การออมเงินมีความสำคัญ แต่เป็นเรื่องยากสำหรับบางคน เพราะหากยังมีงาน ยังมีแรง ยังมีที่พึ่งพาได้ ร่างกายก็ยังแข็งแรง ก็จะ ละเลยเรื่องการออม จนกว่าจะได้เผชิญกับเหตุการณ์แย่ๆ เข้ามาในชีวิต พาตัวเองไปติดกับดักความลำบาก จนสร้างความทุกข์ทรมาน ทั้งกายทั้งใจอย่างหนัก จึงจะเริ่มคิดถึงการออมเงิน ซึ่งบางทีก็สายเกินไปหากพาชีวิตจมดินมาก การฟื้นตัวก็จะยาก

ความสำคัญของการออมเงิน

การออมเงินมีความสำคัญที่่ทุกคนจะต้องทำให้ได้ เพื่อเตรียมรับมือกับวิกฤตการเงินที่จะมาในอนาคต
1. ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง มีรวย มีจน มีเหตุต้องใช้เงิน โดยไม่คาดคิด จึงต้องมีเงินออมเก็บไว้
2. เมื่ออายุมากขึ้น อย่างน้อยหลังเรียนจบปริญญา ก็ถึงเวลาต้องหาเงินใช้เอง ไม่มีใครให้ความช่วยเหลือแล้ว เพราะถือว่าโตแล้ว และ เมื่อมีอายุมากขึ้น การขอความช่วยเหลือจากคนอื่น ก็ยิ่งยากขึ้น ดังนั้นเรื่องเงินออมจึงเป็นเรื่องสำคัญ

3. คนรอบข้างจะไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอดเวลาหรือตลอดไป ในวัยเด็กเรามีพ่อแม่พี่้น้องให้ความดูแล ไม่มีปัญหาเรื่องการเงิน แต่ในวัย ที่มีอายุมากขึ้น การพึ่งพาคนรอบข้างจะเป็นเรื่องยากขึ้นตามอายุ เพราะเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ก็จะคิดถึงตัวเองก่อน และเริ่มเห็นแก่ตัว มากในบางคน ความช่วยเหลือคนรอบข้างอาจจะเริ่มน้อยลง แม้จะเป็นคนในครอบครัวเดียวกันก็ตาม จากพี่น้องที่เคยรักกัน ก็เริ่มกลาย เป็นมาช่า...เป็นคนอื่นคนไกลไปเสียแล้ว หลายคนก็โดนไล่ออกจากบ้าน หน้าแตกแตกยับเยิน หากเดินเข้าบ้านในสภาพย่ำแย่ มิตรแท้ ที่มีอยู่จริงก็คือเงินในกระเป๋าของเราเอง...เท่านั้น หากยังออมเงินไม่ได้ ก็ต้องปล่อยให้ชีวิตต้องเจอเรื่องแบบนี้สักครั้ง อาจจะได้มีแรง บันดาลใจ

4. รูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป บางอาชีพมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้แทนมนุษย์ หรือบางอาขีพก็ล้มหายไปจากโลก ทำให้ตกงาน เมื่อถึงเวลานั้น เงินออมจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ปัจจุบันนี้มีแนวโน้มสูงมาก
5. ไม่เป็นภาระลูกหลาน คนเราเมื่ออายุมากขึ้น รายจ่ายจะมากขึ้น เพราะมีแต่จะต้องจ่าย จะต้องซ่อม ต้องรักษาตัวเอง บางคนมีราย จ่ายเดือนหลักหมื่นบาทค่ายา ค่ารักษาพยาบาล เพราะสะสมไว้หลายโรค สร้างภาระให้ลูกหลานอย่างมากแทนที่ลูกหลานจะได้ทำงาน ทำการ มีเงินออม มีชีวิตที่ก้าวหน้า กลับต้องมารับภาระคนใกล้ตัวที่ไม่ดูแลตัวเอง จนสร้างปัญหาเรื่องรายจ่าย ดังนั้นการมีเงินออมจึงมี ความสำคัญ ทำให้คนสูงวัยมีคุณค่า มีราคา เพราะยังมีสมบัติให้ลูกหลานได้แย่งกัน

