การทำธุรกิจส่วนตัวหรือทำอาชีพอิสระเป็นเรื่องที่บางคนนั้นเกิดความกลัวในหลายๆ ด้าน เพราะอาชีพแบบนี้ ในเรื่องความ มั่นคงนั้น จำเป็นจะต้องสร้างเอง และยังต้องเจอหรือผจญกับปัญหาสารพันที่จะตามมา คนไม่น้อยจึงเลือกเป็นลูกจ้าง เป็น พนักงานหรือข้าราชการ

คนทำ อาชีพอิสระ หากว่ากันตามจริงแล้ว คนแบบนี้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก อย่างการเปิดร้านค้าขาย หรือให้บริการต่างๆ เมื่อทำไปสักพัก ก็จะเริ่มรู้วิธีเอาตัวรอด และสามารถสร้างรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ แต่ในช่วงแรกนั้น อาจจะยังไม่ง่าย นัก เพราะยังไม่มีประสบการณ์ ซึ่งจะต้องเจอด่านโหดๆ รออยู่มากมาย ไม่มีงานบ้าง ไม่มีเงิน ไม่มีอะไรเลย ซึ่งแต่ละด่านหาก ผ่านมาได้แล้ว ก็จะรู้วิธีเอาตัวรอด และสามารถประกอบอาชีพส่วนตัวได้

ตัวอย่างความกลัวแบบต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อคิดว่าจะต้องลงมือทำธุรกิจส่วนตัว ทำอาชีพอิสระ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราจะ เริ่มกลัว เช่น

กลัวเวลาหายไป ไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำ

การเป็นพนักงานหรือทำงานบริษัทหรือจะเป็นลูกจ้างก็ตาม จะมีเวลาทำงานและเวลาส่วนตัว แต่การทำอาชีพอิสระ บาง อาชีพนั้นหากวางแผนไม่ดี เวลาชีวิตก็จะหายไปเลยทีเดียว บางคนเปิดร้านกาแฟ ลูกค้าติดใจในฝีมือการชงกาแฟ ทำให้ปิดร้าน ไม่ได้เลย อย่างช่างพักเที่ยงด้วยแล้ว จะไม่มีเวลาพักทานอาหารเลย

ส่วนผู้ที่ทำงานบริษัทหรือเป็นพนักงาน ก็เช่นกัน กลัวเวลาส่วนตัวหายไป เคยมีเวลาไปเที่ยว ไปทำธุรกิจ ทำกิจกรรมที่ชอบ แต่เมื่อเริ่มทำงานส่วนตัว เวลาเหล่านั้นจะหายไปทั้งหมด

ความกลัวในเรื่องนี้ แก้ไขได้ไม่ยาก อาศัยการจัดระบบการบริหารจัดการให้ดี เพื่อให้พนักงานหรือจ้างคนงานมาทำงานแทนตน เอง ก็จะมีเวลาไปทำอย่างอื่น เวลาในชีวิตก็ไม่ได้หายไปไหน ยังมีเวลาเที่ยวหรือทำกิจกรรมอื่นได้ตามปกติ แต่อาจจะน้อยลง

กลัวความเป็นส่วนตัวหายไป

เมื่อทำธุรกิจส่วนตัว ก็จะต้องเปิดเผยตัวตน แสดงตัวตน ให้คนอื่นเห็น เพราะลูกค้าไม่น้อยก็จะติดตามเจ้าของกิจการ และเป็น การป้องกันการก็อปปี้สินค้าได้อีกทาง แต่การเปิดตัว แสดงตัว ก็อาจจะทำให้ความเป็นส่วนตัวหายไป จะไปไหน ใครๆ ก็รู้จัก กลายเป็นจุดเด่น ซึ่งบางคนจะไม่ชอบการเป็นบุคคลสาธารณะอย่างนี้

