำหรับมือถือจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Li-ions และ Li-Polymer แบบหลังประสิทธิภาพดีกว่า จะพบในมือถือบางรุ่นที่มีราคาใกล้เคียง 3000 บาท มือถือส่วนใหญ่จะใช้แบตเตอรี่แบบถอดได้ หากเครื่องใช้งานดีไม่มีปัญหา การหาซื้อแบตเตอรี่สำรองไว้ก็เป็นเรื่องดี เพราะบางรุ่นผ่านไปแค่ ครึ่งปี ก็หาซื้อไม่ได้แล้ว ไม่มีขาย

สัญญาณมือถือ เครือข่ายมือถือ

มือถือแต่ละรุ่นจะรองรับเครือข่ายมือถือต่างกัน โดยจะแยกเป็น 2 กลุ่มชัดเจนก็คือ True/dtac และ Ais ก่อนซื้อก็ต้องดูว่า พื้นที่ที่อยู่อาศัยนั้นรองรับ สัญญาณมือถือค่ายใดได้ดีกว่า เพื่อจะได้เลือกได้ตรงตามต้องการ นอกจากนี้ก็ต้องดูแพ็คเกจซิมใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วย อย่างของ True จะมีแพ็คเกจ 199 บาท ใช้ได้ไม่จำกัด 1 เดือน ซึ่งค่ายมือถือ dtac และ Ais ไม่มีโปรโมชันคล้ายกันแบบนี้ หากเน้นใช้งานอินเตอร์เน็ตเล่น Line อ่านข่าวบ้าง เช็คเมล์บ้าง ไม่ได้ดูวิดีโอ Youtube หรือโหลดไฟล์หนัก การใช้แพ็คเกจแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว

ตัวอย่างข้อมูลเครือข่ายมือถือแบบต่างๆ

1. 2G GSM 850/900/1800/1900 จะหมายถึงรองรับเครือข่าย 2G หรือสามารถเชื่อมต่อเน็ตได้อย่างมากแค่ระดับ Edge หาเน้นใช้โทรศัพท์ก็ ไม่มีปัญหา แต่หากใช้เน็ต จะค่อนข้างช้า สำหรับการใช้งานที่ต้องโหลดข้อมูลมากๆ อย่างการดูวิดีโอ
2. 3G WCDMA 850/2100 เครือข่ายแบบนี้จะรองรับ 3G ของ True และ Dtac เป็นหลัก หากซิมที่ใช้งานอยู่เป็นของ Ais ก็ไม่ควรเลือกซื้อมือถือแบบนี้ ส่วน 2100 เป็นเครือข่าย 3G ซึ่งมือถือทุกค่ายรองรับ แต่ยังให้บริการไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ก็ต้องศึกษาก่อนว่า พื้นที่อยู่อาศัยรองรับ 3G 2100 หรือไม่ ไม่เช่นนั้นก็จะใช้ไม่ได้ ปัจจุบันบริษัทมือถือต่างทยอยผลิตมือถือยี่ห้อของตนเองออกมาขาย ซึ่ง
3. 3G WCDMA 900/2100 เครือข่ายนี้จะรองรับ 3G ของ Ais เป็นหลัก หากใช้ซิมของ True หรือ Dtac จะไม่รองรับ
4. 3G WCDMA 850/900/1900/2100 หากระบุเสป็คแบบนี้จะรองรับ 3G ทุกค่ายเลยทีเดียว เช่นในมือถือ ASUS Zenfone C
5. 3G 2100 รองรับ 3G 2100 ทุกค่ายทั้ง True, Dtac, Ais และ TOT3G แต่ก็ต้องดูว่า ตำแหน่งที่เราอยู่นั้น มีสัญญาณหรือไม่ เพราะ 3G แบบ 2100 ของแต่ละค่ายมือถือ ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ หากต้องเดินทางไปไหนมาไหน อาจจะมีปัญหา

กล้องในมือถือ Android ราคาไม่เกิน 3000

การถ่ายภาพเป็นสิ่งที่เรามักจะทำบ่อยๆ สำหรับการใช้งานมือถือ หากเน้นถ่ายภาพบ่อยๆ จำเป็นต้องเลือกรุ่นที่กล้องมีความละเอียดสูงพอ คุณภาพ ภาพตรงตามต้องการ บางรุ่นให้กล้องหน้า 5 MB ถ่ายภาพ Selfie หรือถ่ายภาพตัวเองได้ชัดดี ส่วนกล้องหลังบางรุ่นจะให้มามากถึง 8 MB (AIS Lava Pro 4.5) ถ่ายรูปทั่วไปชัดเช่นกัน การเลือกซื้อมือถือที่เน้นถ่ายภาพต้องหาข้อมูลก่อน จะได้ไม่ผิดหวัง และควรเลือกรุ่นที่มีทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง เพราะกล้องหน้าใช้แชทหรือวิดีโอคอลได้

