Sponsored Ads

บทความแนะนำ วิธีจัดการกับรหัสผ่าน เพื่อใช้บริการต่างๆ ซึ่งนับวัน มีแนวโน้ม เพิ่มมากขึ้น นอกเหนือจากรหัสบัตร ATM เช่น การโอนเงินการใช้แอป การใช้มือถือสมาร์ทโฟน การใช้อีเมล์ และบริการต่างๆ อีกมากมาย หากบริหารจัดการไม่ดี จำรหัสผ่านไม่ได้ ก็จะสร้างปัญหาอย่างแน่นอน เพราะรหัสผ่านยากกว่าบัตร ATM

 

ความสำคัญของรหัสผ่าน

เมื่อก่อนรหัสผ่านที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนเรา อาจเป็นเพียง ATM เท่านั้น ที่จะต้องจำให้ได้ แต่ทุกวันนี้ เราใช้มือถือ Android หรือ iPhone ซึ่งจะมีเรื่องของอีเมล์ และรหัสผ่านเข้ามาเกี่ยวข้องอีกทั้ง การทำธุรกรรมหลายอย่างผ่านอุปกรณ์เหล่านี้ จำเป็นต้องมีเรื่องของรหัสผ่าน เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งยาวกว่ารหัสบัตร ATM หากจำไม่ได้ การใช้อุปกรณ์เหล่านี้จะมีปัญหาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกรณีที่เครื่องหาย หากจำอีเมล์และรหัสผ่านได้ ก็จะดึงข้อมูลหรือกู้ข้อมูล กลับคืนมาได้

 

ความสำคัญ ของซิมมือถือ อีเมล์ และรหัสผ่าน

รหัส ATM เป็นรหัสผ่านตัวเลข 4 หลัก ที่เราคุ้นเคยกันดี และใช้กันเป็นประจำ แต่ทุกวันนี้ โลกเปลี่ยนไป การโอนเงินไม่ต้องไปทำรายการที่ Counter หรือตู้ ATM เราสามารถจัดการการโอนเงิน ชำระเงิน ผ่านมือถือได้เลย เพียงแต่ต้องใช้ข้อมูล ที่มากกว่าบัตร ATM ซึ่งใช้รหัสผ่าน 4 ตัวเท่านั้น
1. ทุกวันนี้ ต้องมีหมายเลขโทรศัพท์ มือถือ ส่วนตัว และอย่าเปลี่ยนบ่อย
2. ต้องมีอีเมล์ และรหัสผ่าน จากนั้นให้จับคู่ Email กับหมายเลขโทรศัพท์มือถือ กรณีลืมรหัสผ่าน ส่งอีเมล์ ก็ให้ระบบ ส่งรหัสผ่าน เข้ามือถือ เพื่อกู้รหัสผ่านอีเมล์
3. การสมัครบริการต่างๆ สมัคร Facebook, Line ฯลฯ ก็จะใช้อีเมล์ และรหัสผ่าน เพื่อยืนยันข้อมูลการสมัคร

 

Gmail อีเมล์หลัก ที่จำเป็นต้องมี

อีเมล์มีผู้ให้บริการหลายราย แต่สมัครอีเมล์ของ Gmail รายเดียวก็พอแล้ว ซึ่งก็จะใช้บริการต่างๆ ได้ครอบจักรวาลเลยทีเดียว เช่น
1. รับส่งอีเมล์ คนส่วนใหญ่ อาจใช้ไม่บ่อยนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการ ซื้อของผ่านเน็ต ซึ่งจะมีการส่งอีเมล์ เพื่อยืนยันการสั่งซื้อ
2. ใช้งานมือถือ หรือแท็บเล็ต ระบบแอนดรอยด์ ต้องมีอีเมล์ Gmail
3. ใช้บริการ พื้นที่เก็บข้อมูลฟรี Google Drive
4. ใช้บริการ ที่เก็บภาพฟรีกับ Google Photos
5. ใช้บริการ YouTube
6. ใช้สร้างรายได้ หาเงินกับ adsense อย่างการทำเว็บไซต์ หรือวิดีโอ Youtube
7. ใช้บริการแผนที่ เพื่อหาเส้นทาง การเดินทาง
8. ใช้อีเมล์ Gmail ไปสมัคร บริการอื่นๆ เป็นหลักฐานหรือกรณีสมัครบริการต่างๆ สมัคร Line, Facebook, Twitter ฯลฯ ก็มักจะส่งอีเมล์เป็นหลักฐาน เพื่อเก็บข้อมูลรหัสผ่าน ข้อมูลการสมัครเอาไว้ หากลืมก็เข้ามาจัดการสร้างบัญชีใหม่ผ่านอีเมล์ได้ ใช้อีเมล์เป็นที่เก็บข้อมูลสำคัญได้เช่นกัน

