รถยนต์ที่มีกำลังเครื่องมาก เครื่องแรง ซีซีสูง การขับรถประเภทนี้ต้องศึกษา ทำความรู้จักรถให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะคนที่มีความคึกคะนอง หรือมือใหม่กำลังหัดขับ ยิ่งต้องระวังอย่าให้ขับ ไม่เช่นนั้นจะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ เพราะควบคุมรถไม่อยู่ หากเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง รถราคาหลักแสนอาจจะเหลือแค่หลักหมื่นหรือขายเป็นเศษเหล็กก็ได้
ตัวอย่างรถแรง กำลังเครื่องสูง
รถยนต์ในปัจจุบันค่อนข้างแรง กำลังเครื่องสูง แม้จะเป็นรถเล็กเครื่องยนต์ 1200 ก็ยังทำความเร็วสูงสุดได้เกือบ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ยิ่งรถกระบะด้วยแล้ว เครื่องแรงกว่าเมื่อก่อนมาก
1. รถแต่ง รถเปลี่ยนเครื่องโดยเฉพาะ รถประเภทนี้ ทำขึ้นมา เน้นความแรงโดยเฉพาะ มีการเลือกเครื่องยนต์ ตัวถัง และส่วนประกอบต่างๆ ของรถอย่างดี เท่าที่กำลังทรัพย์แต่ละคนจะสามารถทำได้ ส่วนใหญ่ผู้ขับมีความชำนาญในการควบคุมรถ แต่จะต้องระวังมือใหม่หรือผู้ไม่มีความเข้าใจเรื่องรถแรง เพราะอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
2. รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ใหญ่เกิน 2,000 CC 2. รถเก๋งเล็กบางรุ่น รถเก๋งขนาดเล็กเครื่องยนต์เพียง 1500 cc แต่มีบางรุ่นทำความเร็วสูงสุดได้เกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง การออกตัวเร็วแรง เช่น Honda City Vtec เกียร์ธรรมดา
4. รถกระบะบ้าพลัง ใช้ครื่องยนต์ดีเซลในปัจจุบัน มีหลายรุ่นที่กำลังเครื่องสูง
5. รถสปอร์ต รถเหล่านี้มีกำลังเครื่องสูง พลังเยอะ
การทำความเข้าใจ เรียนรู้การขับรถเครื่องแรง
รถในปัจจุบันเครื่องแรง ออกตัวเร็ว พุ่งกว่าเมื่อก่อน จึงต้องเรียนรู้วิธีการขับ เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ รู้ถึงจังหวะความแรงของเครืองยนต์
รถเกียร์ออโต้
รถยนต์เกียร์ออโต้บางรุ่นจะรอรอบเล็กน้อย แต่การเหยียบคันเร่งต้องศึกษา เหยียบแบบใด รถจะพุ่งแบบใด หรือเหยียบคันเร่ง รถก็พุ่งไปเลย การใช้เกียร์ออโต้มีหลายแบบเกียร์ปกติ เกียร์แบบสปอร์ต ต้องฝึกขับให้เข้าใจ ลองขับ ลองทดสอบเกียร์ดูก่อน เพื่อให้รู้ว่า เหยียบคันเร่งแบบนี้รถจะพุ่งไปแบบใด เช่น Toyota Fortuner หากต้องการออกตัวแบบพุ่ง ต้องเหยียบคันเร่งให้มิด ถอนคันเร่งแล้วเหยียบต่อ ซึ่งรถจะพุ่งเร็วขึ้น ต้องฝึกให้รู้จังหวะ เพื่อไว้ใช้เวลาแซง หรือต้องรีบออกตัวแบบเร่งรีบ ซึ่งก็จะต้องรู้ว่า รถจะพุ่งไปมากน้อยเพียงใด แรงมากจนคุมรถได้หรือไม่
เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะหากให้มือใหม่ ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน อยู่หลังพวงมาลัย แล้วสักแต่เหยียบคันเร่ง ก็จะมีโอกาสพุ่งชนคันหน้า หรือลงข้างทาง หรือเกิดอุบัติเหตุแน่นอน คุมรถไม่อยู่
