การศึกษาเรื่องการบริหารจัดการที่ดินเป็นเรื่องสำคัญของคนมีที่ดิน เมื่อมีที่ดินในครอบครองจำเป็นจะต้องศึกษาในทุกด้านที่เกี่ยว กับที่ดิน เพราะที่ดินนั้นถือเป็นทรัพย์สินประเภทหนึ่ง เป็นทรัพย์ที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ หรือ อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีช่องทางสร้างรายได้จาก การถือครองหลายวิธีด้วยกัน

 

ที่ดินนอกจากใช้เพื่อสร้างที่อยู่อาศัย ทำการเกษตร แล้ว ก็ยังเป็นทรัพย์สินที่ช่วยสร้างรายได้ผ่านช่องทางอื่นอีกหลายวิธี ตัวอย่าง ความรู้ในด้านต่างๆ เกี่ยวกับที่ดินที่ต้องศึกษา

 

ที่ดินแบบต่างๆ

ที่ดินมีหลายประเภท ที่จับจอง ภบทบ ฉโนด ที่ในเมือง นอกเมือง ที่ตาบอด ฯลฯ ที่ดินแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่จำ เป็นจะต้องรู้เพื่อจะได้หาวิธีใช้ประโยชน์จากที่ดินของตนเอง ให้มากที่สุด

 

ศึกษาเรื่องภาษี

ที่ดินแต่ละประเภทจะต้องเสียภาษีต่างกัน ที่ดินเพื่อการเกษตร ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัญ เชิงพาณิชย์ ฯลฯ จะเสียภาษีต่างกัน จำเป็น ต้องศึกษา เพื่อจะได้วางแผนในเรื่องการใช้ที่ดินช่วยสร้างรายได้แบบต่างๆ

 

ศึกษาเรื่องการซื้อขาย จำนอง ที่ดิน

ศึกษาเกี่ยวกับการซื้อขาย จำนองที่ดิน หรือการทำธุรกรรมด้านอื่นที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน การซื้อขาย ต้องทำอย่างไร การเอาที่ดินเข้า ธนาคารจะได้มากน้อยเพียงใด ต้องมีหลักฐานอะไรบ้าง ซึ่งก็มีเทคนิคเกี่ยวกับที่ดินอีกมาก อย่างการแบ่งที่ดินไว้หลายแปลง เผื่อต้อง จำนอง เผื่อแปลงเล็กๆ ไว้อยู่อาศัย บางคนนำที่ดินแปลงใหญ่ทั้งแปลงไปจำนอง ทำให้ไม่สามารถไถ่คืนได้ และต้องเสียที่ดินไปในราคา ถูกกว่าท้องตลาด เพราะไม่มีทางเลือก

 

การกู้เงินจากธนาคารโดยใช้ที่ดินค้ำประกันจะกู้ได้น้อยมาก หรือกู้ไม่ได้เลย แต่ก็มีวิธีอื่น เพียงแต่ดอกเบี้ยจะแพงกว่า เช่น การนำ ที่ดินไปจำนอง แล้วนำเงินสดไปสร้างบ้าน จากนั้น ก็ทำเรื่องกู้เงินจากธนาคารอีกที ได้เงินแล้ว ก็นำมาจ่ายหนี้ แต่ต้องวางแผนเรื่องการ จัดสรร จัดแบ่งฉโนดที่ดินให้ดี ที่ดินที่นำไปจำนอง ต้องเป็นคนละแปลงกับที่ดินปลูกบ้าน ไม่เกี่ยวกัน เป็นต้น

 

ศึกษาการสร้างรายได้จากการทำการเกษตร

กรณีใช้ที่ดินเพื่อการเกษตร ต้องศึกษาวิธีใช้ที่ดินสร้างรายได้จากการเกษตรในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้รู้วิธีสร้างรายได้จากที่ดินของตน เอง เช่น ปลูกไม้ยืนต้น ปลูกพืชล้มลุก ทำไร่นาสวนผสม ฯลฯ กรณีของไม้ยืนต้น ในอนาคตจะสามารถปลูกเพื่อขายได้ ซึ่งต้องรอ กฏหมายที่จะออกมา และยังใช้ค้ำประกันการกู้เงินได้อีกด้วย

 

ศึกษาการใช้ที่ดินทำธุรกิจเชิงพาณิชย์

บางคนแม้จะเป็นที่ดินที่อยู่ห่างไกลแต่ก็สามารถทำไร่เชิงพาณิชย์ได้ มีทั้งร้านอาหาร ที่พัก เป็นเกษตรเชิงท่องเที่ยว หรือโฮมเสตย์ ฯลฯ มีกรณีศึกษาเป็นตัวอย่างมากมาย ในอนาคตผู้สูงวัยจะมีจำนวนมาก การเตรียมสถานที่ไว้รองรับ เช่น ทำสร้างที่อยู่สำหรับคนสูงวัย หรือรีสอร์ทสำหรับคนทำงานอิสระ อย่างทำงานออนไลน์ผ่านเน็ต อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้มีเน็ตก็ทำงานได้

 

