เนื้อหาที่จะนำมาสร้าง E-book เพื่อใช้กับเครื่อง Amazon Kindle จะแยกเป็น 2 ประเภท
A.หนังสือฟรี บทความฟรีในเว็บไซต์ต่างๆ
เราสามารถก็อปปี้หนังสือฟรีหรือรวบรวมบทความฟรีจากเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อนำมาเรียบเรียง ปรับแต่งรูปเล่มใหม่ ใส่ภาพประกอบ ฯลฯ แล้วสร้างเป็น E-book แต่ E-book แบบนี้จะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าหนังสือที่แต่งเองเขียนเอง จะได้ผลตอบแทนถ้าขายได้ ต่อเล่มที่ 35% เท่านั้น

ตัวอย่างเว็บไซต์รวมหนังสือไม่มีลิขสิทธิ์
เว็บไซต์เหล่านี้จะมีหนังสือที่ไม่มีลิขสิทธิ์หรือหมดลิขสิทธิ์คุ้มครองแล้วซึ่งเรียกว่า PD หรือ Public Domain Books ซึ่งเป็นหนังสือที่ผลิตก่อนปี 1923 มีมากมายให้เลือกมาทำ E-book เพื่อส่งไปขายกับเว็บไซต์ Amazon เป็นทางเลือกง่ายๆ ที่คนไทยและคนทั่วโลกนิยมทำกัน ในการสร้าง E-book หลายคนมีเป็นร้อยถึงพันเล่มในมือ
http://www.mobipocket.com/freebooks/default.aspx
http://manybooks.net/
http://www.smashwords.com/books/category/1/newest/0/free/any
http://www.feedbooks.com/userbooks/top?added=month
http://www.gutenberg.org

ตัวอย่างเว็บไซต์ให้บริการฟรีบทความ
เว็บไซต์เหล่านี้จะมีฟรีบทความที่สามารถรวบรวมมาทำเป็นหนังสือหรือ E-book สำหรับ Amazon Kindle ได้เช่นกัน อาจจะรวบรวมมาเรียบเรียงใหม่ แล้วทำรูปเล่ม ภาพประกอบเพิ่มเข้าไป ก็เป็นอีกทางเลือกในการผลิต E-book
http://findarticles.com
http://www.articlecity.com
http://ezinearticles.com
http://www.goarticles.com
http://www.free-articles-zone.com
http://www.articleworld.net
http://www.amazines.com
http://www.isnare.com
http://www.articlesbase.com
http://en.wikipedia.org/wiki/Wikipedia:Unusual_articles
http://www.freerepublic.com

B.E-book หรือหนังสือที่แต่งเอง
สำหรับท่านใดที่มีความสามารถในการเขียนเป็นภาษาอังกฤษ การทำ E-book แบบนี้จะได้ผลตอบแทนมากกว่าการนำหนังสือไม่มีลิขสิทธิ์มาทำเป็น E-book นอกจากการแต่งเองแล้ว หลายคนก็จ้างนักเขียนต่างชาติ ค่าใช้จ่ายในการผลิตอาจจะสูงแต่ถ้าขายได้ ก็ได้ส่วนแบ่งมากกว่า โดยจะได้ที่ 70% ของราคาปกต่อเล่ม

ผู้ให้บริการเขียนบทความหรือหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับเว็บไซต์คนไทยลองติดต่อที่ contentazon.com
ส่วนการติดต่อผู้เขียนชาวต่างชาติลองเข้าไปค้นหาในเว็บไซต์ fiverr.com มีผู้ให้บริการเยอะมาก ทุกรูปแบบเลยทีเดียว แต่ก่อนจะใช้บริการควรจะศึกษาในเรื่องการทำระบบชำระเงินผ่านอินเตอร์เน็ตของคุณเองให้เรียบร้อย

Details

Category: สร้างอีบุ๊คสำหรับเครื่อง Kindle Ebook Reader

Hits: 5396

บทความแสดงตัวอย่างการนำเนื้อหาหนังสือที่ไม่มีลิขสิทธิ์มาสร้างเป็น E-book สำหรับเครื่อง Amazon Kindle
เว็บไซต์ที่เราจะนำหนังสือมาทำ จะเป็นตัวอย่างที่เว็บไซต์ gutenberg.org ที่เว็บไซต์แห่งนี้มีหนังสือเป็นแสนเล่มให้เลือกมาทำ E-book

