สำหรับใครที่เลี้ยงสุนัขไว้ในบ้าน แต่ไม่ได้ให้เข้าไปนอนในบ้าน ให้นอนนอกบ้าน ก็สามารถ DIY กรงสุนัขให้เป็นบ้านง่ายๆ ด้วย งบไม่เกิน 1,000 บาท ติดมุ้งรอบกรง และทำประตูแบบสวิงแนวตั้ง ให้สุนัขเดินเข้าออกบ้านเองได้ ไม่ต้องไปเปิดกรงให้ แค่นี้ก็จะ ช่วยให้สุนัขของคุณมีความสุขในชีวิตมากขึ้น
การเลี้ยงสุนัขไว้ให้ช่วยเฝ้าบ้าน หากในบริเวณบ้างมีที่ว่างสักนิดประมาณสัก 1 x 1 เมตร ก็สามารถทำบ้านให้สุนัขเข้าไปนอนได้ ในเวลากลางคืน ช่วยป้องกันยุง กันแมลงได้ ลงทุนไม่มาก ไม่เกิน 1,000 บาท อย่างการใช้กรงมาทำเป็นบ้านสุนัข วิธีนี้ง่ายมาก ทำเองได้
อุปกรณ์ที่จะต้องใช้
1. กรง สำหรับกรงนั้นต้องดูขนาดของสุนัข สุนัขเล็ก ก็ใช้กรงความกว้างประมาณ 50 กว่าเซนติเมตรก็พอ
2. กรง สำหรับสุนัขตัวใหญ่ ใช้กรงความกว้างประมาณ 90 กว่าเซนติเมตรก็เพียงพอแล้ว นอนได้สบาย
3. มุ้งสำหรับกันยุง อาจจะใช้ตาข่ายหรือมุ้งไนลอนสีฟ้า ก็ได้ เมตรละ 30 บาท เอาไว้ติดด้านนอกรอบกรงอีกที ทนทานใช้งานได้ นาน
4. เคเบิ้ลไทร์ หรือ สายรัดพลาสติก เอาไว้ผูกมุ้งไนลอนกับกรง หาซื้อได้ตามร้านทุกอย่าง 20 บาท
5. แผ่นพลาสติก PP เอาไว้ทำประตูสวิงแนวตั้ง สำหรับให้สุนัขเดินเข้าออกจากบ้าน หาซื้อได้ตามร้านทุกอย่าง 20 บาท
6. เลื่อยตัดเหล็ก เอาไว้ตัดกรงเพื่อทำช่อง ใส่ประตูสวิงให้สุนัขเดินเข้าออก
การปรับเปลี่ยนกรงเป็นบ้านสุนัข การเข้าออกบ้าน
1. สำหรับการนำกรงมาทำเป็นบ้านสุนัขนั้น จะนำกรงที่ซื้อจากเน็ต มาเจาะรู ดัดด้วยเลื่อยตัดเหล็ก ทำเป็นช่อง
2. จากนั้นก็ใส่ประตูแบบสวิงแนวตั้ง เพื่อให้สุนัขเดินเข้าออกได้ บานประตูจะมีขนาดความสูงไม่น้อยกว่าหลังของสุนัขขณะยืน ส่วนด้านกว้างเผื่อไว้ประมาณ 2 เท่าตัวของขนาดสุนัข บานประตู้ให้ทำแบบพับได้ 2 ชั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวสุนัขไปติดที่ประตู กรณีทำประตูโดยใช้เพียงแผ่นเดียว
3. สุนัขสามารถเดินเข้าออกผ่านประตูสวิงเองได้
4. ประตูจะทำไว้ติดมุมด้านใด ด้านหนึ่ง เมื่อสุนัขเดินเข้าบ้าน ก็จะม้วนตัว เข้าไปได้ แต่ถ้าติดไว้ตำแหน่งตรงกลาง หรือด้านอื่น การเข้าบ้านจะทำได้ยาก
ลงมือทำ วิธีปรับเปลี่ยนกรงเป็นบ้านสุนัข
