Sponsored Ads

บทความวิเคราะห์เจาะลึกถึงข้อดีข้อเสียของโปรเน็ต AIS แบบรายเดือนหรือใช้งาน 30 วัน เล่นเน็ตไม่จำกัด ไม่อั้น ซึ่งจะมีให้เลือก ตั้งแต่ราคา 199, 299, 399,499, 599,699, 799 ... มีอะไรบ้างที่จะต้องรู้ เพื่อจะได้เลือกโปรเน็ตให้เหมาะสม

 

สำหรับการวิเคราะห์เจาะลึกโปรเน็ตจะแยกเป็นตามคุณสมบัติต่างๆ เช่น
1. ราคาโปรเน็ต
2. ระยะเวลาใช้งาน
3. โปรโมชันใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมีหรือไม่ กี่ GB
4. ความเร็วที่ลดลงเมื่อการใช้งานโปรโมชันอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงหมดลง
5. โปรโมชันการโทรศัพท์
6. ความแรงของสัญญาณมือถือในพื้นที่ที่อยู่อาศัย
7. บริกรการเสริมใช้งาน Wi-Fi ฟรี
8. การต่ออายุโปรเน็ตอัตโนมัติ
9. รายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเน็ตนั้นๆ

1. ราคาโปรเน็ต

โปรเน็ตแต่ละแบบจะมีค่าบริการเริ่มตั้งแต่ 199, 299, 399,499, 599,699... แต่หากศึกษาแบบเจาะลึกแล้วจะพบว่า มีราย ละเอียดปลีกย่อยที่อาจไม่คุ้มค่าอย่างที่คิด จ่ายแพงแต่ได้ความเร็วเชื่อมต่อที่ต่ำมาก เช่น โปรเน็ต 199 และ โปรเน็ต 599 ให้ดูที่ความ เร็วหลังหมดโปรโมชัน ซึ่งแบบ 199 จะใช้งานได้ที่ความเร็วในการต่อเน็ตที่ 128 kbps

แต่แบบ 599 บาท กลับเชื่อมต่อได้ที่ 64 kbps ซึ่งดู Youtube ไม่ได้สะดุด โหลดก็ช้า แม้จะได้สิทธิโทรฟรี 300 นาที และใช้เน็ตความเร็วสูงตามปริมาณข้อมูลรับส่งที่ 1.5 GB ก็ตาม การเลือกโปรเน็ต 599 นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi ของ AIS ซึ่งจะเล่นเน็ตได้ฟรี แต่แบบ 199 บาท ใช้งานได้ทุกที่ ความเร็วต่อเน็ตขั้น 128 kbps ก็เพียงพอที่จะดูวิดีโอได้ โหลดเน็ตได้ไม่สะดุด

 

 

2. ระยะเวลาใช้งาน

ในบทความนี้จะกล่าวถึงโปรเน็ตของ AIS ที่มีระยะเวลาใช้งานประมาณ 30 วันเหมือนกันทั้งหมด ซึ่งจะมีโปรเน็ตราคา ค่าบริการเริ่ม ตั้งแต่ 199, 299, 399,499, 599,699... ในเรื่องระยะเวลานั้นเท่ากัน แต่หากเลือกโปรเน็ตที่มีความเร็วในการเชื่อมต่อค่อนข้างต่ำ

เมื่อหมดโปรโมชันการใช้อินเตอรฺ์เน็ตความเร็วสูงแล้ว ก็จะสร้างความรำคาญ หงุดหงิดให้อย่างแน่นอนหากเลือกผิด เช่น แบบ 599 บาท ที่เชื่อมต่อเน็ตได้ที่ 64 kbps เท่านั้น แย่กว่าแบบ 199 บาท ซึ่งเชื่อมต่อได้เร็ว 128 kbps เสียเงินแพงกว่า แต่ได้ความเร็วต่ำกว่า

 

3. โปรโมชันใช้งานอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงมีหรือไม่ กี่ GB

โปรเน็ตแบบรายเดือน ไม่จำกัดค่าบริการเริ่มตั้งแต่ 199, 299, 399,499, 599,699... ในการเชื่อมต่อเน็ตนั้น ผู้ใช้จะสามารถใช้ เน็ตได้ที่ความเร็ว 2 แบบด้วยกัน คือ ความเร็วสูงสุดเท่าที่ผู้บริการมีให้ และความเร็วขั้นต่ำ (ดูหัวข้อถัดไป) การเชื่อมต่อเน็ตที่ความ เร็วสูงนั้น จะให้มากหรือน้อยตามแต่ราคาค่าบริการ เช่น แบบ 199 ก็ให้ 1 GB หลายคนก็คงอยากจะรู้แล้วว่า 1 GB คืออะไร แล้ววัด อย่างไร จะใช้ได้นานแค่ไหน กี่วัน

 