ก่อนจะเริ่มทำการสร้าง ให้ติดตั้งโปรแกรม Kompozer โปรแกรมจัดการกับเอกสารแบบ HTML ลงในเครื่องของเราให้เรียบร้อยก่อน
พร้อมแล้วก็เริ่มกันเลย เพื่อไม่ให้เนื้อหายาวเกินไปนักจะแบ่งเป็นตอนๆ ดังนี้
ขั้นตอนการดาวน์โหลดเนื้อหาหนังสือฟรี
เป็นขั้นตอนการเลือกหนังสือ ค้นหาหนังสือที่เราต้องการ
1. ไปยังเว็บไซต์หนังสือฟรีเช่น gutenberg.org
2. ค้นหาหนังสือโดยพิมพ์ชื่อหนังสือในส่วน search site แล้วกด Enter
3. หรือคลิกเลือกหนังสือที่ต้องการ

4. จะไปยังหน้าให้เลือกดาวน์โหลด eBook ซึ่งจะมีหลายแบบเช่น HTML, EPUB, Kindle แนะนำให้ดาวน์โหลด Kindle (with images) มาดูเป็นตัวอย่าง เพราะนี่คือหนังสือที่เค้าทำเสร็จแล้วนั่นเอง ให้คลิกเพื่อดาวน์โหลด
5. จะปรากฏกรอบข้อความขึ้นมา ให้คลิกเลือก Save ไฟล์เก็บไว้ เพื่อไว้เปิดดูตัวอย่าง
6. กลับไปที่รายการอีบุ๊คให้ดาวน์โหลดอีกครั้งแล้วคลิกเลือกแบบ HTML เราจะดาวน์โหลดอีบุ๊คแบบนี้ไปทำในแบบของเราเอง

7. จะปรากฏหน้าจอแสดงเนื้อหาของหนังสือแบบ HTML หรือแสดงเป็นเว็บเพจนั่นเอง
8. ให้คลิก File>>Save Page As..

9. คลิกเลือกโฟลเดอร์เพื่อเก็บไฟล์
10. คลิกและพิมพ์ชื่อไฟล์ เช่น 39111-h เสร็จแล้วคลิก Save ไฟล์ที่ได้นี้เราจะนำไปทำอีบุ๊คสำหรับ Amazon Kindle ในแบบฉบับของเราเอง ซึ่งนอกจากไฟล์เนื้อหาแล้วก็จะมีโฟลเดอร์ไอคอนสีเหลืองที่เก็บภาพประกอบของ หนังสือในนั้นด้วย

11. สรุปการดาวน์โหลดมาจะมี 2 ไฟล์ ไฟล์แรกเป็นไฟล์แบบ HTML ส่วนแบบที่สองจะเป็น prc หรือ .mobi ซึ่งผ่านการแปลงเป็นไฟล์อีบุ๊คสำหรับเครื่อง Amazon Kindle เรียบร้อยแล้ว เราต้องการดาวน์โหลดมาดูเป็นตัวอย่าง ไฟล์ที่ได้เช่น pg3911-images การเปิดดูจะใช้โปรแกรม Kindle Previewer

12. ให้เปิดโปรแกรม Kindle Previewer ขึ้นมาก่อน แล้วคลิก File>>Open Book
13. คลิกเลือกไฟล์อีบุ๊คที่ได้ดาวน์โหลดมาชื่อ pg3911-images แล้วคลิก Open