 

ผู้ให้บริการอีเมล์

ผู้ให้บริการอีเมล์ มีหลายราย แต่ควรยกเลิก ให้หมด เหลือไว้ Gmail รายเดียวก็พอแล้ว หากมีความจำเป็นต้องใช้ให้หลายอีเมล์ ให้ตั้งค่าการส่งต่อหรือฟอร์เวิร์ดเมล์จากอีเมล์อื่นไปที่ Gmail หลัก เพื่อจะได้ไม่พลาดการรับข่าวสาร

 

การสร้างอีเมล์และรหัสผ่านกับ Gmail

Gmail เป็นบริการอีเมล์ฟรี โดย Google ทุกคนจำเป็นต้องมี เพราะแทบทุกคนต้องใช้มือถือระบบแอนดรอยด์ ซึ่งระบบนี้ต้องใช้อีเมล์ Gmail การสมัครและสร้างอีเมล์มีคำแนะนำดังนี้
1. ชื่อบัญชีอีเมล์ ให้ใช้ชื่อจริง นามสกุล เป็นชื่อบัญชี ตัวอย่าง manit kringram ก็จะใช้อีเมล์ This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it. ชื่ออาจค่อนข้างยาว แต่ไม่ซ้ำกับใคร อย่างแน่นอน
2. การใช้รหัสผ่าน ให้ตั้งระดับความยากของรหัสผ่าน โดยผสมตัวอักษร ภาษาอังกฤษ ตัวพิมพ์เล็ก ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวเลขและอักขระพิเศษ รวมแล้วอย่างน้อย 10 ตัวขึ้นไป เช่น
- M5kbY$8*A9m
หลีกเลี่ยงการตั้งรหัสผ่านง่ายๆ ด้วยตัวเลขอย่างเดียวหรือเบอร์โทรศัพท์หรือชื่อนามสกุล เพราะสามารถแกะรหัสผ่านได้ไม่ยาก
3. จับคู่เบอร์โทรศัพท์ กับอีเมล์ เพื่อเอาไว้กู้รหัสผ่าน กรณีลืมรหัสผ่านอีเมล์

 

สำคัญมาก การจัดเก็บข้อมูลอีเมล์และรหัสผ่าน

หลังจากสร้างอีเมล์และรหัสผ่านเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เขียนใส่กระดาษ และเก็บไว้ในที่ปลอดภัย อีเมล์และรหัสผ่าน มีความสำคัญ ต้องเก็บไว้ให้ดี เพราะในอนาคต หากซื้อมือถือเครื่องใหม่ ก็สามารถนำอีเมล์ และรหัสผ่าน ไปตั้งค่าได้เลย ซึ่งก็จะเรียกใช้ข้อมูลเก่าได้ หลายคนลืมอีเมล์ และรหัสผ่าน การสร้างอีเมล์ใหม่ ก็จะดึงข้อมูลเก่ากลับคืนมาไม่ได้ อย่างภาพที่เคยถ่ายไว้ หมายเลขโทรศัพท์ และพื้นที่เก็บไฟล์ฟรี ที่ Google ได้ให้บริการ

 