การเชื่อมต่อเน็ตความเร็วสูงอย่างโปรเน็ต 199 บาท ให้ใช้ได้ 1 GB ซึ่งก็หมายถึงปริมาณข้อมูลที่มีการรับส่งระหว่างมือถือของเรา กับข้อมูลในเน็ตนั่นเอง อย่างเราเข้าไปดูวิดีโอ Youtube เล่น Facebook เล่น Line ฯลฯ ก็จะทำให้เกิดการรับส่งข้อมูลระหว่างอินเตอร์ เน็ตกับมือถือของเรา ซึ่งปริมาณข้อมูล 1 Gb นั้นไม่มากเลย

อย่างเช่น เข้าไปดูหนังใน Youtube เรื่อง Fast 8 ซึ่งไฟล์มีขนาดเกือบ 400 Mb ดูหนังแบบนี้สัก 3 เรื่อง ปริมาณข้อมูลรวมกัน 400 Mb + 400 Mb+ 400Mb = 1200 Mb หรือ 1.2 GB ก็เกิน แล้ว หมดโปรโม ชันการใช้เน็ตความเร็วสูงแล้ว ต่อไปก็จะต้องเชื่อมต่อที่ความเร็วหลักของโปรโมชั่นนั้นๆ เช่น 128 Kbps อ่านรายละเอียดในหัวข้อถัด ไป

 

 

4. ความเร็วที่ลดลงเมื่อการใช้งานโปรโมชันอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงหมดลง

โปรเน็ตแต่ละแบบจะมีการเชื่อมต่อเน็ต 2 แบบ คือโปรโมชันความเร็วสูงโดยจะคิดตามปริมาณข้อมูลรับส่ง (อ่านหัวข้อก่อนหน้า) และความเร็วมาตรฐานของโปรนั้นๆ เช่น โปรเน็ตแบบ 199 บาท หลังจากใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูงหมดแล้ว ก็จะเชื่อมต่อเน็ตได้ที่ ความเร็วไม่เกิน 128 kbps เท่านั้น

 

ความเร็วการเชื่อมต่อที่ 128 kbps นั้นหากนึกไม่ออก ก็ขอเปรียบเทียบให้เห็นตัวอย่างชัดๆ จากการเล่นวิดีโอ Youtube ก็แล้วกัน การเชื่อมต่อเน็ตที่ความเร็วสูงสุด ตามที่โปรเน็ตนั้นๆ ให้มานั้น ก็จะเชื่อมต่อที่ความเร็วสูง อย่างเวลาเล่นวิดีโอ ก็จะเล่นที่ความละเอียด สูงได้ เช่น 1080p ภาพคมชัด เสียงดังฟังชัด แต่พอความเร็วลดเหลือ 128 แล้ว จะไม่สามารถดูวิดีโอได้ สะดุด หากต้องการดูวิดีโอ แบบราบรื่นอาจจะต้องเล่นวิดีโอที่ความละเอียดต่ำๆ อย่าง 144p หรือ 240p เท่านั้น

 

ส่วนโปรเน็ตอย่างแบบ 599 บาท หลังหมดโปรโมชันเน็ตความเร็วสูงแล้ว จะเชื่อมต่อเน็ตได้ที่ความเร็วไม่เกิด 64 kbps ซึ่งช้ามาก การดูวิดีโอ Youtube แม้จะกำหนดความละเอียดวิดีโอต่ำๆ อย่าง 144p แล้วก็ตาม ก็สะดุดมาก จนต้องหยุดดู หรือโหลดเว็บไซต์ใดๆ ก็ตาม ก็ช้าเช่นกัน ส่วนการเล่น Facebook หรือ Line หากเน้นอ่านข้อความอย่างเดียว ก็ไม่ช้า แต่หากโหลดภาพ เล่นวิดีโอเมื่อใด ก็อืด เมื่อนั้น

 

ผู้เขียนจะให้ความสำคัญกับความเร็วเชื่อมต่อเน็ตที่แต่ละโปรให้มา มากกว่าจะไปสนใจกับความเร็วเชื่อมต่อสูงสุดที่ได้ เพราะการต่อ เน็ตหลักๆ จะต้องเชื่อมต่อที่ความเร็วนี้ เช่น โปรเน็ต 199 ได้โปรโมชันเน็ตความเร็วสูง 1 GB วันแรกดูหนังไป 3 เรื่องๆ ละ 300 กว่า Mb ก็หมดโปรแล้ว อีก 29 วันที่เหลือก็ต้องเชื่อมต่อที่ความเร็ว 128 Kbps หากใช้โปรเน็ต 599 ซึ่งเชื่อมต่อที่ความเร็วเพียง 64 kbps ก็คงจะอกแตกตายแน่ หงุดหงิด เพราะต่อเน็ตช้ามากนั่นเอง

 

5. โปรโมชันการโทรศัพท์

คนส่วนใหญ่จะใช้มือถือสมาร์ทโฟน ติดตั้งแอป Line และโทรฟรีผ่าน Line ดังนั้นการโทรแบบเก่า น่าจะน้อยลง ซึ่งโปรเน็ตบางแบบ จะสามารถโทรฟรีได้มากน้อยต่างกันไป เช่น โปรเน็ต 599 บาท โทรศัพท์ฟรีได้ 300 นาที ก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าโทรฟรีทุกเครือ ข่ายหรือเฉพาะ AIS ด้วยกันเอง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องคิดให้รอบคอบก็คือ ความเร็วเชื่อมต่อเน็ตเมื่อหมดโปรโมชันใช้เน็ตความเร็วสูง ซึ่ง โปรนี้จะลดเหลือเพียง 64 Kbps ช้ามาก