การปลูกบ้านเพื่อขาย หรือเพื่อให้เช่า การขายบ้านนั้นยากกว่า ให้ปล่อยให้เช่า บางคนทำรีสอร์ท ทำโรงแรมให้เช่ารายวัน รายได้ดี กว่าขายบ้าน บางคนปลูกบ้านแล้วพยายามจะขายมามากกว่าสิบปี ก็ยังขายไม่ได้เลย หากมีที่ดินและเน้นปลูกบ้านขาย

 

บางคนมีที่ดินหลายประเภทในเมืองก็สร้างตึกแถวให้เช่า และขาย ในระยะเวลาสิบกว่าปี ยังขายไม่หมด แต่ก็มีรายได้จากการปล่อย ให้เช่า มีที่ดิน ก็ปล่อยให้เช่าเช่นกัน หน้าบ้านติดถนน หน้าตึก มีที่ว่างก็ให้เช่าหน้าร้านขายของ มีช่องทางทำเงินหลากหลาย ในขณะที่ บางคนนั้น เน้นปลูกบ้านขายอย่างเดียว แต่ทำบ้านสไตล์อินดี้ที่ตัวเองชอบ ไม่ใช่บ้านมาตรฐาน ขายไม่ได้ ไม่มีคนซื้อ ไม่มีรายได้จาก ทางอื่นเลย สุดท้ายก็ไม่รอด

 

ศึกษาการปลูกสิ่งก่อสร้างแบบต่างๆ

การปลูกสิ่งก่อสร้าง บ้าน อาคาร บนที่ดิน ต้องศึกษาพอสมควร เพราะหากผิดพลาด ก็จะทำให้เสียเงินเปล่า บางคนปลูกตามใจ ตามอารมณ์ เอาเงินล้านไปทิ้งเปล่าๆ ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เช่น ปลูกตึกไว้ด้านหน้า แต่ก็ไม่ยอมทำให้เสร็จ ไม่มีหลังคา ฝนตก น้ำ รั่วซึมเข้าบ้าน หลังแรกไม่เสร็จดันไปปลูกบ้านเพิ่มไว้ด้านหลัง แต่ทำแบบสไตล์ที่ตัวเองชอบ ยาก เรื่องมากทั้งคนจ้างและช่าง สุดท้ายก็ ทิ้งงาน เสียเงินเปล่า

 

การปลูกบ้านที่เป็นบ้าน มีราคามากกว่าบ้านตามใจตัวเอง หากมีเหตุต้องขาย ต้องใช้เงิน หรือต้องการย้ายที่อยู่ ก็จะไม่สร้างปัญหา ในการขายต่อ การปลูกบ้านตามใจตัวเอง จะสร้างปัญหาในการดูแลเช่นกัน

 

ศึกษาสารพัดปัญหาเกี่ยวกับที่ดิน

การมีที่ดินก็ยังมีปัญหาตามมาอีกสารพัด เช่น นำเงินเย็นไปซื้อที่ดิน หากร้อนเงินต้องทำอย่างไร ปัญหากับเพื่อนบ้าน ปัญหาการซื้อ ที่ดินในหมู่บ้าน ปัญหาการขายที่ดิน ปัญหาคนใกล้ตัวมาวุ่นวายกับที่ดินเพื่อพยายามใช้ประโยชน์ ปัญหาคนบุกรุก ปัญหารการเช่า การ โกงที่ดิน ปัญหาลูกหลานแย่งสมบัติ ฯลฯ

 

สอนลูกหลานเรื่องการบริหารที่ดิน

เมื่อศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับที่ดินแล้ว หากมีลูกหลานก็ต้องสอนความรู้เกี่ยวกับที่ดิน ให้รู้จักใช้ประโยชน์จากที่ดิน จัดสรรปันส่วน ที่ดินให้ลูกหลานอย่างยุติธรรม ระวังการให้คนหนึ่งคนใดดูแล เพราะสุดท้ายก็มักจะโกงเอาไปเป็นของตัวเองคนเดียว การให้ที่ดินลูก หลานเพื่อให้มีที่อยู่ใกล้ตัวเอง ก็เพื่อให้ลูกหลานได้ช่วยกันดูแลตัวเองยามเจ็บป่วยด้วยเช่นกัน

 

บางคนยกที่ดินให้ลูกหลานที่ตัวเองรักที่สุดดูแล ทำให้คนอื่นไม่กล้ามายุ่ง เพราะยึดเอาไว้เองคนเดียว จึงไม่มีใครกลับบ้าน เพราะไม่ มีที่จะอยู่ เวลาตัวเองเจ็บป่วยจะสร้างปัญหาอย่างมาก เพราะคนที่ได้ทรัพย์สมบัติไปหมดแล้ว มักจะทอดทิ้งพ่อแม่ เป็นเรื่องที่เห็นกัน เป็นประจำ สำหรับคนรุ่นเก่า รุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ตอนนี้น่าจะเป็นคนอายุ เกิน 60 ขึ้นไป

 

