Sponsored Ads

ในประเทศไทยเรานั้น รายได้ของรัฐมาจากการจัดเก็บภาษีจากประชาชน ซึ่งมีหลายอย่าง แต่หากไม่ศึกษาให้ดีแล้ว บางคนก็อาจจะ ไม่รู้ว่า คนจน นั้นต้องเสียภาษีหรือไม่ เสียอย่างไร และมากเพียงใด การจ่ายภาษีของประชาชนส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนจนของประเทศไทย เรานั้น จะจ่ายทางอ้อม ไม่ได้จ่ายตรงๆ เหมือนคนทำงาน พนักงาน

 

สินค้าทุกชนิดโดยเฉพาะในร้านค้า ห้างต่างๆ จะรวม Vat 7% ซึ่งแวทนี้ ผู้ผลิตและผู้ขายสินค้าจะผลักให้เป็นภาระที่ผู้ซื้อจะต้องรับ ผิดชอบภาษีส่วนนี้แทน ตัวอย่างสินค้าที่มีการซื้อมาก เช่น

1. โทรศัพท์ การเติมเงิน การจ่ายค่าโทรศัพท์ ค่าโปรเน็ต อย่างโปรเน็ต 300 บาท เวลาจ่ายจริงผู้ซื้อต้องจ่าย 321 บาท ที่เกินมา 21 บาท เป็น Vat หรือภาษีมูลค่าเพิ่มนั่นเอง และเงินส่วนนี้ก็จะเข้ารัฐบาล ลองนึกภาพว่า คนไทยใช้มือถือกี่ล้านเครื่อง โดยเฉพาะคนจน ที่ บางคนมองว่าไม่ต้องเสียภาษี แต่หากมีคนจนเหล่านี้ใช้มือถือสัก 10 ล้านเครื่อง ต้องเสียภาษีคนละ 21 บาท ก็จะต้องเสียภาษีให้รัฐ มากถึง 21 x 10 ล้าน = 210,000,000 บาท

2. สินค้าฟุ่มเฟือย เหล้า เบียร์ต่างๆ ต้องเสียภาษีสรรพสามิตในอัตราไม่น้อย อย่างเบียร์ทั่วไป จะต้องเสียไม่ต่ำกว่า 20 บาทต่อขวด ลองนึกภาพว่าในแต่ละวัน คนไทยทั้งประเทศ กินเบียร์กันวันละกี่ขวด มันคงจะไม่ใช่แค่หลักแสนแน่นอน น่าจะหลักล้าน ซึ่งคนจน กรรมกร ไม่น้อย กินเหล้า กินเบียร์กันทุกวัน ดังนั้น นี่คือเงินที่คนจนจะต้องจ่ายภาษีอีกทางหนึ่งเช่นกัน

3. กาแฟกระเป๋ง เครื่องดื่มบำรุงกำลัง คนรวยคนมีเงินกินกาแฟสด กำไรเข้ากระเป๋าร้านกาแฟ แต่คนจนกินกาแฟกระป๋องและเครื่อง ดื่มบำรุงกำลัง ซึ่งสินค้าเหล่านี้ ก็ต้องเสียภาษีเช่นกัน ก็ลองนึกภาพก็แล้วกันว่า คนจนในประเทศไทยเรากินกาแฟกระป๋อง กินเครื่อง ดื่มบำรุงกำลังกันมากแค่ไหน


4. น้ำมัน ในประเทศไทย มีคนจนใช้มอเตอร์ไซค์กี่ล้านคันทั่วประเทศ จากการเปิดตัวเลขของกรมขนส่ง ขณะนี้จะเกิน 20 ล้านคันไป แล้วอย่างแน่นอน น้ำมันสารพัดที่คนจนเหล่านี้ ตั้งแต่ ลูกเล็ก เด็กแดง ขับมอเตอร์ไซค์ไปเรียน หรือชาวบ้าน แม่บ้าน คนทำงานหาเช้า กินค่า ฯลฯ คนเหล่านี้ไม่มีรายได้ถึงเกณฑ์ที่จะต้องเสียภาษี แต่ก็ต้องเสียภาษีทางอ้อมไปกับค่าน้ำมันที่ต้องเติมนั่นเอง หากจะกล่าวว่า คนจนไม่จ่ายภาษี ก็ต้องทำบัตรลดภาษีให้คนจน เวลาไปเติมน้ำมัน ก็ไม่ต้องบวกภาษีเพิ่มเข้าไป ถึงจะถูกต้อง รายได้ส่วนนี้ของรัฐหรือ ว่าเยอะมากเช่นกัน เพราะนี่แค่เพียงรถมอเตอร์ไซค์ ยังไม่รวมรถยนต์ รถที่ใช้ในการเกษตร รถบรรทุก เครื่องตัดหญ้า ฯลฯ ในขณะที่รถ ทุกประเภทรวมกันก็เกิน 40 ล้านค้นอย่างแน่นอน เพราะที่ว่ามายังไม่รวมรถหรืออุปกรณ์ที่ใช้น้ำมัน อย่างเครื่องตัดหญ้าในประเทศ ไทยกี่ล้านเครื่อง


