บทความนี้จะมาแนะนำอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานกับมิกเซอร์มินิขนาด 4 ช่อง แบบ USB เป็นมิกเซอร์ขนาดเล็กเอาไว้บันทึกเสียง ไลฟ์สด เล่นกีตาร์ หรืออาจจะใช้ร้องคาราโอเกะ ใช้ในรถยนต์ก็ได้ ใช้พลังงานจากพาวเวอร์แบงก์ก็ได้

 

ในการใช้งานมิกเซอร์จิ๋ว หรือ มินิ สะดวกในการพกพาแบบนี้ จำเป็นจะต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอีกหลายรายการ ขึ้นอยู่กับว่า ลักษณะงานที่จะต้องใช้การบันทึกเสียง ว่ามีความซับซ้อนแบบใด หากเพียงแค่บันทึกเสียง ร้องเพลง เล่นกีตาร์ถ่ายวิดีโอ ไลฟ์สด ก็จะ ใช้อุปกรณ์ไม่มากนัก

 

ตัวอย่างอุปกรณ์เสริมสำหรับมิกเซอร์มินิ

1. มิกเซอร์ขนาดเล็ก

มิกเซอร์แบบนี้จะมีราคาตั้งแต่ 500 กว่าบาท ขึ้นไป อาจจะเกิน 1000 บาท เล็กน้อย คุณสมบัติจะไม่ต่างกันมาก รับเสียงได้ 4 ช่อง หรือ 4 CH ตัวใหญ่สีดำสำหรับไมค์ และอีก 2 ช่อง รับเสียงจากข้างนอกเข้ามา บางทีก็รู้สึกเหมือนกับว่า เป็นตัวเดียวกัน แต่สกรีนไม่ เหมือนกันแค่นั้นเอง

 

 

2. สาย AV

สาย AV จำนวน 2- 3 เส้น หากเน้นแค่บันทึกเสียงจากไมค์ ใช้เพียง 2 เส้นก็พอ แต่หากเตรียมไว้ 3-4 เส้น ก็จะพอดีใช้งานได้ อย่างเต็มที่ เลือกสีให้แตกต่างกัน เพื่อความง่ายในการแยกแยะ ผู้เขียนใช้สีเขียว ฟ้า และ แดง

 

ตัวอย่างการต่อสาย AV กับช่อง RCA ของมิกเซอร์ และต่อกับมือถือ เพื่อนำเสียงจากมือถือเข้ามาในมิกเซอร์

 

ตัวอย่างการต่อสาย AV กับคอมพิวเตอร์ นำเสียงจากคอมพิวเตอร์เข้ามาในมิกเซอร์ อย่างการใช้โปรแกรมคาราโอเกะ ก็เปิด โปรแกรมในคอมพิวเตอร์ แล้วนำเสียงเข้ามาในมิกเซอร์ เพื่อปรับแต่งเสียงให้ไพเราะขึ้น

 

ตัวอย่างการต่อกับโน้ตบุ๊ค ก็ต่อกับช่องหูฟัง ดังภาพ

 

3. หัวแปลง แจ็คแปลงแบบต่างๆ

หัวแปลงเหล่านี้จะมีที่จำเป็นจะต้องใช้เป็นอย่างน้อย ก็คือ หัวแปลง RCA สำหรับสาย AV เอาไว้นำสัญญาณเสียงจากมิกเซอร์ไป เข้าเครื่องขยายเสียงอีกที

 

ตัวอย่างการเชื่อมต่อสาย AV กับหัวแปลง RCA ต่อจากมิกเซอร์ไปออกเครื่องขยายเสียง หรือ ลำโพงที่มีช่อง AUX

 

4. สาย AUX

สาย AUX เอาไว้ต่อจากมิกเซอร์เข้าลำโพงที่รองรับสาย AUX หรือ บันทึกเสียงลงมือถือ หรือ ต่อกับ iRig ก็ได้ เช่น การต่อเข้ามือ ถือ บันทึกเสียงเข้ามือถือ ขณะถ่ายวิดีโอ วิธีนี้จะบันทึกได้เสียงเฉพาะจากช่องไมค์ 2 ช่องเท่านั้น จากตัวอย่างก็จะบันทึกได้เฉพาะ เสียงร้องและเสียงกีตาร์ แต่เสียงซาวด์ดนตรีจะไม่เข้า

 

การใช้สาย AUX ควรซื้อตัวแปลงเอาไว้ด้วย โดยแปลงจากแจ็ค 3.5 เป็น 3.65 mm เพื่อต่อกับกีตาร์ หรือ iRig หรืออุปกรณ์ที่ใช้ แจ็คขนาด 6.35 มิลลิเมตร

 

5. หูฟัง

หูฟังเอาไว้ฟังเสียงในมิกเซอร์ เพื่อดูว่าแต่ละเสียงที่นำมาผสมกันนั้น มีความเข้ากันได้มากน้อยเพียงใด จะต้องปรับแต่งอะไรบ้าง เช่น ปรับเสียงไมค์ ปรับเสียงกีตาร์ ปรับเสียงเพลงประกอบ เป็นต้น จากตัวอย่างจะใช้หูฟังมือถือธรรมดาๆ ก็ได้ โดยจะเสียบกับช่อง Phone