สมัครบริการอื่น ด้วยอีเมล์ และรหัสผ่านเดียวกัน

การใช้บริการต่างๆในทุกวันนี้ จำเป็นต้องสมัครเป็นสมาชิก เสียก่อน ซึ่งให้ใช้อีเมล์และรหัสผ่าน ของ Gmail ที่ได้สร้างไว้ ไปสมัครบริการเหล่านั้นเช่น
- สมัคร ลาซาด้า ไว้ซื้อสินค้าผ่านเน็ต
- สมัคร PayPal ไว้รับเงิน โอนเงิน
- สมัคร Facebook Line Instagram ทวิตเตอร์ ฯลฯ
เพียงแต่กำหนดระดับความยากของ รหัสผ่าน ให้น้อยกว่า รหัสผ่าน ที่ใช้กับอีเมล์หลัก ตัวอย่าง
รหัสผ่านหลัก M5kbY$8*A9m
ก็ลดให้เหลือน้อยลง M5kbY$8*
เหลือไว้ 8 ตัวเท่านั้น หากสามารถจำรหัสผ่านหลักได้ ก็ยากจะลืมรหัสผ่านที่ใช้สมัครบริการอื่นๆ เพราะข้อมูลการสมัครจะถูกเก็บไว้ในอีเมล์ของรหัสผ่านหลัก เข้าไปดูได้ตลอดเวลา หรือหากมีคนแอบแกะรหัสผ่านได้ ก็จะเข้าไม่ถึง รหัสหลัก ที่ใช้กับอีเมล์ ก็ยังพอจะกู้คืนบัญชีเหล่านั้นได้

 

ต้องจำรหัสผ่านหลักของอีเมล์ให้ได้

การฝึกจำรหัสผ่านหลักของอีเมล์ Gmail เป็นเรื่องยากแต่ก็สามารถฝึกได้
1. ฝึกจำอีเมล์ และรหัสผ่าน โดยการเช็คเมล์ทุกวัน ด้วยการป้อนอีเมล์และรหัสผ่านทุกครั้ง โดยเข้าแอป Chrome ในมือถือ และต้องออกจากระบบทุกครั้ง
2. เขียนอีเมล์ และรหัสผ่าน ลงกระดาษทุกวัน ก็จะจำได้ไม่ลืมง่ายๆ เมื่อก่อนผู้เขียนถอนเงินกับเคาต์เตอร์ธนาคารบ่อย ต้องเขียนหมายเลขบัตรประชาชนลงไปด้วย จึงจำได้แม่น รหัสผ่านอีเมล์หรือรหัสผ่านสำคัญอื่นๆ ก็จำได้ทั้งหมด เพราะพยายามจำทุกวัน ส่วนรหัสผ่านที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็เอาไปไว้ในอีเมล์นั่นแหละ สร้างอีเมล์เปล่าๆ ไว้ แต่อย่าส่งให้ใครเชียวนะ ไว้ดูรหัสผ่านของตัวเอง

 

จำอีเมล์ และรหัสผ่านได้ มีประโยชน์อย่างไร

การจำรหัส ATM ได้ การกดเงินก็ไม่ใช่ปัญหา ส่วนการจำอีเมล์ และหักผ่านได้นั้น หากเคยใช้มือถือ Android มาก่อน เคยถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ และนำข้อมูล ไฟล์เหล่านั้น ไปเก็บไว้ ในพื้นที่ฟรี ที่ Google ให้บริการไว้ ก็จะสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้

กรณีเครื่องหาย ก็ไม่ต้องกลัว ว่าข้อมูลจะหายไปด้วย เพียงแค่ นำอีเมล์ และรหัสผ่าน ไปตั้งค่าในเครื่องใหม่ ก็จะใช้งานได้เหมือนเดิม ดึงข้อมูลเก่ากลับคืนมาได้ หรือสามารถใช้มือถือเครื่องอื่น ใช้คอมพิวเตอร์ เข้าระบบผ่านแอป Chrome เพื่อไปเปลี่ยนรหัสผ่านอีเมล์ได้ทันที ป้องกันคนที่เก็บเครื่องได้ ไม่ให้เข้าถึงข้อมูลในอีเมล์ของเราได้ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องจำอีเมล์และรหัสผ่านไม่ได้ อย่างน้อย 1 บัญฃี

 

การดูอีเมล์หลักของมือถือแอนดรอยด์

สำหรับผู้ใช้มือถือแอนดรอยด์จะมีอีเมล์หลัก Gmail หลักประจำเครื่อง
1. เข้าไปที่การตั้งค่า แล้วแตะ บัญชี
2. แตะเลือก Google
3. ตัวอย่างอีเมล์หลักซึ่งจะต้องจำรหัสผ่านให้ได้ ถ้าจำไม่ได้ ก็ต้องสร้างอีเมล์ใหม่ แล้วจดไว้ให้ดี

 