พ่อแม่บางคนมีความคิดที่ดีมาก ยกที่ดินให้ลูกหลานได้ลองนำไปบริหารจัดการ และคอยดูแลให้ความช่วยเหลือประคับประคอง คอยสอนวิชาด้านต่างๆ ตระกูลนี้มีที่ทางมาก เน้นทำโรงแรมทำรีสอร์ท ก็ให้ลูกหลานได้ทำรีสอร์ทของตนเอง ให้ฝึกบริหาร แม้จะเป็นที่นา หรือที่ดินแบบใดก็ตาม ก็อาจมีช่องทางใช้ประโยชน์ได้ เพราะทุกวันนี้ ไม่จำเป็นจะต้องมีที่ดินในเมือง ติดถนนใหญ่ เนื่องจากสามารถค้า ขายผ่านทางเน็ตได้ ส่งของทางเน็ต ดังนั้นที่อยู่จึงไม่สำคัญอีกต่อไป

 

สำหรับท่านใดที่มีที่ดินแล้ว ก็ควรศึกษาหาข้อมูลในการบริหารจัดการให้ดี เพื่อหาทางใช้ประโยชน์จากที่ดินให้คุ้มค่า ส่วนคนที่ยังไม่ มีที่ดิน ก็ควรหาซื้อที่ดินเก็บไว้ก่อนจะเกษียณ ออกจากงาน ต้องมีที่ดินเป็นของตนเอง เพราะการมีที่ดินจะช่วยลดรายจ่ายเรื่องที่พัก และอาหารลงได้ การปลูกพืชผักไว้รอบบ้าน ก็จะเป็นแหล่งอาหาร ชีวิตหลังเกษียณ แม้จะมีรายได้น้อยมากเดือนละไม่กี่พันบาท ก็ดำรง ชีพอยู่ได้สบายๆ

 

สำหรับคนทำงานอิสระ อย่างผู่้เขียนอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ ก็เล็งหาซื้อที่ดินในต่างจังหวัดไกลๆ ซึ่งก็ยังมีที่ดินราคาหลักหมื่น ให้สามารถอยู่อาศัยทำกินได้ แม้จะเป็นที่ดินจับจอง โอนไม่ได้ ก็ไม่สำคัญ ราคาหลักหมื่นบาท แต่อยู่ได้อีกนาน ไม่ต้องเสียค่าเช่า เหมือนการเช่าบ้าน ระยะยาวประหยัดเงินอย่างมาก เน้นประหยัดค่าที่พักและอาหาร ต้นทุนชีวิตต่ำ ก็จะมีเงินเหลือเก็บมาก

กรณีมีที่ดินเป็นของตนเอง การทำธุรกิจเพื่อแข่งขันกับคนอื่น ก็มีโอกาสเอาตัวรอด เพราะต้นทุนชีวิตต่ำกว่า ไม่เหมือนคนอยู่ในเมือง ค่าเช่าบ้าน ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ฯลฯ รายได้ต่อเดือนหลักหมื่นบาทยังไม่พอใช้ ต่างจากการมีที่ดินเป็นขอบตนเอง รายได้หลักพันบาท 2-3 พันหรือน้อยกว่านั้นก็ดำรงชีพอยู่ได้สบายๆ แต่ถ้าหากมีรายได้หลักหมื่น ก็จะมีเงินเก็บมากกว่า เพราะรายจ่ายน้อยกว่านั่นเอง

 

ผู้เขียนเคยมีที่ดินอยู่ในครอบครองเป็นของตัวเองประมาณ 5 ไร่ แต่ ณ เวลานั้น ไม่ได้สนใจศึกษาเรื่องที่ดินเลย เพราะไม่เห็น ความสำคัญ เนื่องจากงานอื่นนั้นมีรายได้ดีกว่า และทางบ้านก็ยึดเอาที่ดินไปใช้ประโยชน์ ไม่ให้เข้าไปวุ่นวาย เป็นคนจ่ายเงินซื้อที่ดิน แต่ ไม่มีสิทธิแตะต้อง หรือรับผลประโยชน์จากที่ดินที่ตัวเองเป็นคนจ่ายเงินเพื่อซื้อที่ดินผืนนั้น จึงเกลียดการมีที่ดินอย่างมาก เป็นแผลในใจ ที่กว่าจะยอมเปิดใจเรียนรู็ก็สายเกินไปแล้ว ทั้งๆ ที่ชีวิตก็คบค้าสมาคมกับคนซื้อขายที่ดิน ให้เช่า ปลูกบ้าน แต่ไม่ศึกษาในเรื่องนี้เลย จึง นับว่าเสียโอกาสได้เรียนรู้ในเรื่องนี้ อย่างมาก ความรู้และประสบการณ์มักจะเป็นแบบนี้ ถ้าไม่เสียอะไรบางอย่างไป ก็จะไม่เกิดการเรียนรู้ ในเรื่องนั้น

ตอนนี้ก็กำลังเริ่มใหม่ คิดใหม่ ต้องหาที่ดินไว้สักแปลง ไว้อยู่อาศัยในบั้นปลายของชีวิต การทำงานอิสระอย่างนี้ อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้ มีสัญญาณเน็ต และตู้ ATM อยู่ไม่ไกลนัก