ระบบเกียร์ออโต้ในรถเครื่องยนต์แรง กำลังมาก จึงต้องศึกษาให้เข้าใจ และระวังอย่าให้มือใหม่ ประสบการณ์น้อย ยังคึกคะนองขับรถนอกเสียจากจะต้องสอนให้เข้าใจให้ดีเสียก่อน ไม่เช่นนั้น จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุแน่นอน เพราะในหลายรุ่น การเหยียบคันเร่งแบบกดจนจม รถจะยังไม่พุ่งไปข้างหน้าทันที แต่หากปล่อยแล้วกดคันแรงอีกครั้ง ก็จะพุ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว อันตรายจะอยู่ตรงนี้ หากไม่เข้าใจรถมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุแน่นอน เพราะรถจะพุ่งเร็วจนควบคุมไม่อยู่ การปล่อยให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับรถ และเพิ่งจะขับครั้งแรก ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวัง หากมีความประมาท ต้องไม่ให้ขับอย่างเด็ดขาด
รถยนต์เกียร์ธรรมดา
สำหรับรถยนต์เครื่องแรง เกียร์ธรรมดา เวลาออกตัวจะไม่เหมือน รถเกียร์ออโต้ บางคันการกดคันเร่งแรงๆ รถก็จะพุ่งไปข้างหน้าทันที หลังติดเบาะเลยทีเดียว เหมือนการบิดคันเร่งมอเตอร์ไซค์ บิดแล้วพุ่งทันที ในรถยนต์เกียร์ธรรมดาเครื่องแรงๆ ก็จะคล้ายกัน ดีกว่ารถเกียร์ออโต้ เพราะแค่ปล่อยคันเร่งรถก็หยุดพุ่ง ทำความคุ้นเคยกับรถได้เร็วกว่า
รถยนต์เครื่องแรง น้อยคนจะมีโอกาสได้ขับ ดังนั้นก่อนจะปล่อยให้คนไม่มีประสบการณ์อยู่หลังพวงมาลัย จึงต้องดูให้ดีเสียก่อน หากเป็นมือใหม่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน ก็ต้องระวังในเรื่องอุบัติเหตุ หรือไม่ก็ต้องบอกให้ทดลองขับและทำความเข้าใจกับกำลังเครื่องยนต์เสียก่อน
ทำความเข้าใจกับระบบเบรคและการทรงตัวของรถ
รถแต่ละประเภท แต่ละยี่ห้อ หรือแม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกันก็ตาม สมรรถนะก็ต่างกัน ระบบเบรค ระบบความปลอดภัยก็ต่างกัน รถยนต์เล็ก หรือรถกระบะในปัจจุบันเรื่องแรงมาก แต่เบรคและช่วงช่างไม่ดีนัก เราอาจจะเห็นคลิปกระบะบ้าพลังไปชนรถหรูเข้า เพราะเห็นรถหรูขับเร็ว ก็พยายาตาม จี้ท้าย แล้วก็เบรคไม่อยู่ ต่างจากรถหรู รถสปอร์ต ซึ่งจะมีระยะเบรคสั้นมาก เบรคมีประสิทธิภาพสูงกว่า และเบรคอยู่ในระยะที่ปลอดภัยได้ แม้จะใช้ความเร็วสูง การชนท้ายรถหรูสักคันอาจจะทำให้ชีวิตล่มลมได้เลยทีเดียว
ผู้เขียนเคยนั่งรถเพื่อนซึ่งแต่งไว้แข่งในสนาม เฉพาะช่วงล่าง ยาง โช้ค แม็ก เบรค ก็หลักแสนบาท ประสิทธิภาพต่างจากรถธรรมดาจากศูนย์มาก ระยะเบรค การทรงตัว ขับปาดซ้าย ปาดขวา ไม่มีแถ ยังทรงตัวนิ่ง ดังนั้นก่อนจะขับรถแรง เครื่องแรง ก็ต้องดูช่วงล่างของรถด้วยเช่นกัน รถเล็กๆ อย่าง Honda City 1500 CC Vtec เกียร์ธรรมดา ปัจจุบันทำความเร็วได้เกิน 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ช่วงล่างเอาไม่อยู่แน่นอน แต่เครื่องแรง กดคันเร่งแล้วรถพุ่งมาก
รูปทรงของรถ ชุดแต่ง
รถที่ติดชุดแต่งหน้ารถแบบนี้ หรือออกแบบกันชนหน้าให้มีลักษณะคล้ายกัน เมื่อใช้ความเร็วสูง จะเกิดแรงลมกดหน้ารถไม่ให้ลอย อีกทั้งท้ายรถที่ออกแบบให้เหมือนเป็นสปอยเลอร์ในตัวด้วยเช่นกัน รถแบบนี้เมื่อใช้ความเร็วสูงจะยังคงทรงตัวดี
ฝึกสอนการขับรถแรงให้คนใกล้ตัว
