การฝึกขับรถด้วยตัวเองบนถนนจริงด้วยตัวเอง ไม่ยาก แต่ต้องศึกษาพื้นฐาน และฝึกขับรถเบื้องต้นให้คล่องเสียก่อน เช่น การเลี้ยว การออกตัว การควบคุมรถให้อยู่ในเลน การวางระยะห่างรถคันหน้า ตลอดจนการใช้อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การขับรถง่ายมากขึ้น อย่าง การใช้กระจกมองข้าง กระจกมองหลังที่มีขนาดใหญ่ ก็จะช่วยให้ขับรถเป็นเร็วมากยิ่งขึ้น

การฝึกขับรถด้วยตัวเอง บนถนนจริง แม้จะไม่มีใบขับขี่แต่ในเมืองไทยเรา แต่มือใหม่ก็มักจะแอบไปฝึกขับบนถนนจริง แต่เพื่อความปลอดภัย สำหรับการฝึกขับบนถนนจริงจะมีคำแนะนำดังนี้
1. ฝึกขับรถเบื้องต้นและสอบใบอนุญาตขับขี่ให้ได้ก่อน
2. เริ่มการฝึกขับรถบนถนนจริงๆ

ฝึกขับรถเบื้องต้นและสอบใบอนุญาตขับขี่ให้ได้ก่อน

เตรียมรถให้พร้อม ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์

ก่อนอื่นต้องเตรียมรถให้พร้อม ตรวจสอบเครื่องยนต์ เบรค ไฟเบรค ไฟเลี้ยว สภาพรถยนต์ เครื่องยนต์ ต้องมีความสมบูรณ์ เพื่อลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ

ฝึกทักษะการขับรถเบื้องต้น

ก่อนจะขับรถออกถนนใหญ่ให้ฝึกทักษะการขับรถเบื้องต้นให้คล่องเสียก่อน ในสถานที่ที่มีความปลอดภัย อาจจะให้คนรอบตัวช่วยสอนวิธีขับรถ เพื่อให้สามารถควบคุมรถในระดับพื้นฐานได้ เช่น การขับรถยนต์ การเข้าเกียร์ การออกต้ว การเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา การเบรค การชะลอรถ การควบคุมรถให้อยู่ในเลน หากพื้นฐานยังไม่ดี อาจจะเป็นอันตรายได้ เพราะรถบนถนนจริงใช้ความเร็วสูง มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก

หลังจากได้ฝึกพื้นฐานการขับรถจนคล่องแล้ว คราวนี้ก็ไปลงเรียนกับโรงเรียนสอนขับรถ อาจจะเรียนไม่กี่ชั่วโมง ก็พอ เพราะได้ฝึกพื้นฐานด้วยตัวเองมาพอสมควรแล้ว แค่ไม่ได้ออกถนนจริง ซึ่งครูผู้สอนจะพาออกถนนจริง แม้จะไม่มีใบขับขี่ก็ไม่ผิดกฏหมาย เพราะมีผู้ควบคุม ผู้สอน ที่ได้รับอนุญาตแล้ว รถสำหรับฝึกขับจะมีความปลอดภัย เพราะมีเบรกสองฝั่ง ผู้สอนสามารถเหยียบเบรกได้ด้วย เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุ

ฝึกทักษะการขับรถเพื่อเตรียมสอบใบขับขี่

เพื่อไม่ให้ผิดกฏหมาย เมื่อฝึกขับรถจนคล่องในระดับหนึ่งแล้ว คราวนี้ให้ฝึกขับขี่ในท่าต่างๆ ที่ต้องใช้เพื่อสอบใบอนุญาตขับขี่ให้ได้เสียก่อน ส่วนการไปสอบจริงนั้นก็ให้คนอื่นขับรถแทนได้ การขับรถเองก็จะแค่ขณะสอบภาคปฏิบัติเท่านั้นเอง