จับคู่ Email รหัสผ่านและเบอร์โทรศัพท์มือถือ เข้าด้วยกัน

เมื่อได้สร้างอีเมล์และรหัสผ่าน เรียบร้อยแล้ว จะต้องจับคู่ Email และเบอร์โทรศัพท์มือถือเข้าด้วยกัน เอาไว้กู้ข้อมูล ในกรณีที่ลืมรหัสผ่าน ก็ให้ระบุส่งรหัสผ่าน เป็น SMS เข้ามือถือ วิธีนี้ก็ยากที่จะลืมรหัสผ่าน แต่ห้ามเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์บ่อยๆ หากเปลี่ยนต้องเข้าไปแก้ไขหมายเลขโทรศัพท์

 

ใช้อุปกรณ์อื่น จัดการ Email

สำหรับอีเมล์ Gmail ที่ได้สร้างไว้ เราสามารถ เข้าไปจัดการกับข้อมูล หรือบริการ ของ Google ผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เช่น การใช้มือถือเครื่องอื่น ผ่านแอป Chrome หรือการใช้คอมพิวเตอร์ โดยใช้โปรแกรม Chrome เช่นกัน กรณีเครื่องหมาย หรือเครื่องพัง ก็ใช้วิธีนี้ได้เลย เพียงแต่ต้องจำรหัสผ่านให้ได้ ก็ไม่มีปัญหาในการเข้าถึงข้อมูลของตัวเอง ยืมเครื่องใครใช้ก่อนก็ได้ แต่อย่าลืมออกจากการใช้งาน

 

การใช้อีเมล์ เป็นที่เก็บข้อมูลลับ

กรณี สมัครบริการต่างๆ ไว้เป็นจำนวนมาก มีบัญชีที่ต้องใช้งาน หลายบัญชี ทั้งธนาคารเล่นหุ้น Facebook Line หรือบริการใดๆ ก็ตาม บางคนมีปัญหาในการจดบันทึกรหัสผ่าน บางคนก็จดลงสมุด เก็บไว้ที่บ้านหรือที่ทำงาน ผู้เขียนแนะนำให้ สร้างเป็นอีเมล์เก็บไว้ ในกล่องจดหมาย เพียงแต่จะต้องจำรหัสผ่านอีเมล์หลักให้ได้ ก็จะไม่มีปัญหา แม้ว่าจะมีบัญชีต่างๆเป็นร้อยเป็นพันก็ตาม เครื่องหาย ก็ยืมมือถือคนอื่นมาใช้ได้ เข้าผ่านแอป Chrome เล่น Facebook ก็ผ่านมือถือคนอื่นผ่านแอป Chrome ได้เช่นกัน

 

ความปลอดภัย ในการใช้มือถือ Android

กรณีต้องใช้มือถือ Android เพื่อทำธุรกรรมการเงิน การโอนเงิน ต้องติดตั้งแอปช่วยรักษาความปลอดภัย ป้องกันไวรัส ซึ่งอาจแฝง เข้ามาอยู่ในเครื่อง และแอบดักรหัสผ่าน การใช้บริการเว็บไซต์ทั้งธนาคาร Facebook อาจจะทำผ่านแอป Chrome ไม่ต้องติดตั้งแอปของหน่วยงานนั้นๆ และป้อนรหัสผ่านทุกครั้ง ไม่สะดวก แต่ก็ยากที่จะแกะรหัสผ่าาน หากเครื่องไม่ติดไวรัส ที่มาแอปดักจับรหัสผ่าน

 

การใช้อีเมล์สำหรับคนธรรมดาทั่วไป

สำหรับคนธรรมดาทั่วไป ที่ไม่ได้ทำงาน ที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ อาจจะไม่มีอีเมล์ และรหัสผ่าน หรือบัญชี ที่สมัครบริการต่างๆ มากเท่าใดนัก แต่อย่างน้อย ก็จะต้องมีอีเมล์หลักไว้ 1 บัญชี ก็คือ Gmail และต้องจำรหัสผ่านให้ได้ เพียงแค่นี้ชีวิตก็จะง่ายขึ้นแม้จะมีบริการต่างๆสมัครไว้จำนวนมากก็ตาม

 

การใช้แอปบางตัวช่วยเก็บรหัสผ่าน

การใช้แอปบางตัวสำหรับพิมพ์ข้อความ เช่น Fastnotepad จะสามารถตั้งรหัสผ่านในการเข้าแอปได้ ดังนั้นก็จะสามารถพิมพ์ข้อความลับไว้เก็บข้อมูลรหัสผ่าน กรณีมีรหัสผ่านจำนวนมาก