14. ตัวอย่างหนังสือที่ได้สร้างเป็นอีบุ๊คไว้แล้ว คลิกปุ่มเลื่อนดูหน้าต่างๆ ได้ตามต้องการ สิ่งที่เห็นและต้องแก้ไขก็คือ ข้อความส่วนแรก ก่อนแสดงชื่อหนังสือจะเป็นข้อความของเว็บไซต์ gutenberg.org แสดงรายละเอียดการปรับแต่งหนังสืออีบุ๊คเล่มนี้ ถัดไปก็จะเป็นชื่อหนังสือ สารบัญและเนื้อหาแต่ละบทแต่ละตอน
15. สิ่งที่ต้องสนใจก็คือพวกภาพประกอบต่างๆ ในเล่ม เพราะนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำใหม่แล้วใส่ลงไป
16. กรณีที่เราไม่ได้คิดจะทำอีบุ๊ค ก็ไม่ต้องทำอะไรกับอีบุ๊คเล่มนี้ เก็บไว้อ่านได้เลย แต่ในบทความที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้ เน้นการทำอีบุ๊คเพื่อส่งไปขายกับเว็บไซต์ Amazon จึงต้องมีการแก้ไขหนังสือให้เป็นแบบฉบับของเราเอง มีการเพิ่มเนื้อหา คำอธิบาย เพิ่มภาพประกอบ เพื่อให้ดูเป็นหนังสือที่มีคุณค่ามากกว่าหนังสือฟรี เมื่อคนซื้อเสียเงินซื้อ ก็ควรจะได้ในสิ่งที่มากกว่าหนังสือฟรี

Details

Category: สร้างอีบุ๊คสำหรับเครื่อง Kindle Ebook Reader

Hits: 4597

หนังสือฟรีและบทความฟรีที่มีมากมายเป็นแสนเรื่องหรือเป็นแสนๆ บทความ แล้วเราจะเลือกแบบไหนดี?
หลักการเลือกหนังสือเป็นแนวทางที่ผมพยายามรวบรวมจากเว็บไซต์ต่างๆ มาเรียบเรียงให้ใหม่เพื่อความสะดวกในการอ่าน เช่น
1. ดูความนิยมของผู้คนในอเมริกา และยุโรป ดูหนัง ละคร เหตุการณ์ สัตว์เลี้ยง เรื่องราวต่างๆ ที่เป็นที่น่าสนใจ
2. ค้นหาหนังสือที่เกี่ยวข้อง ว่ามีหรือไม่
3. นำรายชื่อหนังสือไปค้นหาในเว็บไซต์ Amazon เพื่อดูว่ามีใครนำเสนอเรื่องอะไรบ้าง แต่ละเรื่องมีกี่เล่ม ยอดขายเป็นอย่างไร ช่อง Search คลิกเลือก Kindle Store ช่องถัดไปพิมพ์ชื่อหนังสือที่ต้องการค้นหา ว่ามีขายในอเมซอนหรือยัง

4. หากไม่มีคนทำ หรือคนทำหนังสือในแนวที่ว่ามีน้อย ก็จัดการก็อปปี้เนื้อหาในเว็บไซต์หนังสือฟรีหรือบทความฟรี มาเรียบเรียงใหม่ เป็นไฟล์แบบ TXT โดยก็อปปี้เก็บไว้ในโปรแกรม Notepad หรือ Save เป็น HTML ก็ได้ ไว้แก้ไขใน Kompozer ต่อไป

5. นอกจากตัวเนื้อหาของหนังสือล้วนๆ แล้ว ให้ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือนั้นๆ เท่าที่จะหาได้ เพื่อนำมาใส่เพิ่มในหนังสือให้ดูดี และเป็นที่สนใจของ Amazon ไม่เช่นนั้นอาจจะไม่รับหนังสือเราไปขาย เช่น ประวัติผู้แต่ง ผลงานอื่นๆ ที่มี หนังสือเด่นๆ บทวิจารณ์เกี่ยวกับหนังสือ ข้อมูลการเอาเนื้อหาในหนังสือไปทำละคร ภาพยนตร์ หาได้จาก google.com และ Wikipedia.com อาจจะมีรายละเอียดของเราไว้ด้วย ในฐานะผู้เรียบเรียงเล่มใหม่ บทเกริ่นนำของหนังสือ ค้นหาหนังสือแนวเดียวกันในอเมซอน ดูสไตล์การเขียน ข้อมูลเพิ่มเติมแบบนี้เราเรียกว่า Annotated เราจะใส่คำนี้ไปท้ายชื่อเรื่องของหนังสือเล่มนั้น ทำให้ดีและเยอะพอสมควรจะผ่านการพิจารณาง่ายขึ้น ถ้าส่งไปฝากขายกับ Amazon อาจจะรวบรวมเนื้อหา แล้วจ้างคนเรียบเรียงให้อีกที ลองติดต่อที่ fiverr.com

