Sponsored Ads

ผู้เขียนอยู่กับคอมพิวเตอร์มาโดยตลอด แกะ แงะ รื้อ เป็นประจำ แต่แท็บเล็ตนั้นยังไม่เคยลองทำสักครั้ง หลังจากที่แท็บเล็ตมีปัญหา สู้ค่าซ่อมไม่ไหว เพราะคิดแพงมาก ทั้งๆ ที่อะไหล่ไม่กี่บาท จนต้องตัดสินใจลองรื้อเอง ทำให้รู้ว่าบางอย่างเราก็สามารถซ่อมเองได้ไม่ยาก เลย ไม่จำเป็นต้องเสียเงินหลักพันให้กับช่างที่เอาเปรียบคิดค่าแรง ค่าอะไหล่มหาโหด บทความนี้จะแนะนำวิธีรื้อเครื่อง Asus fonepad เพื่อดูอุปกรณ์ข้างใน ไม่ยากเลย

 

อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้

สำหรับอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในการรื้อเครื่อง แกะเครื่องจะมีดังนี้
1. ชุดซ่อมโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต สั่งซื้อได้จาก lazada ไม่แพง เลือกให้ตรงกับรุ่นของเครื่องที่เราใช้อยู่ ในชุดจะมีที่แกะฝาเครื่อง ไขควงขนาดเล็กไว้ถอดสกรูตัวเล็กๆ ที่ยึดเมนบอร์ดกับตัวเครื่อง


2. ในกรณีทำจอทัชสกรีนแตก การสั่งซื้อจอเองจะได้ชุดซ่อมมาด้วยกัน จึงไม่จำเป็นต้องซื้อชุดซ่อม


3. กรณีจอทัชสกรีนแตก จำเป็นต้องมีเครื่องมือสำหรับเป่าให้กาวร้อน เพื่อแกะหน้าจอ หากมีไดร์เป่าผม ก็สามารถใช้งานได้ ไม่ต่าง กัน


4. กล้องถ่ายภาพ ไว้ถ่ายภาพส่วนต่างๆ ก่อนจะทำการแกะ รื้อ อาจถ่ายเป็นวิดีโอเก็บไว้ก็ได้ หากกลัวว่าจะไม่สามารถประกอบเครื่องได้ เหมือนเดิม
5. ยางลบ ไว้ทำความสะอาดสายแพร์ต่างๆ

การแกะเครื่อง Asus fonepad

เมื่อมีอุปกรณ์พร้อมการแกะเครื่องก็จะเริ่มจากส่วนต่างๆ ไปตามลำดับ ผู้เขียนจะอธิบายบางส่วนที่อาจจะเสีย
1. การแกะเครื่องจะใช้อุปกรณ์สำหรับแกะเครื่อง ค่อยแกะ โดยรูดไปรอบตัวเครื่อง ฝาครอบด้านหลังก็จะหลุดออกมา


2. การแกะแบตเตอรี่ค่อยๆ งัด ซึ่งจะมีการทากาวติดแบตเตอรี่ไว้กับเครื่อง


3. การถอดสายแบตเตอรี่ค่อยๆ ดันปลั๊กเสียบออกมา จำตำแหน่งให้ดีว่าถอดจากตรงจุดใด แต่ไม่ยาก เพราะหากผิดด้านจะไม่ลงล็อก ต้องใช้ความระมัดระวัง และควรใช้พลาสติกแข็งแทนโลหะ


4. กรณีจอทัชสกรีนแตก แก้ไขได้ง่ายๆ โดยขันสกรู 2 ตัวนี้ออก แล้วแกะอุปกรณ์ชิ้นนี้ออกไป เป็นลำโพง ไม่จำเป็นต้องปลดสายแพร์หรือแม้แต่ แบตเตอรี่


5. ถอดสกรูเสร็จแล้ว ค่อยๆ งัดอุปกรณ์ตัวนี้ออกไป


6. จะพบกับสายแพร์สำหรับต่อจอทัจสกรีน หากจอแตก ก็นำจอใหม่มาใช้เสียบสายแพร์เข้าไป แล้วแตะที่หน้าจอทัชสกรีนตัวใหม่ก็จะใช้ งานได้ทันที หากต้องการแกะหน้าจอ จำเป็นต้องแกะสายแพร์ 2 เส้นนี้ออกเสียก่อน


7. กรณีต้องการแกะกระจกทัชสกรีน สามารถแกะได้ง่ายๆ โดยใช้ไดร์เป่าผม หน้าจอทัชสกรีนจะทากาวไว้ 4 ด้าน แกะไม่ยากเลย


