การเปรียบเทียบ ราคาสินค้า และ ปริมาณสุทธิ ของสินค้าชนิดเดียวกัน หรือ คนละยี่ห้อ เพื่อดูว่าแบบใด คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เราสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยแอป Google เครื่องคิดเลข เพียงโดยการนำ ปริมาณ หาร ด้วย ราคา ก็จะได้ปริมาณต่อ 1 หน่วย ที่จะช่วยให้รู้ว่า การซื้อสินค้าราคาแพงขึ้น จะได้ปริมาณมากขึ้น เท่าไร กับการซื้อสินค้าตัวเดียวกัน แต่ขนาด ซอง หลอดเล็กกว่า ซึ่งเรื่องนี้ไม่จริงเสมอไป มีสินค้าบางอย่างที่ขายแพงกว่า แต่ได้ปริมาณน้อยกว่า หลอดที่เล็กกว่า ทั้งๆ ที่เป็นสินค้ายี่ห้อเดียวกัน หลังซื้อมาตั้งนานเพิ่งจะรู้ตัวว่า เสียเงินมากขึ้น

การซื้อสินค้าเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำอยู่แทบทุกวัน ด้วยความที่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ แต่การคำนวณความคุ้มค่า ระหว่าง ราคา ที่ต้องจ่าย กับ ปริมาณสุทธิ ที่ได้รับ ด้วยการใช้สมองคิดเองแบบนี้ มันอาจจะยุ่งยาก ปวดหัว ซึ่งเราสามารถใช้แอป Google เครื่องคิดเลขแทนได้ เร็วง่าย คิดคำนวณ สินค้าได้หลายรายการ ง่ายในการเปรียบเทียบตัวเลข ตัวอย่าง

กรณีที่ 1 สินค้าราคาสูงกว่า แพงกว่า ได้ปริมาณมากกว่า คุ้มกว่า

1. ยาสีฟันหลอดใหญ่ ขนาด 150 กรัม ราคา 60 บาท
เราจะเปรียบเทียบราคากันง่ายๆ ตามนี้

- เงิน 60 บาท จะได้ยาสีฟัน 150 กรัม
- เงิน 1 บาท จะได้ยาสีฟัน 150 หาร 60 = 2.5 กรัม

2. ยาสีฟันหลอดเล็ก ขนาด 35 กรัม ราคา 18 บาท
เราจะเปรียบเทียบราคากันง่ายๆ ตามนี้

- เงิน 18 บาท จะได้ยาสีฟัน 35 กรัม
- เงิน 1 บาท จะได้ยาสีฟัน 35 หาร 18 = 1.94 กรัม

สรุป

กรณีที่ 1 นี้เราจะพบกว่า สินค้ายี่ห้อเดียวกัน แต่ปริมาณไม่เท่ากัน การซื้อหลอดใหญ่กว่า แพงกว่า คุ้มกว่า เพราะ 1 บาท ได้ 2.5 กรัม แต่หลอดเล็กได้ 1.94 กรัม ส่วนต่างก็คือ 2.5 - 1.94 = 0.56 กรัม เมื่อคิดที่จำนวนเงินที่จ่ายไป 60 บาทเท่ากัน เราจะได้ยาสีฟันเพิ่มขึ้น 60 คูณ 0.56 = 33.6 กรัม เกือบจะได้ยาสีฟันหลอดเล็ก 1 หลอด เลยทีเดียว แบบนี้คุ้มค่า

กรณีที่ 2 สินค้าราคาสูงขึ้น แต่ได้ปริมาณน้อยกว่า

1. ครีมนวดผมราคา 20 บาท ได้ ปริมาณสุทธิ 60 มล.
เราจะเปรียบเทียบราคากันง่ายๆ ตามนี้

- เงิน 20 บาท จะได้ครีมนวดผม 60 มล.
- เงิน 1 บาท จะได้ครีมนวดผม 60 หาร 20 = 3 มล.

