วิธีดูแลรถยนต์ในหน้าฝน อาจจะต้องให้ความใสใจมากกว่าฤดูอื่น เพราะเมื่อเกิดฝนตก ก็จะมีปัญหาหลายอย่างตามมา ซึ่งอาจจะเกิดกับรถยนต์ของเรา ทำให้ไม่ปลอดภัยในการใช้งาน หรือได้รับความเสียหาย หน้านี้รถยนต์ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ เพื่อให้รถอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ เดินทางใกล้ไกล ปลอดภัย

ตัวอย่างการดูแลรถยนต์หน้าฝนในด้านต่างๆ

การดูแลรถในหน้าฝนมีหลายรายการที่ต้องใส่ใจ และดูแลมากเป็นพิเศษ เช่น

รถเก่า รถทำสี ต้องระวังเรื่องผุ

สำหรับรถเก่า รถมือสอง รถคลาสสิค รถทำสีใหม่ ต้องระวังเรื่องผุ เพราะแม้จะทำสีอย่างดีแล้วก็ตาม บางคันออกจากอู่สีได้ไม่ถึงเดือน พอหมดหน้าฝน ก็เตรียมทำสีอีกครั้ง รถแบบนี้ควรคลุมด้วยผ้าคลุมรถแบบพลาสติกกันน้ำ 100%

ผ้าคลุมรถแบบพลาสติก ป้องกันน้ำ 100%

การใช้ผ้าคลุมแบบนี้เหมาะสำหรับรถที่มีปัญหาน้ำฝนสามารถเข้าไปในตัวรถได้ เช่น กระจกมีปัญหา ยางขอบกระจกฉีกขาด รถมีรูรั่ว เป็นสนิมบนหลังคาก ในรถแวนเก่าๆ ที่ใช้หลังคาแบบไฟเบอร์กลาสที่หมดสภาพ ยางขอบกระจกหมดสภาพแล้ว น้ำจะสามารถซึมเข้าไปในตัวรถได้ ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับ เกิดเชื้อรา

เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน

หากที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่ดีนัก ปัดน้ำไม่เกลี้ยง ก็ควรเปลี่ยนใหม่ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งชุด เปลี่ยนแค่ก้านส่วนที่เป็นยางก็พอ ที่จับยางปัดน้ำฝนสามารถง้างออกแล้วถอดออกมาได้ งบไม่เกิน 100 บาท แต่ถัาเปลี่ยนทั้งก้านจะมีราคาสูง ซึ่งก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบบนั้น เวลาขับรถผ่านถนนบางเส้นทาง จะมีรถมาจอดขายมีบริการเปลี่ยนให้ด้วย ไม่ยาก

ตรวจดูน้ำฉีดกระจก

ตัวฉีดน้ำล้างกระจกและระดับน้ำควรตรวจสอบให้อยู่ในระดับพอดี เพราะขณะขับรถอาจจะมีฝุ่น โคลนจากรถคันอื่นกระเด็น กระเซ็นมาติดกระจกหน้ารถ จึงจำเป็นต้องใช้น้ำฉีดล้างกระจกหน้ารถ นอกจากนี้ในรถบางรุ่นที่เป็นรถแบบท้ายสั้น รถแฮชแบ็คที่ไม่มีที่ปัดน้ำฝนหลัง จำเป็นต้องหาวิธีทำความสะอาดกระจกหลัง หรือป้องกันไม่ให้น้ำเกาะกระจก บดบังวิสัยทัศน์ขณะขับขี่ เช่น ใช้น้ำสบู่เช็ดทิ้งไว้ เพื่อไม่ให้น้ำเกาะกระจก เป็นต้น

ตรวจสอบยางรถยนต์ ช่วงล่าง

ยางรถยนต์แต่ละประเภทแต่ละแบบรองรับการใช้งานกับสภาพถนนต่างกันไป ยางดอกหนาจะยึดเกาะถนนได้ไม่ดีนักในหน้าฝน หรือหากดอกยางเหลือน้อยก็ลดความสามารถในการยึดเกาะถนนเช่นกัน ดังนั้น จึงต้องรู้สภาพยาง และอาการรถเมื่อใช้ความเร็วระดับต่างๆ ขับผ่านน้ำท่วมขังบนถนน หรือขณะฝนตก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ

รถยนต์ขนาดเล็ก การขับรถผ่านน้ำท่วมขังบนถนนฝั่งเดียวล้อซ้ายหรือขวา หรือระดับน้ำไม่เท่ากัน ต้องจับพวงมาลัยให้มั่นระวังระหมุน รถเล็กช่วงล่างไม่ดี มีโอกาสหมุน เสียหลัก และเกิดอุบัติเหตุได้ หากขับด้วยความเร็วสูง บางคนเห็นน้ำขังบนถนน ก็นึกสนุก ขับผ่านน้ำให้แตกกระจาย รถเล็ก น้ำหนักเบา มีโอกาสหมุนได้