6. การมีเงินออมทำให้ชีวิตมีความสุข คนที่ไม่มีหนี้ มีเงินเก็บ แม้จะไม่ร่ำรวยแต่ไม่ลำบาก ชีวิตก็จะมีความสุขมากกว่า หน้าตาไม่อมทุกข์ อมโศรก ไม่เครียดกับปัญหากาการเงิน เมื่อสุขภาพจิตดี จะทำอะไรก็ทำได้เต็มที่

** ปัญหาเกี่ยวกับการเงินของคนเรา มักจะมาในช่วงที่ชีวิตย่ำแย่ หรือมีเรื่องที่สร้างความทุกข์กาย ทุกข์ใจอย่างหนัก เช่น ปัญหา ครอบครัว ความรัก การงาน เมื่อถึงเวลานั้น ก็จะรู้ซึ้งถึงคุณค่าของเงินออม มีเงินออมให้มากเข้าไว้ย่อมเป็นเรื่องดี***

แนวทางวางแผนออมเงินแบบต่างๆ

เมื่อได้รู้ถึงความสำคัญของการออมเงินแล้ว ก็จะต้องเริ่มลงมือออมเงินอย่างจริงจัง

1. ฝึกวินัยการเงิน

การสร้างความมีระเบียบวินัยในการใช้จ่าย เรื่องนี้สำคัญที่สุด เป็นด่านแรกที่จะช่วยให้สามารถออมเงินได้ หมั่นสำรวจพฤติกรรม ของตัวเอง หากเริ่มขาดวินัยการเงินเมื่อใด ต้องรีบกระชับระเบียบวินัย อย่างปล่อยให้เละเทะจนยากจะควบคุม ยิ่งปล่อยนานเป็นปีๆ ยิ่ง ยากในการเริ่มฝึกวินัยการเงินอีกครั้ง อย่าปล่อยให้ชีวิตขาดวินัยการเงินอย่างเด็ดขาด สิ่งนี้สำคัญที่สุดในชีวิตคนเรา ตราบที่ยังมีลม หายใจ ต้องทำให้ได้ เพราะในวันที่แย่ ในวันที่แก่ชรา ก็มีแต่เงินออมและพยาบาลเท่านั้นที่จะช่วยเราได้ อย่าไปคาดหวังกับลูกหลานหรือ คนรอบตัว

2. วางแผนการออมเงิน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

วางแผนการออมเงิน โดยเริ่มจากการจัดการรายจ่ายให้ลงตัวก่อน ต้องรู้รายจ่ายอย่างละเอียดและถูกต้อง หรือหาช่องทางลดราย จ่ายที่ไม่จำเป็น เพือ่ให้มีเงินออมมากๆ ลดการใช้เงินผิดทาง เช่น บางคนซื้อเสื้อผ้าคุณภาพต่ำ ซื้อบ่อยๆ ขาดบ่อย แต่บางคนซื้อเสื้อผ้า คุณภาพดี ใช้งานได้นานเป็นสิบปี ซึ่งช่วยประหยัดเงินอย่างมาก

3. ศึกษาการออมเงินทุกรูปแบบ

เมื่อมีรายได้ มีเงินเข้ามา เรื่องสำคัญที่จะต้องศึกษา ก็คือเรื่องการออมเงิน ออมแบบใส่ไหฝังดิน หยอดกระปุก ฝากธนาคาร ประกัน ชีวิต ออมกับทรัพย์สินอย่างนาฬิกาหรู ทองคำ รถสปอร์ต พระเครื่อง ฯลฯ แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ต้องศึกษาแบบเจาะลึกพอ สมควร เพื่อจะได้เลือกแนวทางที่เหมาะสมกับตัวเอง

4. วางแผนใช้เงินออมช่วยสร้างรายได้

การออมเงินไม่ทำให้รวย หรือมีความมั่นคงทางการเงิน มีเงิน 1,000,000 บาท นำไปฝากธนาคาร แต่ละปีได้ดอกเบี้ยไม่ถึงหมื่น บาท แต่นำเงิน 1,000,000 บาท เน้นซื้อหุ้นปันผล แต่ละปี จะได้ประมาณ 30,000-50,000 บาท หากซื้อหุ้นปันผลไว้สัก 3,000,000 บาท ก็จะมีโอกาสมีรายได้จากเงินปันผลปีละ 90,000-150,000 บาท เพียงพอต่อการใช้จ่ายทั้งปี เป็นการใช้เงินช่วยทำ งาน ช่วยเราสร้างรายได้ และเหมือนมีบำนาญเหมือนคนทำงานข้าราชการ บางคนสามารถทำแบบนี้ได้ตั้งแต่อายุไม่ถึง 30 ปี