สำหรับมือถือบางรุ่นจะมีการเพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ให้กับกล้องเช่น การถ่ายภาพแบบ Panorama ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ แต่ราคาเครื่องจะใกล้ เคียง 3000 บาท สำหรับมือถือมียี่ห้อจะให้กล้องความละเอียดไม่มากนัก อยู่ที่ 3-5 MB เท่านั้น ทั้งนี้ต้องดูความเร็วในการจัดเก็บข้อมูลด้วย บางรุ่น ถ่ายแล้วต้องรอสักพักเพื่อจัดเก็บไฟล์ ถ่ายรัวๆ ไม่ได้

ความสามารถในการเชื่อมต่อ

มือถือ Android ส่วนใหญ่จะรองรับการเชื่อมต่อผ่าน WiFi, Bluetooth, มีบางรุ่นอย่าง ASUS Zenfone C จะรองรับการใช้งาน OTG เราจะสามารถนำ แฟลไดรว์มาต่อกับที่ชาร์จเพื่อถ่ายโอนข้อมูลได้ ต่อเมาส์ คีย์บอร์ดบ้าน ถ่ายโอนข้อมูลจากกล้องดิจิตอลได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้จะพบในมือถือ Android ราคา แพงๆ เป็นส่วนใหญ่

การรับประกันเครื่อง

ในเรื่องการรับประกันนั้นก็ต้องหาข้อมูลอยู่เหมือนกัน เพื่อความแน่ใจควรซื้อจากศูนย์ เพราะการซื้อจากตู้หรือร้านมือถือทั่วไป แม้จะเป็นเครื่องใหม่ แต่ประกันอาจจะใกล้หมดแล้ว เพราะขายไม่ค่อยออก อยู่ในร้านมาเกือบปี ประกันจริงๆ ก็จะเหลือไม่ถึงปี ต้องตรวจสอบจากหมายเลข EMEI หรือ SN ประจำเครื่อง

หน่วยความจำภายนอก

มือถือ Android จะรองรับการใช้งานกับหน่วยความจำภายนอกอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะรองรับ SDcard 32 GB- 64 GB แต่ก็มีบางรุ่นที่ไม่รองรับ ให้มา แค่ไหนก็ใช้ได้แค่นั้น

ความทนทาน ปัญหา ที่เกิดกับเครื่อง

มือถือ Android ราคาไม่เกิน 3000 ถือเป็นมือถือราคาประหยัด ดังนั้น วัสดุอุปกรณ์จึงค่อนข้างต่ำ บางรุ่นเสป็คดี แต่ไม่ทนทาน ใช้ไม่นานก็มีปัญหา บางรุ่นยี่ห้อดี แพงกว่า เสป็คต่ำ เป็นเครื่องตกรุ่น ที่ลดราคาลงมา แต่ใช้งานได้ดี ดังนั้น ก่อนจะซื้อรุ่นใด ควรหาข้อมูลก่อน โดยเฉพาะเครื่องยี่ห้อใหม่ๆ ซึ่งมักจะมีปัญหา ใช้ดีในช่วงแรกๆ แต่ไม่กี่เดือนมีปัญหา การเลือกยี่ห้อและรุ่นที่ไว้ใจได้ แม้คุณสมบัติ เสป็คอาจจะต่ำก็ยังดีกว่า เพราะมือถือราคาเท่านี้ เหมาะสำหรับการใช้งานพื้นฐาน แม้เสป็คจะต่ำ แต่ใช้งานได้ดี หากเครื่องทน ไม่มีปัญหาจุกจิก ก็ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเลยทีเดียว

บทสรุป

1. มือถือในงบไม่เกิน 3000 เป็นมือถือ Android เพื่อใช้งานระดับพื้นฐาน ใช้โทรศัพท์ ดูวิดีโอ Youtube อ่านข่าว ค้นหาข้อมูลในเน็ต ใช้งานแผนที่ เล่น Line เล่น Facebook มีกล้องถ่ายแค่พอได้ ยกเว้นบางรุ่นที่ใช้กล้อง 5 Mb ขึ้นไป ภาพมีความละเอียดพอจะเอาไปใช้งานบางอย่างได้ เล่นเกมเบาๆ ได้ เป็นต้น เป็นมือถือที่อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นในการใช้งานได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะยี่ห้อเกิดใหม่ บางรุ่นเสป็คดี กล้องดี แต่ใช้งานได้ไม่กี่วัน กล้องมี ปัญหา