2. ครีมนวดผมราคา 39 บาท ได้ ปริมาณสุทธิ 110 มล.
เราจะเปรียบเทียบราคากันง่ายๆ ตามนี้

- เงิน 39 บาท จะได้ครีมนวดผม 110 มล.
- เงิน 1 บาท จะได้ครีมนวดผม 110 หาร 39 = 2.82 มล.

สรุป

กรณีที่ 2 นี้เราจะพบกว่า สินค้ายี่ห้อเดียวกัน แต่ปริมาณไม่เท่ากัน การซื้อหลอดใหญ่กว่า แพงกว่า กลับได้ปริมาณน้อยกว่า เพราะ 1 บาท ได้ 2.82 มล. แต่หลอดเล็กได้ 60 มล. ส่วนต่างก็คือ การซื้อหลอดใหญ่ เราจะขาดทุน 3 - 2.82 = 0.18 มล. ดังนั้นในกรณีนี้ การซื้อครีมนวดผมขนาดเล็ก 20 บาท 60 มล. คุ้มกว่า ได้ปริมาณมากกว่า

วิธีคำนวณด้วยแอป Google เครื่องคิดเลข

การคำนวณในลักษณะนี้ ทำได้ง่ายๆ ด้วยแอปเครื่องคิดเลขของ Google แต่มีให้ใช้เฉพาะมือถือแอนดรอยด์เท่านั้นนะจ๊ะ
1. ติดตั้งแอป Google เครื่องคิดเลข แล้วเปิดแอป
2. กดตัวเลขที่ต้องการ บวก ลบ คูณ หาร เช่น สินค้าตัวแรก ปริมาณสุทธิหารด้วยราคา 150 หาร 60 แล้วกด =
3. กดตัวเลขสินค้าตัวที่ 2 ปริมาณสุทธิหารด้วยราคา 35 หาร 18 แล้วกด =

4. นำส่วนต่าง 2.5 และ 1.94 มาลบกัน แล้วกด =
5. มีสินค้าที่ต้องการเปรียบเทียบกี่รายการ ก็ป้อนเข้าไป
6. แตะไอคอน 3 จุด และ แตะ ประวัติ
7. เลื่อนดูประวัติการคิดเลข เปรียบเทียบ ราคา และ ปริมาณสุทธิของสินค้า ที่เราได้คิดคำนวณไป ตรวจดูว่า ตัวเลขถูกต้องหรือไม่ อาจจะแคปหน้าจอไว้ ง่ายๆ แค่นี้ เราก็จะสามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่าของสินค้าได้ไม่ยากเลย เช่น ยาสีฟันหลอดใหญ่ 150 กรัม หารออกมาแล้ว ได้ปริมาณมากกว่า 2.5 กรัม ในขณะที่หลอดเล็กได้ 1.94 กรัม เท่านั้น

8. ล้างประวัติการคิดเลข เพื่อ เปรียบเทียบสินค้าชนิดอื่นต่อไป แตะไอคอน 3 จุด แล้วแตะล้าง และ ล้าง (อย่าลืมแคปหน้าจอเอาไว้ก่อน ไว้ดูภายหลัง )
9. จากนั้นก็คิดเลข คำนวณ เปรียบเทียบสินค้าชนิดอื่นต่อไป

การใช้เครื่องคิดเลขใน iPhone

สำหรับใครที่ใช้ iPhone จำเป็นต้องติดตั้งแอปเครื่องคิดเลขตัวใหม่ แทนแอปมาตรฐาน
1. ตัวอย่างแอปเครื่องคิดเลขฟรี ใน iPhone เช่น Xmart Calculator Mini
2. เข้าแอปแล้ว ก็ บวก ลบ คูณ หาร ได้ตามต้องการ แล้วแตะ HISTORY ดูประวัติ
3. ตัวอย่างประวัติการคิดเลข ก็ใช้เปรียบเทียบ ราคาสินค้าและปริมาณได้ ว่าสินค้านั้น ปริมาณสุทธิ หาร ราคา แล้วได้เท่าไร คุ้มไหม เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น หรือ ยี่ห้อเดียวกันปริมาณน้อยกว่า ซอง หลอด ขวด เล็กกว่า เป็นต้น