8. เป่าตรงมุมก่อน แล้วค่อยๆ งัดกระจกจากมุมแล้วก็เป่าลมร้อนไปตามขอบทั้ง 4 ด้าน เพื่อแกะจอทัชสกรีนออกไป


9. กรณีถอดแบตเตอรี่ออกแล้ว จะพบกับสายแพร์ เชื่อมต่อเมนบอร์ดกับจอใน บางครั้งจุดสัมผัสของสายแพร์สกปรกหรือเกิดความชื้น สังเกตุได้จากหน้าจอจะเป็นสีขาว สามารถใช้งานได้ปกติ แต่จอเป็นสีขาว ก็ต้องถอดมาทำความสะอาด ข้อต่อ A และ B ของสายแพร์


10. เมื่อถอดสายแพร์ออกมาแล้ว ให้ทำความสะอาดขั้วเชื่อมต่อบนสายแพร์ ง่ายๆ ก็ใช้ยางลบลบออก แล้วเสียบเขัาไปเหมือนเดิม กรณีจอมีปัญหา ไม่ติดหรือเป็นสีขาว ก็มักจะเกิดจากสาเหตุง่ายๆ แบบนี้

 


11. กรณีต้องการถอดเมนบอร์ด จะต้องปลดขั้วต่อต่างๆ ตามตำแหน่ง A - H ออกไปก่อน
12. จากนั้นก็ขั้นสกรูตัวที่ 1 - 4 ออกไปแล้วก็ดึงเมนบอร์ดออกได้เลย
13. กรณีนี้อาจจะทำเฉพาะเมนบอร์ดไปซ่อม เช่น ตูดชาร์จมีปัญหา ก็นำไปเปลี่ยน วิธีนี้ก็จะช่วยประหยัดค่าแรงได้

 

การรื้อเครื่อง Asus fonepad หรือแท็บเล็ตยี่ห้ออื่นๆ ก็ไม่ต่างไปจากนี้ ซึ่งจะมีบางอย่างที่เราสามารถซ่อมเองได้ทันที เช่น
1. การเปลี่ยนจอทัชสกรีนหรือจอนอกและจอใน จอของแท็บเล็ตจะมี 2 ชั้น จอนอกหรือจอทัชสกรีนอย่างเดียวราคาประมาณ 300 กว่าบาท ส่วนจอในประมาณ 1000 บาท
2. การเปลี่ยนแบตเตอรี่เอง ซื้อมาเปลี่ยนเอง ก็ง่ายๆ ตามนั้น
3. การเปลี่ยนตูดชาร์จ เมื่อก่อนผู้เขียนไม่เคยศึกษาเรื่องนี้ ก็เอาแต่คิดว่า คงจะมีอะไรบางอย่างพิเศษ การเปลี่ยนอะไหล่ตัวนี้จึงแพงมาก แต่จริงๆ แล้ว ราคาอะไหล่ ไม่ถึง 100 บาท เคยเจอบางร้านคิดเงิน 700 บาท หรือแม้แต่เพื่อนกันเอง ยังคิดเงิน 400 บาท ทั้งๆ ที่ต้น ทุนประมาณ 60-70 บาท เท่านั้นเอง
4. กรณีหน้าจอเป็นสีขาว แต่ใช้งานได้ปกติ ก็แค่ทำความสะอาดสายแพร์

 

บทความนี้ก็หวังว่าจะช่วยให้ผู้อ่านรู้จักแท็บเล็ตหรือมือถือ Android ของตัวเองมากยิ่งขึ้น เพื่อจะได้รู้ทันการเอารัดเอาเปรียบของ บรรดาช่างซ่อมที่คิดค่าแรง ค่าอะไหล่ ค่าซ่อมมหาโหด ล่าสุดที่ผู้เขียนเจอก็คือ การเปลี่ยนหน้าจอทัชสกรีนของ Asus fonepad อะไหล่ ประมาณ 300 กว่าบาท แต่คิดเงินรวมทั้งหมด 2,200 บาท แพงมาก หากสามารถทำเองได้ จะช่วยประหยัดเงินอย่างมาก

เมื่อเครื่องมีปัญหาอะไรก็ตาม พยายามหาข้อมูลใน Google ใน Youtube ก่อนจะนำเครื่องไปซ่อม เพื่อให้รู้ข้อมูล รู้ปัญหาที่เกิดขึ้น กับเครื่องเสียก่อน ไม่เช่นนั้น จะเสียเงินเปล่า แพงมาก แพงเกินกว่าเหตุ