รถสปอร์ด รถเครื่องแรง จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีขับ วิธีควบคุมรถ หากใช้งานคนเดียวก็คงจะไม่ใช่ปัญหา แต่หากมีคนใกล้ตัว ลูกหลาน ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องความแรงของรถ ก็จำเป็นต้องหาโอกาสสอนภาคปฏิบัติให้เข้าใจ เพราะหากเผลอปล่อยให้นำรถไปใช้จะมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุแน่นอน โดยเฉพาะการขับรถบนถนนจริง รถยนต์ก็ไม่ต่างอะไรกับอาวุธฆ่าคน
ประกันภัยของรถ เรื่องสำคัญที่จะต้องรู้
การขับรถแรงมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นเรื่องประกันภัยจึงเป็๋นเรื่องสำคัญที่จะต้องศึกษา ถึงความรับผิดชอบของบริษัทประกันภัย ให้ความคุ้มครองมากน้อยเพียงใด เพราะหากขับไปชนรถหรู รถแพงๆ แล้วไม่มีประกันชั้น 1 รับรองว่าอาจจะกลายเป็นคนล้มละลายแน่นนอน
การฝึกขับรถแบบต่างๆ เพื่อความปลอดภัย การควบคุมรถ
การฝึกขับรถ ฝึกควบคุมรถเครื่องยนต์แรงๆ มีหลายท่าที่ควรฝึกขับให้เข้าใจรถเช่น
1. การออกตัวแรงๆ เพื่อดูว่ารถพุ่งมากน้อยเพียงใด ต้องควบคุมแบบใด บางคันแรงมาก เหยียบคันเร่งแล้วพุ่งทันที หรือรอรอบ สักครู่ก็จะพุ่งไปข้างหน้าอย่างเร็ว ทำให้ควบคุมรถไม่ได้
2. บางคันแรงทุกย่านความเร็วเมื่อกดคันเร่ง ดังนั้น จึงต้องศึกษารถให้เข้าใจก่อน การขับรถคนอื่นจำเป็นต้องศึกษาระบบเกียร์ก่อนเพราะการเร่งความเร็วขณะแซง อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ รถแรงมากคุมไม่อยู่
3. ฝึกการเบรคให้รู้ว่า การเบรคที่ความเร็วต่างๆ รถจะหยุดได้ที่ระยะกี่เมตร อย่างรถสปอร์ต หรือรถหรู รถราคาแพง จะมีระยะเบรคที่สั้น บางคันขับขี้รถเหล่านี้ จึงมีโอกาสชนท้าย เพราะเบรคไม่อยู่ รถยังไหลต่อ ในขณะที่รถสปอร์ดนั้นจะสามารถหยุดได้ทันที ในขณะขับรถด้วยความเร็ว หากมีรถคันอื่นพยายามจะแข่ง ขับจี้มาใกล้เกินไป ก็ต้องระวังอันตรายจากการโดนชนท้าย
3. ฝึกการเลี้ยว เข้าโค้ง หักเลี้ยวกะทันหัน เพื่อดูว่ารถจะมีอาการอย่างไรบ้าง ให้เข้าใจช่วงล่างของรถ
4. ฝึกการหักหลบสิ่งกีดขวางแบบทันทีทันใด เพื่อให้รู้สถรรถนะของรถและรู้จักควบคุมรถ
5. ฝึกการขับรถบนทางชัน ขับรถขึ้นเขาลงเขา เพื่อให้เข้าใจรถ การเข้าโค้ง ความแรงของเครื่องลดลงมากน้อยแค่ไหน การควบคุมรถขณะขับบนทางเขาปัจจุบันมีวิดีโอรีวิวรถมากมาย ซึ่งสามารถศึกษารถแต่ละรุ่นแต่ละแบบเพื่อดูว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง
พื้นฐานต่างๆ เหล่านี้ เป็นความรู้ที่จำเป็นก่อนจะขับรถแรง หรือรถยนต์ทั่วไป เพราะหากไม่เข้าใจ เหยียบคันเร่งอย่างเดียว รถก็พุ่งไปข้างหน้าควบคุมไม่ได้ หลายคนแม้จะเป็นมือเก่าขับรถมานานแล้วก็ตาม การขับรถรุ่นอื่น รุ่นใหม่ รถที่ไม่คุ้นเคย ก็ต้องเรียนรู้วิธีขับ เพื่อให้สามารถควบคุมรถได้ เช่น การเหยียบคันเร่งแล้วรถพุ่งมากน้อยแค่ไหน การเบรค การทรงตัว ต้องทำความเข้าใจสักพัก อย่าเพิ่งคึกคะนอง
พฤติกรรมคนขับ เพราะรถแต่ละแบบไม่เหมือนกัน เกิดอุบัติเหตุ ขึ้นมาแล้ว ก็เป็นเรื่องใหญ่ ดูเงินในกระเป๋าตัวเองให้ดีก่อนจะไปขับรถใคร หรือก่อนจะให้ใครขับรถเรา หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะมีปัญญาชดใช้หรือไม่ จะไม่สร้างปัญหาให้ตัวเองหรือผู้อื่นในภายหลัง