5. สินค้าอุปโภค บริโภคอื่นๆ แทบทุกคนเคยเข้าห้างสรรพสินค้า หรืออย่างน้อยก็ 7-11 จะพบว่า สินค้าต่างๆ มีมากมายเหลือเกิน สินค้าเหล่านี้ จะต้องเสียภาษี เมื่อผู้ซื้อซื้อสินค้าเหล่านั้น ก็จะต้องเสียภาษีทางอ้อมให้รัฐเช่นกัน อย่างภาษี Vat 7% ที่ทางผู้ขายผลัก ภาระนี้ไปให้ผู้ซื้อต้องจ่าย และคนที่ไปซื้อสินค้าที่ร้านค้าเหล่านี้ ก็มีตั้งแต่ลูกเล็ก เด็กแดง คนยาก คนจน ทั้งหมดทั้งสิ้น ที่ต่างต้องเสีย ภาษีทางอ้อมไปกับสินค้าในร้านเหล่านี้ ซึ่งคิดเป็นเงินมหาศาลเช่นกัน
6. การเสียภาษียังมีอีกมาก ที่คนจนจะต้องเสียภาษี เช่น ร้านค้า ที่ดิน โรงเรือน ฯลฯ ซึ่งก็จะมีทั้งคนจน คนรวย เช่นกัน

 

สำหรับภาษีทางอ้อมดังที่กล่าวมาในส่วนที่คนจนมีส่วนช่วยเสียภาษีนั้น ถือว่ามากทีเดียว อย่างการจัดเก็บภาษีในปี 2557 จำนวน 2.5 แสน แสนล้านนั้น
- ภาษีที่มาจากสินค้าในข้อที่ 1-6 ซึ่งเป็นการใช้บริการของคนในประเทศไทย ทั้งคนรวย คนจน ดังที่กล่าวมาจะมีจำนวนมากถึง 61% ทั้งภาษีทั้งหมด
- มนุษย์เงินเดือน ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษีหรือมีรายได้รวมทั้งปีประมาณ 319,000 บาท ขึ้นไป เสียภาษีรวมกันคิดเป็น 11% ซึ่งน้อยกว่าคนจนทั้งประเทศเสียภาษีทางอ้อมรวมกันเสียอีก

 

การเสียภาษีเป็นสิ่งที่ประชาชนจะต้องช่วยกัน บางคนจ่ายทางตรงบ้างอย่างพนักงาน มีเงินเดือน แต่พนักงานเหล่านี้ก็จะมีสิทธิ์เข้า ถึงสวัสดิการและผลประโยชน์อื่นๆ ที่ตามมา เมื่อเสียภาษี แสดงว่ามีรายได้ ก็จะมีโอกาสกู้เงินซื้อบ้านได้ อนาคตบ้านมีราคา ก็ขายทำ กำไรได้ แต่คนจน เสียภาษีทางอ้อม ในจำนวนน้อยนิด กู้ซื้อบ้านไม่ได้เหมือนคนทำงานมีเงินเดือน โอกาสรวย ก็ลดตามไปด้วย หาก มองอย่างยุติธรรม ไม่มีใครเสียอะไรไปโดยไม่ได้อะไรกลับคืนมา เพียงแต่ต้องรู้จักบริหารเท่านั้นเอง

 

เมื่อเสียภาษี ก็ต้องหาวิธีใช้ประโยชน์จากภาษีให้เป็น

การเสียภาษี ของคนรวย หรือคนทำงานมีเงินเดือน บางคนเกลียดคนจน หาว่าคนจนไม่ช่วยจ่ายภาษี เพราะไม่เข้าใจระบบการเสีย ภาษี และแทนที่จะคิดแบบนี้ แต่ควรศึกษาวิธีใช้ประโยชน์จากภาษี จะดีกว่า เพราะเมื่อเสียภาษี ก็แสดงว่ามีรายได้ ก็จะสามารถเข้าถึง แหล่งทุน มีช่องทางทำธุรกิจ หรือสร้างผลประโยชน์ได้เช่นกัน เพื่อนผู้เขียนมีรายได้สูง สามารถกู้เงินซื้อบ้านได้หลายหลัง และทยอย ขายทำกำไรไปบ้างแล้ว แต่คนจนทำแบบนี้ไม่ได้ เสียภาษีน้อย เอาไปใช้เป็นหลักฐานการกู้เงินไม่ได้ โอกาสสร้างผลประโยชน์ตามมาก็ น้อยเช่นกัน