2. ราคาที่ต่ำ คุณภาพก็ต้องต่ำตามลงไปเป็นธรรมดา ให้เสป็คมาแบบขาดๆ เกินๆ บางรุ่นให้ซีพียูความเร็วสูง จอใหญ่ แต่แบตเตอรี่น้อยไป ก็จะมีปัญหา แบตเตอรี่หมดเร็วตามมา เป็นต้น จึงต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับมือถือรุ่นที่สนใจ ศึกษาข้อดีข้อเสียก่อนจะตัดสินใจซื้อ ซึ่งปัจจุบันนี้เราสามารถค้นหาบท ความที่เกี่ยวข้องได้มากมาย โดยค้นหาใน Google พิมพ์คำว่า รีวิว ตามด้วยี่ห้อและรุ่นมือถือ หรือ ยี่ห้อ รุ่นมือถือ ตามด้วย Pantip เพื่อดูว่ามีการร้องเรียน แจ้งปัญหา แนะนำข้อดีข้อเสียเกี่ยวกับรุ่นนั้นๆ อย่างไรบ้าง เป็นต้น

3. มือถือในราคาไม่ถึง 3000 มียี่ห้อดังลงมาทำตลาด แทบทุกราย แต่ยี่ห้อดังอย่าง Samsung เสป็คจะต่ำกว่าเจ้าอื่น แต่ราคาสูสีกัน บางรุ่นอย่าง Samsung Galaxy S Duo เสป็คต่ำมาก ซีพียู Single Core เดี๋ยวนี้มัน Quade Core กันไปแล้ว แต่ก็มีข้อดีที่ทำตลาดมานาน มีปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องอย่าง ไรบ้าง ก็ยังสามารถหาข้อมูลได้ ก็ดีกว่ายี่ห้อใหม่ รุ่นใหม่ เสป็คแรงๆ แต่ต้องวัดใจว่าจะอยู่กันได้กี่วัน กี่เดือน
- ASUS : Asus ZenFone C มือถือยี่ห้อดี เสป็คดี กล้องพอใช้ ใช้ OTG ได้ จับภาพหน้าจอง่าย
- SAMSUNG : Samsung Galaxy Ace 4 มือถือยี่ห้อดัง เสป็คต่ำ จอเล็ก ราคาสูง ประสิทธิภาพดี เป็นเจ้าตลาดที่คนเชื่อมั่น รองรับการใช้งานพื้นฐานได้ เป็นอย่างดี
- I-Mobile: i-mobile i-Style 7.7
- Lenovo: Lenovo A820 4GB 4.5 inch
- Alcatel: Alcatel OneTouch Pop D5
- Acer: Acer Liquid Z220 8GB
- Huawei: Huawei G510 / U8951

มือถือ Android เป็นสมาร์ทโฟนที่มีประโยชน์ แต่ในงบไม่เกิน 3000 ต้องหาข้อมูลให้ดี เลือกรุ่นที่มีปัญหาในการใช้งานน้อยที่สุด ยี่ห้อดังบางรุ่น แม้ เสป็คเครื่องอาจจะต่ำ ก็ตาม กรณีเป็นการใช้งานระดับพื้นฐานทั่วไป จะยังใช้งานได้ดีกว่ารองรับการใช้งานพื้นฐานได้ยาวๆ คุ้มค่าเงินที่จ่ายไป ย่อมจะดี กว่าการเลือกยี่ห้อใหม่ เสป็คดี แต่อาจใช้ได้ไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน

มือถือ Android ปัญหาเยอะ เพราะผู้ผลิตเยอะ แต่ละรายก็ปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ให้มีคุณสมบัติเฉพาะ เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง การปรับแต่งที่ไม่ สมบูรณ์ก็ย่อมต้องเกิดปัญหาตามมา จะรุ่นแพงรุ่นถูกก็มีโอกาสเกิดปัญหาทั้งนั้น การซื้อมาใช้งานอาจจะมีปัญหา แต่ก็จะได้มีประสบการณ์ในการใช้งาน เพราะมือถือเหล่านี้ เป็นคอมพิวเตอร์พกพา อีกประเภทหนึ่ง สามารถทำอะไรได้เยอะมาก มีประโยชน์ต่อชีวิตประจำวันมาก หากใช้ให้ครบๆ ทุกความ สามารถ

 

บทความเนื้อหาใกล้เคียงกัน :