1. เริ่มจากการซื้อกรงที่พอดีกับขนาดของสุนัข ตัวใหญ่ซื้อกรงใหญ่กว้าง 90 ซม. สุนัขตัวเล็ก ใช้กรงเล็กประมาณ 50 ซม. ก็เพียง พอ ควรสอบถามทางร้านค้า ว่ามีบริการเจาะช่องเพื่อติดประตูด้วยหรือไม่ หากทางร้านทำเอง มีช่างประจำร้าน ก็จะสามารถ จัดการให้ได้ การซื้อออนไลน์ สามารถสอบถามก่อนได้ ก่อนตัดสินใจซื้อ
2. เมื่อได้กรงมาแล้ว ก็ใช้เลื่อยตัดเจาะช่องทำประตู เลือกมุมใดมุมหนึ่ง ทางซ้ายหรือขวามือ ตามภาพ ขนาดของช่อง ความสูง ประมาณหลังของสุนัข ความกว้างประมาณเท่าตัวของสุนัข กรงจะใช้เหล็กเส้นเล็กๆ การตัดด้วยเลื่อยจึงทำได้ไม่ยาก
3. นำมุ้งไนลอนสีฟ้า หรือ มุ้ง มาติดให้รอบกรงเพื่อป้องกันยุง และ แมลง รัดด้วย เคเบิ้ลไทร์ ตรงประตูก็เจาะช่องเอาไว้
4. ต่อไปจะเป็นการติดประตูสวิงกับกรงในตำแหน่งที่ได้เจาะรูไว้แล้ว เช่น เจาะรูมุมซ้ายของกรง ประตูบานสวิงแนวตั้งจะต้องมี ความสูงประมาณหลังสุนัข และกว้างประมาณ 2 เท่าตัวของสุนัข เพื่อให้เข้าออกได้สะดวก ใช้เชือกแทนบานพับ 2 ด้านก็พอ อาจ จะต้องปรับหลายรอบกว่าจะลงตัว ประตูสามารถสวิงแนวตั้งได้โดยไม่ติดขอบประตู
5. กรณีตั้งไว้กลางแจ้ง หรือนอกบ้าน ก็ควรทำหลังคากันแดด กันฝนให้ด้วย
6. ส่วนพื้น ให้ทำที่นอนในบ้านสุนัข เบาะรองนอน เลือกได้ตามสะดวก
7. กรณีมีการทำที่ให้อาหารไว้ในบ้านสุนัขด้วย ก็ทำไว้ในตำแหน่งตรงข้ามประตู
8. อาจจะใช้ไม้มารองทำเป็นส่วนขาทั้ง 4 มุมของบ้านสุนัข ใส่ที่รองขาโต๊ะกับข้าว พร้อมกับโรยด้วยแป้งเอาไว้ กันแมลง มด ไต่ขึ้นมากินอาหารในกรง หรือ รบกวนสุนัข หากใช้น้ำ สุนัขจะกินน้ำหมด น้ำแห้งก็อาจจะมีปัญหา มดขึ้นมารบกวน สุนัขชอบกินน้ำในภาชนะแบบนี้ เพราะไม่ เห็นเงาตัวเองในน้ำ จึงไม่เกิดความกลัว
สรุป
หลังจากทำบ้านให้สุนัขเสร็จแล้ว ก็ต้องฝึกสุนัขให้เข้าไปในบ้าน ออกจากบ้าน อาจจะเริ่มจากนำอาหารมาล่อ วางให้บ้านให้เข้า ไปกิน หรือ พามานั่งเล่นใกล้กรง ช่วงค่ำๆ เมื่อยุงกัด ก็ฝึกให้เข้าบ้าน เมื่อสุนัขได้เรียนรู้ว่า บ้านช่วยป้องกันแมลง กันยุงได้ คราวนี้ ก็จะเข้าไปเอง ช่วงแรกก็ต้องฝึกกันหน่อย ในเรื่องการกันยุง จะกันไม่ได้ 100% แต่ยุงที่เข้าไปได้ จะน้อย แล้วสุนัขสามารถงับยุงได้ ก็ อาจจะไม่เหลือเลย
ส่วนในช่วงเวลากลางวัน ก็ฝึกได้เช่นกัน มีแมลงวัน หรือแมลงหวี่มารบกวน ก็ฝึกให้เข้าบ้าน สำหรับใครที่มีฝีมือทางช่างอยู่บ้างก็ อาจจะนำท่อพีวิซีมาทำกรงก็ได้ ประหยัดกว่าซื้อกรงแบบนี้ หรือ จะใช้โต๊ะ ใช้ตู้ ที่ไม่ใช้แล้วก็ได้