บางคนมีรายได้น้อย บางคนยังเรียนหนังสือระดับมัธยม แต่ก็วางแผนซื้อสินค้ามาขายผ่านเน็ต มีน้อยก็ลงทุนน้อย หลักร้อย ก็ค่อยๆ เริ่ม จนกลายเป็นหลักล้านบาทในอีกไม่กี่ปีต่อมา ประตูสู่ความร่ำรวย เปิดกว้างสำหรับทุกคน อยู่ที่การเปลี่ยนความคิด บางคนคิดว่า ต้องมีทุนมากจึงจะรวย แต่บางคนกลับคิดว่า ไม่ต้องมีทุน กรูก็จะรวยให้ได้ อย่างหลังนี้จะมีโอกาสรวยแน่นอน 100% แต่อย่างแรก ที่ คิดว่าต้องมีทุนมาก แล้วถึงจะรวย คิดแบบนี้ เจ๊งทุกราย ไปไม่รอด

สำหรับคนที่อายุยังน้อย ยังมีแรง ยังมีโอกาสในการทำงาน ดังนั้นต้องเร่งออมให้มาก และนำเงินออมไปลงทุน เพื่อให้เงินออม เกิด ดอกออกผล ช่วยสร้างรายได้ เหมือนมีผู้ช่วยทำงาน แต่ไม่ต้องจ่ายเงินเดือน บางคนมีเงินเดือนๆ ละ 15,000 บาท แต่เลือกที่จะผ่อน คอนโด ซื้อตึกแถวแล้วปล่อยให้เช่า แทนที่จะซื้อรถยนต์ มีรายได้จากค่าเช่า ส่วนตึกแถวและที่ดินก็ยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ซื้อมา 1,000,000 ในอีก 10 ปีข้างหน้าอาจจะปรับตัวเพิ่มเป็น 3,000,000 บาท ก็ได้ หากอยู่ในทำเลที่ดี

ความคิดไม่สร้างสรรค์เกี่ยวกับการออมเงิน

คนเรามีความอยาก มีความต้องการซื้อหาวัตถุเพื่อมาสร้างความสุขให้ตัวเอง ดังนั้นเมื่อมีเงิน ก็จะพยายามซื้อหาสิ่งของต่างๆ พร้อมกับพยายามเหตุผลมากมายมาสนับสนุนความคิดตัวเอง เช่น

1. เงินเดือนน้อย ดังนั้นไม่ต้องออม ไม่มีประโยชน์

บางคนมีความคิดแบบนี้ จึงไม่สนใจเรื่องการออมเงินแต่อย่างใด ใช้ชีวิตสบายๆ แต่ไม่มีเงินเก็บ ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด มีเงินเดือน มีราย ได้น้อย ยิ่งต้องคิดหาวิธีออมเงินขั้นเทพกว่า คนมีรายได้มาก เพราะหากมีปัญหาการเงินเกิดขึ้น จะลำบากกว่า คนมีรายได้มาก หลาย เท่าตัว โดยเฉพาะคนตัวคนเดียว ยิ่งต้องคิดให้รอบด้าน

2. มีเงินแล้วต้องรีบใช้ ตายไปจะไม่ได้ใช้

ความตายของคนเรานั้น มักจะไม่เกิดแบบปัจจุบันทันด่วน เช่น นอนไหลตาย อุบัติเหตุ หรือสิ้นอายุขัยกะทันหัน แต่ส่วนใหญ่จะตาย ด้วยโรคภัย เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนทุกวันนี้มีความเสี่ยงอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะตายแบบใด ล้วนมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น อย่างน้อย ก็ค่าทำศพ หลักหมื่นหลักแสนบาท แต่หากเจ็บป่วยก่อนตาย อาจจะหลักล้านบาท อย่าเอาแต่คิดว่า ช่างมัน ปล่อยให้ถึงวันนั้นก่อน เมื่อ วันนั้นมาถึง ความลำบากจะเพิ่มขึ้นทวีคูณ /p>

เรื่องต้องรู้เกี่ยวกับการออมเงิน

การออมเงินมีทั้งประโยชน์และโทษต่อตัวเองและคนรอบข้าง ที่จะต้องรู้ให้เท่าทัน เช่น
1. อย่าให้คนรอบข้าง คนใกล้ตัวรู้ว่ามีเงินออม เพราะการขอยืม หรือรบกวนเรื่องเงินจะตามมาทันที ต้องหาข้ออ้างเตรียมไว้ เช่น ซื้อหุ้น ซื้อสลากออมสินไว้ ไม่มีเงินเก็บ

