การทำงานที่จะต้องเกี่ยวกับน้ำ สัมผัสน้ำทุกวัน ก็จะมีโอกาสกลายเป็นโรคน้ำกัดเท้า กัดนิ้ว กัดซอกเล็กมือเล็บเท้า ซึ่งก็มีวิธีป้องกันหลายแบบ ตลอดจนการรักษา โรคน้ำกัด ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดตามมาเมื่อต้องถูกน้ำ สัมผัสน้ำอยู่ทุกวัน

 

สำหรับคนที่ทำงานกับน้ำอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว อาจจะมีวิธีป้องกัน แต่คนที่ไม่เคยทำงานมาก่อน จำเป็นจะต้องรู้เพราะหากเกิดอาการน้ำกัดเท้า กัดมือ กัดนิ้วขณะทำงาน ก็จะเป็นอุปสรรคในการทำงานอย่างแน่นอน ไม่สามารถทำงานต่อได้

 

อาชีพที่ต้องโดนน้ำ เกี่ยวกับน้ำ มีหลายอาชีพ เช่น ช่างเสริมสวย ต้องสระผมให้ลูกค้าอยู่บ่อยๆ ชาวไร่ชาวสวน การดูแลสวน อาชีพเกี่ยวกับการเกษตร อาชีพส่งน้ำ ส่งน้ำแข็ง หรืออาจจะมีความจำเป็นจะต้องทำสวน หรือทำงานชั่วคราวที่จะต้องสัมผัสน้ำ

 

วิธีป้องกันโรคน้ำกัดเท้า

เมื่อต้องทำงานกับน้ำ สัมผัสน้ำ โดนน้ำ จำเป็นจะต้องรู้วิธีป้องกัน ซึ่งมีหลายวิธีเช่น
1. ใส่รองเท้ายางป้องกัน ให้ใส่ถุงเท้าไว้ข้างในด้วยเช่นกัน
2. ใส่ถุงมือหากต้องทำงานที่ต้องล้างอยู่บ่อยๆ
3. ทาขี้ผึ้งเบอร์ 28 กันน้ำเข้าได้เช่นกัน
4. รีบทำให้มือเท้าแห้งทันที หรือหลังจากเลิกงาน ต้องทำให้แห้ง

 

การรักษาโรคน้ำกัดเท้า กัดนิ้วด้วยตัวเองเบื้องต้น

เมื่อเกิดอาการน้ำกัดส่วนต่างของร่างกาย การรักษาเบื้องต้น มีหลายแบบเช่น
1. แช่เท้าหรือมือในสารส้ม
2. ทาขี้ผึ้งเบอร์ 28 เพื่อป้องกันน้ำ หากยังจะต้องทำงานต่อ
3. หมั่นดูแลมื้อเท้าให้แห้ง
4. ในซอกเล็กเท้า หมั่นทำความสะอาด และทำให้แห้ง หากมีกลิ่นจากซอกเล็กแสดงว่า น่าจะเกิดเชื้อรา ต้องรีบทายา จะมียาประเภทหยอด
5. ทายาปฏิชีวนะ เช่น Travogen แต่ต้องทาอย่างต่อเนื่อง ไม่เช่นนั้นเชื้อจะดื้อยา

สรุป

น้ำตามธรรมชาติ สนามหญ้า ในคลองทุกวันนี้ ไม่ได้สะอาดเหมือนสมัยหลายสิบปีก่อน จึงไม่ควรมองข้ามโรคเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ เพราะมีสิ่งหรือสารเจอปนที่เป็นอันตราย อาจจะทำให้ติดเชื้อ เจ็บป่วยและตายได้ การมีบาดแผลและต้องโดนน้ำจึงเป็นเรื่องใหญ่ไม่น้อย หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด อาจจะอยู่ได้ไม่นาน ก็เสียชีวิตได้ หากเป็นน้ำตามธรรมชาติ น้ำคลอง สระ หรือสนามหญ้า จึงต้องระวังมากกว่าน้ำประปา น้ำกิน น้ำใช้ ซึ่งไม่มีอันตราย