เรื่องแบบนี้ก็สามารถแก้ไขได้ ด้วยการผลิตสินค้า แล้วให้สินค้าหรือพนักงานทำหน้าที่ดึงดูดลูกค้าด้วยคุณภาพของสินค้าที่ลูกค้า ติดใจ ก็จะไม่สนใจกับเจ้าของกิจการมากนัก จะแสดงตัวอย่างไร ก็ไม่มีปัญหา เพราะสินค้าทำหน้าที่แทน แต่ก็ต้องยอมรับว่า ยุคนี้ การเปิดเผยตัวตน แสดงตัว จะมีส่วนช่วยดึงดูดลูกค้าได้ไม่น้อย เพราะลูกค้าบางคนก็อยากจะคุยกับเจ้าของร้าน

กลัวรวย<ฝh2>

คนเราทำงานก็เพราะเงิน แต่เชื่อไหมว่า บางคนกลัวรวย กลัวมีเงินมากขึ้น กลัวจะมีปัญหาตามมา ความกลัวแบบนี้อาจจะเกิด กับบางคน แต่จริงๆ แล้วก็น่าจะเป็นข้ออ้างมากกว่า หลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงความกลัวในใจจริงๆ ที่ไม่กล้วทำงานส่วนตัว

เรื่องนี้สามารถแก้ไขได้ ด้วยการศึกษาเรื่องการบริหารเงิน อย่างการนำเงินไปลงทุนให้เกิดรายได้ ซึ่งหากสามารถทำได้ ก็อาจจะ เกษียณตัวเองในเวลาไม่กี่ปี ไม่ต้องทำงานก็มีเงินใช้ ยกตัวอย่างง่ายๆ หากตัดสินใจทำธุรกิจส่วนตัวแล้วได้เงินสัก 20 ล้าน ก็นำ ไปฝากธนาคารที่จ่ายดอกเบี้ยต่อเดือนๆ ละ ประมาณ 1000 กว่าบาทต่อเงินฝาก 1,000,000 ก็จะได้เงินประมาณเดือนละ 20,000 บาท เป็นรายได้ทุกเดือน โดยไม่ต้องทำงาน แค่คอยเฝ้าระวังพนักงานธนาคารแอบถอนเงินไปใช้ก็เท่านั้นเอง ก่อนจะ กลัว รวย ก็ต้องมาตรวจสอบตัวเองว่า มีเงินมากพอหรือยัง อยู่ได้โดยไม่ต้องทำงานจนกว่าจะตายไปจากโลก หากพบว่า ยังก็ ต้องยอมเปลี่ยนความคิด

กลัวเรื่องการเสียภาษี

เมื่อมีรายได้ ก็ต้องเสียภาษี บางคนไม่กล้าทำ เพราะกลัวมีรายได้เพิ่ม กลัวจะต้องเสียภาษี เพราะในปัจจุบันอาจจะไม่เสียภาษี รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ จึงเกิดความกลัวว่า หากทำงานมีรายได้มากขึ้นแล้วจะต้องเสียภาษี เกิดความเสียดายเงิน

เรื่องนี้ต้องศึกษาเรื่องภาษีให้เข้าใจ เมื่อต้องเสียภาษีก็แสดงว่ามีรายได้ มีเงิน ก็ควรใช้ประโยชน์ในเรื่องนี้ เพราะถือว่ามีความเชื่อ ถือ ธนาคารบางแห่งจะให้เครดิตในเรื่องนี้ อาจทำเรื่องกู้เงินซื้อที่ดินหรือบ้าน เพื่อหวังขายทำกำไรในอนาคต แม้จะต้องเสียภาษี แต่ก็มีช่องทางสร้างประโยชน์จากภาษี ในอีกหลายรูปแบบ

กลัวการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

การทำธุรกิจส่วนตัว จำเป็นต้องศึกษาหาข้อมูล พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้น ก็อาจจะไปไม่รอด ยกเว้นงานบางอย่างที่ เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น อย่าง อาหาร ที่อยู่ ที่พัก หอพัก หากได้ทำเลดี ก็เหมือนเสือนอนกิน มีรายได้เข้ามาเรื่อยๆ แต่ งานบางอย่างจำเป็นต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ไม่เช่นนั้น ก็จะเสียเปรียบคู่แข่ง