เริ่มการฝึกขับรถบนถนนจริงๆ

ศึกษาแผนที่ วางแผนเส้นทางสำหรับการฝึกขับรถด้วยตัวเอง

เมื่อมีใบขับขี่แล้ว คราวนี้จะสามารถขับรถในถนนจริงได้ โดยไม่ผิดกฏหมาย ให้เริ่มศึกษาแผนที่ ถนนหนทาง ในบริเวณใกล้ที่อยู่อาศัย ที่ทำงาน การใช้แอป แผนที่ ในมือถือ จะสามารถดูภาพถนนได้
1. ดูแผนที่ในมือถือ ใช้แอป Google Map
2. ถนนแต่ละเส้นทางจะมีหลายเลขถนน ต้องทำความเข้าใจ และใช้ให้คล่อง สามารถค้นหาสถานที่ต่างๆ ผ่านมือถือไม่ เพื่อจะได้วางแผนเส้นทางขับรถ
3. แอปแผนที่ Google Map สามารถดูภาพถนนได้ รู้ว่าสภาพถนนเป็นอย่างไรบ้าง มีสถานที่ สิ่งปลูกสร้างอะไร ให้เป็นจุดสังเกตุได้บ้าง กรณีจะต้องมีการเปลี่ยนเส้นทาง เช่น การเลี้ยวซ้าย ขวา การกลับรถ หรือ ก่อนจะถึงสถานที่ที่เป็นจุดหมาย จะมีอะไรเป็นจุดสังเกตุ
4. ช่วงแรกๆ ให้วางแผนเส้นทางขับรถ โดยเริ่มจากสถานที่ใกล้ๆ บ้าน เลือกเส้นทางที่ไม่มีรถยนต์มากนัก

การใช้งานแผนที่ต้องฝึกให้คล่อง เรียกได้ว่า สามารถหาสถานที่ใดๆ ในประเทศไทยเราได้ผ่านมือถือได้ทันที แค่รู้หมายเลขถนน ซอย อาคาร สถานที่ใกล้เคียง

วิธีกำหนดเส้นทางเตรียมขับรถจริง

ไม่ว่าจะเป็นการขับรถในเมืองหรือต่างจังหวัด การฝึกกำหนดเส้นทางในลักษณะนี้จะช่วยให้การขับรถทำได้ง่าย แม้ว่าทุกวันนี้ จะมี GPS นำทางได้ แต่ หากศึกษาเส้นทางก่อน การขับรถอาจจะไม่ต้องดู GPS หรือ ใช้มือถือช่วยนำทาง การขับรถก็จะมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
1. วิธีกำหนดเส้นทาง เริ่มจาก จะต้องรู้หมายเลขถนน หรือ ชื่อถนน ตัวอย่างจะขับไปตามถนนหมายเลข 3222 โดยมีจุดมุ่งหมายก็คือ วัดป่าสว่างบุญ

2. กำหนดจุดที่จะต้องหยุดรถ เลี้ยวรถ หรือ กลับรถ มีอะไรเป็นจุดสังเกตุ มีตึก อาคาร วัด สะพาน ตัวอย่างเช่น มี บริษัท พรีคาส โปรดักส์ และ 7-Eleven ตามลำดับ เป็นจุดสังเกตุ ก่อนจะเลี้่ยวซ้าย ก็แคปหน้าจอเอาไว้ แตะที่ชื่อสถานที่ เพื่อดูภาพสถานที่ ดูตึก ได้ ก็จะทำให้เกิดความคุ้นเคย เหมือนกับว่า เคยผ่านไปแล้ว
3. กำหนดเลนที่จะต้องพารถไปอยู่ในตำแหน่งนั้นๆ เช่น ได้ตั้งจุดสังเกตุเอาไว้ว่า เมื่อถึงหน้า พรีคาส โปรดัก ก็เตรียมเข้าเลนขวา เพื่อเตรียมเลี้ยวขวา เป็นต้น
4. การวางแผนเส้นทาง สามารถแคปหน้าจอ และปัดเลื่อนดูไปทีละภาพ วิธีนี้จะไม่เสียเวลาดูหน้าจอ GPS เลย

ขับรถจริงตามเส้นทางที่วางแผนเอาไว้

เมื่อได้วางแผนเส้นทางไว้แล้ว คราวนี้ การขับรถจะเป็นเรื่องง่าย
1. ขับรถไปตามเส้นทางที่วางแผนเอาไว้ เช่น ถนน หมายเลข 3222
2. การใช้แอปนำทางก็ไม่จำเป็นต้องดูบ่อยๆ หรือ ไม่ต้องดูเลย กรณีเป็นการขับรถในต่างจังหวัด เพราะแค่ใช้จุดสังเกตุก็พอ ว่าถึงอาคาร สถานที่ นั้นๆ ก็เตรียมหยุด หรือ เลี้ยวรถ เปลี่ยนเส้นทาง

การขับรถตามแอปนำทาง หรือ GPS

การขับรถตามแอปนำทาง หรือ GPS เป็นทักษะสำคัญเช่นกันที่ต้องฝึกให้คล่อง และหากมีความเข้าใจแผนที่อย่างดีแล้ว การขับรถจะเป็นเรื่องง่าย เพราะในการเดินทางนั้น อาจจะมีการเปลี่ยนสถานที่ หรือ แวะสถานที่ หรือ ออกนอกเส้นทาง เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว

ข้อปฏิบัติขณะขับรถยนต์บนถนนจริง

1, สำหรับมือใหม่ กำลังหัดขับ ห้ามเปิดวิทยุ ฟังเพลง ห้ามใช้โทรศัพท์ ห้ามทำอะไรนอกเสียจากขับรถอย่างเดียว ฝึกขับอย่างเดียวเท่านั้น แม้แต่การฟังเพลงก็ทำให้เสียสมาธิ เพราะอาจจะแว่บไปโดนใจกับเนื้อเพลงหรือจังหวะดนตรี และอาจทำให้เสียสมาธิขณะขับรถ

2. การวางตำแหน่งของรถให้อยู่ในจุดที่ปลอดภัย การบังคับรถให้อยู่ในเลน กลางเลน กรณีมีหลายเลนติดกัน หรือติดขอบซ้ายของถนนกรณีเป็นเลนสวนทางกัน การวางตำแหน่งรถให้ห่างจากคันหน้าและคันหลังให้อยู่ในระยะที่ปลอดภัย

3. ฝึกสายตาด้วยการมองตำแหน่งต่างๆ ต่อไปนี้ ตลอดเวลา ดูกระจกมองข้างขวามือ ดูหน้าปัทม์ ดูกระจกมองข้างซ้ายมือ ดูกระจกมองหลัง วนไปวนมา
- มองหน้าปัทม์ ดูเข็มความร้อนปกติหรือไม่ ดูความเร็วรถ ดูไฟแจ้งเตือนต่างๆ
- ดูกระจกมองหลัง เพื่อดูว่ามีรถคันใดตามมาหรือไม่ ระยะห่างจากรถเรามากน้อยเพียงใด ปลอดภัยหรือไม่ ในกรณีที่ต้องการเลี้ยว ทุกครั้งจะต้องมองกระจกมองหลังก่อน
- ดูกระจกมองข้าง ซ้ายมือ ดูระยะห่างของตัวรถกับเส้นขาวขอบทางหรือไหล่ทาง ดูว่ามีรถมอเตอร์ไซต์ตามมาหรือไม่ ในกรณีที่ต้องการเลี้ยวซ้าย หรือเปลี่ยนเลน
- ดูกระจกมองข้าง ขวามือ ดูรถที่อยู่ทางขวามือ มีคันใดตามมาบ้าง ระยะห่างจากรถเรามากน้อยเพียงใด

4. ควรจอดพักเป็นระยะ เพื่อทบทวนพฤติกรรมการขับของตัวเอง มีอะไรต้องปรับปรับ หยุดทบทวนเส้นทาง ดูแผนที่ที่วางไว้ หากผิดแผนจะได้ปรับแก้ไข ซึ่งจะช่วยให้การฝึกขับรถง่าย ขับสบาย มากกว่าการขับไปคิดไปด้วย

5. ต้องฝึกคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า เพื่อเตรียมรับมือ เช่น
- รถคันหน้าจะแซงหรือจะไปทางใด รถที่กำลังสวนมา หรือรถที่กำลังเร่งแซง
- มีสัตว์เลี้ยงข้างทาง ควรกดแตรเบาๆ เป็นการเตือน บางทีอาจจะเล่นกันเพลิน จะมีบางจังหวะที่ลืมไปว่า อยู่บนถนน และอาจจะวิ่งข้ามถนน หรือไปเล่นกันบนถนน
- ดูรถแต่ละคันแล้ววิเคราะห์ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง อย่างการขับตามรถที่ขนของ ก็ต้องวิเคราะห์เหตุไม่คาดคิด ข้าวของหลังรถอาจจะปลิวตกลงมา - ข้างหน้ามีซอย มีรถเข้าออก อาจจะมีรถบางคันพุ่งตัดหน้า ต้องเตรียมรับมือ เป็นต้น

สรุป

การฝึกวางแผนการขับรถแบบนี้ อาจจะน่าเบื่อในช่วงแรกๆ แต่เมื่อมีพื้นฐานดีแล้ว การเดินทาง จะไปไหน ก็ไม่ยากแล้ว ไปได้ทุกที่ในประเทศไทย ขับไปได้ เพราะดูแผนที่ได้ทั้งประเทศ หาสถานที่จริงได้ แม้จะไม่เคยเดินทางไปยังสถานที่นั้นๆ