2. จัดระเบียบคนที่มาช่วยดูแลเงินออม หรือทรัพย์สมบัติที่มี เมื่อมีเงินออมมาก โดยเฉพาะในรูปแบบของทรัพย์สิน อย่าง บ้านเช่า ที่ดิน เรื่องนี้ต้องวางแผนให้ดี จะให้ใครเข้ามาดูแล ควรมีการกำหนดเงินเดือน ให้เป็นเรื่องเป็นราว ต้องระวังคนในครอบครัวให้ดี อย่าให้เข้า มาวุ่นวายมากเกินไป เพราะส่วนใหญ่มักจะสร้างปัญหาในภายหลังเสมอ โดยเฉพาะเมื่อแต่ละคนต่างมีครอบครัวของตนเองแล้ว เมื่อนั้น พี่น้องที่คลานตามกันมา ก็ไม่มีความหมาย ปัญหาพี่น้องทะเลาะกันเรื่องเงิน เราเห็นกันบ่อยในหน้าหนังสือพิมพ์ ชิมิ ดังนั้นต้องปัองกัน ไว้ก่อน

3. เมื่อมีเงินออม ก็จะกลายเป็นคนเนื้อหอม เหมือนบ่อเงิน บ่อทอง จึงวางแผนเรื่องการคบคนให้ดี คนแบบไหนควรคบ ไม่ควรคบ 4. เมื่อมีเงินออม ก่อนจะให้พ่อแม่พี่น้องช่วยดูแลการเงิน เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะเมื่อเงินอยู่ในกระเป๋าใครนานๆ หรือเมื่อคนเรามี อายุมากขึ้น มีครอบครัวเป็นของตัวเอง ก็จะเริ่มหวงสิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเอง หรือพยายามแย่งเอามาเป็นของตัวเอง บางคนไปทำงาน ต่างประเทศ ส่งเงินกลับมาบ้านเข้าบัญชีพ่อแม่ทุกเดือน แต่เมื่อกลับมา ตั้งใจจะทำธุรกิจ แต่กลับไม่สามารถถอนเงินออมาได้ พ่อแม่ไม่ ยอม ขืนดันทุรัง อาจจะโดนด่าว่าเนรคุณ เสียโอกาสในการทำธุรกิจ ดังนั้นต้องออมเงินไว้กับตัวเอง เงินของตัวเองอย่าให้ใครเอาไป ครอบครองแม้จะเป็นพ่อแม่ก็ตาม ผู้เขียนเข็ดจนวันตายกับเรื่องนี้

5. การให้ความช่วยเหลือการเงินกับทางบ้าน หรือครอบครัว ระวังอย่านำเงินออมของตัวเองไปใช้แบบให้เปล่า เช่น จ่ายเงินให้พ่อแม่ พี่ น้องทุกเดือน แต่ควรหาธุรกิจหรืองานหนัก งานเบา ตามแต่ความเหมาะสมให้ช่วยกันทำ หรือต่อยอดสร้างรายได้ และสอนให้แต่ละคน รู้จักการออมเงินเช่นกัน ไม่ใช่ตัวเองออมอยู่ฝ่ายเดียว และช่วยเหลือครอบครัวอยู่ฝ่ายเดียว แต่คนอื่นใช้อย่างเดียว ก็ตายกันพอดี ดัง นั้นต้องคิดหาวิธีให้คนใกล้ตัวรู้จักคุณค่าของเงิน ใช้เงินเป็น รู้จักออมเงิน เพราะไม่มีใครจะสามารถช่วยเหลือใครได้ตลอดไป ในวันหนึ่ง อาจจะมีปัญหาการเงิน การงาน หรือมีครอบครัวต้องดูแล

ชีวิตคนเราต้องเกี่ยวข้องกับเงิน เพราะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการแลกเปลี่ยน ซื้อหาปัจจัยที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ดังนั้นจึงต้องศึกษา เรื่องเงินให้ทะลุปรุโปร่ง อย่างเรื่องการออมเงิน ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมา ต้องศึกษาให้เข้าใจ เพื่อ ป้องกันปัญหาการเงินที่จะเกิดจากเงินออม