 

6. ลำโพง USB ลำโพงที่มีช่อง AUX

ลำโพงแบบนี้ซึ่งเราอาจจะใช้กับคอมพิวเตอร์ ก็สามารถนำมาใช้กับมิกเซอร์ได้ โดยต่อที่ช่องโฟน เพื่อฟังเสียง แทนการใช้หูฟัง จะ ได้ยินเสียงชัดๆ

 

ส่วนใครที่จะหาซื้อลำโพงบลูทูธมาใช้ จะต้องเลือกรุ่นที่มีช่อง AUX ซึ่งเราจะสามารถนำสัญญาณเสียงช่องนี้จากมิกเซอร์ไปเข้าที่ ตัวลำโพงได้ ไม่ต้องใช้เครื่องขยายเสียง เหมาะสำหรับใช้งานเบาๆ นอกสถานที่ ไม่ต้องมีไฟฟ้า ก็ใช้งานได้ เพราะอุปกรณ์แต่ละตัวมี แบตเตอรี่ในตัว

 

7. รีโมตชัตเตอร์บลูทูธ และ ขาตั้งมือถือ

กรณีเป็นการพูดรีวิวสินค้า บรรยาย อัดคลิปเล่นกีตาร์ ก็จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์ 2 ตัวนี้ เพื่อช่วยให้การทำงานสะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถกดปุ่มบันทึก หรือ หยุดบันทึกวิดีโอ ได้ที่ตัวรีโมท จะมีขายเป็นชุด แต่หากซื้อแยก รีโมตราคาไม่แพง 20 กว่าบาทขึ้นไป เท่า นั้นเอง

 

8. ไมค์กีตาร์

สำหรับการอัดคลิปเล่นกีตาร์ ก็จำเป็นจะต้องมีอุปกรณ์ตัวนี้ ราคาถูก ราคาแพง คุณภาพเสียงต่างกันไป เลือกได้ตามงบประมาณ จากตัวอย่างจะเป็นแบบหนีบกับโพรงเสียงกีตาร์ คุณภาพเสียงก็พอใช้ได้ เหมาะสำหรับผู้ใช้กีตาร์โปร่งธรรมดา ไม่ใช่กีตาร์โปร่ง ไฟฟ้า

 

9. ไมค์บันทึกเสียงพูด เสียงร้อง แบบต่างๆ

ไมค์แบบต่างๆ เอาไว้สำหรับบันทึกเสียงพูด เสียงร้อง จะใช้ไมค์แบบใดก็เลือกให้เหมาะสมกับงานที่จะต้องบันทึกเสียง มีทั้งไมค์ ลอย ไมค์คอนเดนเซอร์ ไมค์หนีบ จากตัวอย่างผู้เขียนใช้ไมค์ BOYA by M1 เป็นไมค์แบบหนีบ สายยาว 6 เมตร เน้นบันทึกเสียงพูด ก็เพียงพอแล้ว ไมค์แบบนี้จะมีตัวแปลงจากแจ็ค 3.5 เป็น 6.35 mm มาให้ด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม การใช้งานก็เสียบกับช่องแรก

 

10. พาวเวอร์แบงก์

พาวเวอร์แบงก์เอาไว้จ่ายไฟให้กับมิกเซอร์และลำโพง USB ให้ซื้อแบบจ่ายไฟได้ 2 ช่อง เป็นอย่างน้อย เผื่อเอาไว้จ่ายไฟให้กับ อุปกรณ์อื่นๆ ด้วย เลือกความจุสูงเข้าไว้ หากจะต้องนำไปใช้งานนอกสถานที่ ไม่มีไฟบ้าน ก็สามารถใช้งานได้

 

11 สาย หรือ แจ็ค 3.5 แยกไปไมค์ และ หูฟัง

อุปกรณ์ตัวนี้จำเป็นจะต้องใช้ เพื่อความสะดวกในการฟังเสียง อย่างการบันทึกเสียงลงในมือถือ หากไม่มีอุปกรณ์ตัวนี้ ก็จะต้องเสีย เวลาถอดแจ็ค 3.5 mm ที่ตูดมือถือ เพื่อฟังเสียง แต่หากมีตัวแยก ก็ต่อตัวแยกไว้ตรงนี้ แล้วเสียบหูฟังเพิ่มเข้าไป ก็จะสามารถฟัง เสียงได้ โดยไม่ต้องถอดแจ็คออกจากมือถือ

 

สรุป

อุปกรณ์เสริมสำหรับใช้งานกับมิกเซอร์มินิรวมแล้วหลายชิ้นเหมือนกัน ราคาถูกแพงตามคุณภาพของสาย และวัสดุที่ใช้ผลิต ราคา แพง วัสดุดี ให้คุณภาพเสียงดี แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานตามที่ได้แนะนำ ก็จะใช้งานมิกเซอร์ได้ครอบคลุมทั้งหมด หรือไม่ก็อย่างน้อย ก็จะต้องมีไมค์อัดเสียงพูด เสียงร้อง สาย AV บันทึกเสียงลงมือถือ เป็นพื้นฐาน