6. ภาพประกอบหนังสือ ลองค้นหาภาพที่เกี่ยวข้อง อาจจะค้นภาพใน Google หรือ แล้วจ้างคนวาดภาพประกอบใหม่

สรุปการทำงาน
ให้สร้างโฟลเดอร์เก็บหนังสือตามชื่อหนังสือที่เลือกมา
1. Myebookkindle เป็นโฟลเดอร์หลักที่เก็บไฟล์อีบุ๊คทั้งหมด
2. ในโฟลเดอร์หลักได้สร้างโฟลเดอร์ย่อยตามชื่อหนังสือเช่น The Devourers
3. ในโฟลเดอร์นี้ก็เก็บไฟล์ HTML ที่เป็นหาหนังสือ
4. สร้างโฟลเดอร์ชื่อ Annotated ไว้เก็บข้อมูลที่ดาวน์โหลดมาจากอินเตอร์เน็ต เอาไว้เรียบเรียงใส่เพิ่มเข้าไป
5. สร้างโฟลเดอร์ชื่อ images เก็บไฟล์ภาพที่เกี่ยวข้องกับหนังสือ เอาไว้ใส่ประกอบในหนังสือ หรือทำปกหนังสือ

Tips

เทคนิคในการเลือกหนังสือยังมีมากกว่านี้ ลองค้นหาได้ตามบทความต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม

Details

Category: สร้างอีบุ๊คสำหรับเครื่อง Kindle Ebook Reader

Hits: 4025

ในการแก้ไขจะใช้โปรแกรม Kompozer แก้ไขเนื้อหาในหนังสือฟรีที่ดาวน์โหลดมา
1. ให้เปิดโปรแกรม Kompozer ขึ้นมาก่อน แล้วเปิดไฟล์ HTML ที่ได้ Save ไว้ขึ้นมา โดยคลิก File>>Open File
2. คลิกเลือกไฟล์ชื่อ 39111-h แล้วคลิก Open

3. เมื่อเปิดไฟล์ขึ้นมาแล้ว ส่วนแรกสุดหรือส่วนหัวของอีบุ๊ค จะเป็นข้อความแสดงรายละเอียดการปรับแต่งโดยทางเว็บไซต์ Gutenberg.com เราต้องลบออกไป โดยสร้างแถบสีแล้วกด Delete ลบออกไป

4. ถัดไปจะเป็นปก เราก็จัดการลบออกเช่นกัน
5. ให้เริ่มต้นที่ชื่อหนังสือและชื่อผู้แต่ง

6. ในส่วนท้ายหรือตอนจบของอีบุ๊คก็เช่นกัน ให้เลื่อนไปจนถึงตอนจบ ถัดจากนั้นก็จัดการลบให้หมด กรณีที่ต้องการเพิ่มเนื้อหา ที่เราได้รวบรวมเพิ่มเติม เช่น ประวัติผู้แต่ง บทรีวิว ฯลฯ หรือ Annotated ต่างๆ ก็ใส่ในส่วนนี้ ถัดต่อจากเนื้อหาของหนังสือ ลบของเดิมออกแล้วใส่ของเราเข้าไปแทน
7. เสร็จแล้วก็จัดการบันทึกเก็บไว้ โดยคลิก File>>Save As

8. คราวนี้ก็ตั้งชื่อตามชื่อหนังสือไปเลย เช่น Miser farebrother เสร็จแล้วคลิก Save
9. ไฟล์ที่ได้จะเป็นไฟล์แบบ HTML เราจะนำไปทำอีบุ๊คในแบบฉบับของเราเองในโปรแกรม MobiPocket Creator ต่อไป

Details

Category: สร้างอีบุ๊คสำหรับเครื่อง Kindle Ebook Reader

Hits: 4355