เรื่องนี้อย่าไปกลัวการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำให้สมองได้พัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา สมองดี ไม่ต้องกลัวสมองเสื่อม แต่หากไม่ค่อย ได้ใช้สมองคิดอะไร ก็จะเริ่มแย่ จำอะไรไม่ค่อยได้ และสมองเสื่อมในที่สุด คงจะไม่ดีแน่ หากแก่ชรา มีเงิน ทรัยพ์สินมากมาย แต่ สมองแย่ หลงๆ ลืมๆ กลายเป็นภาระคนอื่น ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร เพราะสมองคนเรานั้น ไม่มีอะไหล่ขาย ให้ซื้อมาเปลี่ยน มีเงินมากแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์

กลัวคอมฟอร์ทโซน โซนความสุขหายไป

คอมฟอร์ทโซน หรือโซนความสุข โลกส่วนตัว มุมส่วนตัวที่ทำให้ตัวเองมีความสุข รู้สึกสบาย ปลอดภัย เป็นสิ่งที่คนทำงานเป็น พนักงาน หรือบางคนกำลังติดอยู่ในโซนนี้ และเมื่อใดที่คิดจะทำธุรกิจส่วนตัว ก็จะเริ่มกลัว ว่า มุมส่วนตัวจะหายไป บางคนจึง เต็มไปด้วยเงื่อนไขในการทำธุรกิจที่มากมาย ไปๆ มาๆ ก็ตัดสินใจไม่ทำ อย่างบางคนมีที่ดิน มีบ้าน ในทำเลที่ดี สามารถเปิด ร้านค้า ขายของหน้าร้าน ได้สบายๆ แต่พอคิดจะทำ แล้วพบว่า โซนความสุขตัวเองหายไป ก็จะหยุดความคิดทันที แต่พอรายได้ หลักเริ่มน้อยลง ก็อาจมีความคิดว่าจะทำ ใครมีคนรอบตัวเป็นลักษณะนี้ ก็อย่าไปยุ่งให้เสียเวลาตัวเอง เสียเวลาเปล่า

การลงมือทำธุรกิจส่วนตัว อาจจะเป็นเรื่องยากจะหลีกเลี่ยงสำหรับบางคน อย่างการสืบทอดกิจการจากครอบครัว หรือบางคนก็ มีโอกาสดีๆ เข้ามาอยู่แล้ว มีบ้าน มีที่ดินถนนหรืออยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว เป็นโอกาสดีสำหรับการทำกิจการส่วนตัว ก็ไม่ควรเอา แต่กลัว จนปล่อยให้โอกาสดีๆ ผ่านมือไป

การทำธุรกิจส่วนตัวนั้น หากวางแผนดีแล้ว ก็ไม่มีอะไรให้หนักใจมากนัก อย่างการมีพนักงาน มีลูกจ้างมาช่วยทำงาน ก็จะลด ภาระในการทำงานลงได้ หรือหากกลัวในเรื่องแบบนี้ ก็ต้องเลือกงานที่ไม่จำเป็นจะต้องมีพนักงานเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก เพราะ ทุกวันนี้มีระบบต่างๆ ให้บริการ เช่น จัดการสต็อกสินค้า รับออร์เดอร์ลูกค้า จัดส่งสินค้า ไม่ต้องทำเอง

การรู้จักเลือกธุรกิจให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ก็จะช่วยขจัดความกลัวออกไปได้ อย่างการเปิดร้านกาแฟ ไม่อยาก ติดต่อลูกค้า ไม่อยากมีหน้าร้าน ก็ทำสูตรกาแฟของตัวเอง ทำเป็นแฟรนไชส์หรือหาตัวแทนขาย เพื่อทำการตลาด ก็จะไม่ต้อง กลัวว่าจะเสียความเป็นส่วนตัว ลูกค้าไม่รู้จักแน่นอน เพราะไม่ได้ขายให้ลูกค้าโดยตรง เป็นต้น