ตรวจสอบระบบแอร์

ในหน้าฝนหากระบบแอร์รถยนต์มีปัญหาจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะการขับรถโดยไม่เปิดแอร์จะทำให้เกิดฝ้าบนกระจกรอบคัน บดบังวิสัยทัศน์ในการขับเพราะมองไม่เห็นรถรอบด้าน ดังนั้นจะต้องตรวจสอบระบบแอร์ให้ทำงานเป็นปกติ ส่วนรถที่ไม่มีแอร์ แอร์ไม่เย็น แอร์เสีย ให้จัดการติดกันสาดเหนือประตูทุกบาน กรณีฝนตก ก็ลดกระจกลง วิธีนี้จะไม่ทำให้เกิดฝ้าบนกระจกรถทุกบานรอบคัน อันตรายมาก มองออกไปข้างนอกรถจะไม่เห็นอะไรได้ถนัด มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงมาก

ตรวจสอบความชื้นภายในรถ

ในสถานที่ที่มีความชื้นสูง จำเป็นต้องตรวจสอบความชื้นภายในรถ ดูเบาะหรือชิ้นส่วนที่เป็นหนังว่าขึ้นราหรือไม่ ควรนำรถไปจอดตากแดด เปิดประตูให้รอบด้าน เพื่อไล่ความชื้นและฆ่าเชื้อโรค

ระวังการจอดรถในที่ต่ำน้ำท่วมสูง

การจอดรถต้องดูตำแหน่งให้ดี หากพื้นที่ต่ำ มีโอกาสเกิดน้ำท่วมขังสูง อย่าได้ชะล่าใจ โดยเฉพาะรถยนต์เกียร์ออโต้ เพราะมีโอกาสสูงที่เกียร์จะได้รับความเสียหาย รถรุ่นใหม่ค่าซ่อมเกียร์หลักแสน ยิ่งรถไฟฟ้าด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวัง หากฝนตกหนักและไม่แน่ใจก็อย่าได้ลังเลที่จะย้ายตำแหน่งรถไปไว้ที่ที่ปลอดภัย

อุปกรณ์กันฝนสำหรับเจ้าของรถ

อุปกรณ์กันฝนสำหรับเจ้าของรถและสมาชิกผู้โดยสารเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน เช่น ร่มขนาดเล็กแบบพับได้ เสื้อกันฝน เพราะจำเป็นจะต้องใช้เมื่อต้องออกไปทำธุระนอกรถ หรือระหว่างการเดินไปยังรถที่จอดไว้กลางแจ้ง หรือลานจอดรถ นอกจากนี้ก็ต้องมีเสื้อผ้าสำรอง ไว้ติดรถ

ศึกษาเส้นทางขับรถ ระดับน้ำบนถนนมากน้อยเพียงใด

ระดับความสูงของน้ำบนผิวถนนอาจจะมากหรือน้อยตามปริมาณฝนที่ตกลงมา เรื่องนี้สำคัญที่จำเป็นจะต้องรู้เพื่อจะได้เลือกเวลาในการเดินทาง อย่างบางพื้นที่ขณะฝนตกจะเกิดน้ำท่วมขังระดับสูง ก็ควรหยุดรอก่อน ให้ระดับน้ำลดลง ปลอดภัยแล้วจึงออกเดินทาง

ฝนตก น้ำท่วมสูง ขับรถผ่านช้าๆ

ขณะฝนตก หากต้องขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมสูง อย่าใช้ความเร็วสูง ให้ขับช้าๆ แต่อย่าให้เครื่องยนต์ดับอย่างเด็ดขาด จะให้ดีควรรอให้มีรถยนต์ใหญ่ ขับผ่าน และก็ขับตาม รถใหญ่จะแหวกน้ำ ทำให้ระดับน้ำลดลง จะขับได้ง่ายกว่า ระดับน้ำน้อยลง แต่ดูให้ดี รถจะต้องไหลอย่างต่อเนื่อง เพราะถ้าหยุด น้ำจะไหลกลับมา ระดับน้ำจะสูงเท่าเดิม

ในหน้าฝนจำเป็นต้องดูแลใส่ใจรถยนต์มากเป็นพิเศษ เพราะน้ำฝน น้ำบนผิวถนน ความชื้นที่เกิดความเย็น มีโอกาสทำให้รถเกิดปัญหาได้ หากไม่ดูแลให้ดี สำหรับรถใหม่ก็ไม่น่าเป็นห่วงนักแต่หากเป็นรถยนต์มือสอง รถเก่าแล้ว โดยเฉพาะรถคลาสสิค ควรเก็บเข้ากรุเสียจะดีกว่า รถเหล่านี้ไม่เหมาะใช้งานในหน้าฝน เพราะหลังหมดฝนอาจจะมีค่าทำสีหลักหมื่นตามมา