 

เมื่อเทียบกับโปรเน็ต 199 แม้จะไม่มีโปรโมชันโทรฟรี แต่เมื่อหมดโปรโมชันใช้เน็ตความเร็วสูง ซึ่งโปรนี้จะลดเหลือเพียง 128 Kbps ซึ่งเร็วพอที่จะโทรฟรีผ่าน Line ได้ ดังนั้น หากใช้การโทรไม่บ่อยนัก และคนรับก็ใช้ Line เหมือนกัน การเลือกโปรเน็ต 199 แทนโปรเน็ต 599 ก็ประหยัดเงินไม่น้อยเลย

 

6. ความแรงของสัญญาณมือถือในพื้นที่ที่อยู่อาศัย

พื้นที่ที่อยู่อาศัยของแต่ละคนนั้นจะรับสัญญาณมือถือของแต่ละบริษัทได้มากน้อยต่างกัน ก่อนจะซื้อซิมของบริษัทใด ก็ต้องตรวจสอบ ให้ดีเสียก่อน เช่น ที่บ้าน ที่ทำงาน เป็นต้น

 

7. บริกรการเสริมใช้งาน Wi-Fi ฟรี

โปรเน็ตอย่าง AIS ISMART 599 บาท นั้นจะมีบริการให้ใช้ Wi-Fi ฟรี นาน 30 วัน แต่ทั้งนี้ก็ต้องตรวจสอบว่า ในพื้นที่ที่อยู่อาศัยนั้น มีเสากระจายสัญญาณ Wi-Fi ของ AIS หรือผู้ให้บริการรายอื่นที่ร่วมกับทาง AIS หรือไม่ หากมีจุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi ใกล้บ้าน หรือ ที่ทำงาน

การเลือกโปรเน็ตแบบนี้จะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจะเชื่อมต่อเน็ตได้ที่ความเร็วสูง แม้จะหมดโปรโมชันใช้เน็ตความเร็ว สูงแล้วก็ตาม แต่ก็ต้องตรวจสอบด้วยว่า สามารถใช้ Wi-Fi ได้วันละกี่ชั่วโมง หรือเชื่อมต่อได้ทั้งวัน

 

8. การต่ออายุโปรเน็ตอัตโนมัติ

โปรเน็ตบางประเภทจะต่ออายุอัตโนมัต เช่น สมัครวันที่ 25 เดือนที่แล้ว และหมดอายุ 24 เดือนนี้ หากมีเงินในซิมมากพอ ก็จะทำ การต่ออายุหรือสมัครโปรเน็ตนั้นๆ ให้อัตโนมัติ ไม่ต้องต่อเอง แต่หากเงินในซิมมีไม่พอเช่น มีแค่ 150 บาท ซึ่งก่อนหน้าได้สมัครโปรเน็ตแบบ 299 เมื่อหมดอายุแล้ว คือวันที่ 24 ก่อนเที่ยงคืนวันที่ 24 ต้องรีบตัดการเชื่อมต่อเน็ตหรือปิดการใช้ข้อมูลในมือถือ ไม่เช่นนั้น ก็จะเชื่อมต่อเน็ตไปเรื่อยๆ โดยคิดเงินค่อนข้างแพง เช่น 1.50 บาทต่อ Mb อย่างการดูวิดีโอ Youtube หน้ากากนักร้อง ซึ่งมีขนาด วิดีโอ 30 Mb ก็จะโดนคิดเงิน 30 x 1.50 บาท หรือ 45 บาท ยังไม่รวม Vat 7%

 

9. รายละเอียดปลีกย่อยเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเน็ตนั้นๆ

โปรเน็ตของ AIS แบบไม่อั้นแต่ละแบบยังมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องใส่ใย เช่น ค่าโทรศัพท์กรณีหมดโปรโมชั่นหรือหมดอายุแล้ว อย่าง โปรเน็ต 799 บาท โทรฟรีได้ 400 นาที หากครบแล้ว ต่อไปจะคิดเงินนาทีละ 1.50 บาท หรือ การส่งข้อความผ่าน SMS จะเสีย เงินข้อความละ 3 บาท MMS ข้อความละ 4 บาท เป็นต้น รายละเอียดยิบย่อยเหล่านี้ต้องอ่านใด้ดี เพราะมักจะเขียนเป็นข้อความด้วย ตัวหนังสือเล็กๆ ซึ่งคนจะไม่ค่อยอ่านกัน ทำให้ผิดพลาด เสียเงินโดยใช่เหตุ

 

สำหรับโปรเน็ตของ AIS เมื่อดูรวมๆ แล้วผู้เขียนมองว่าไม่คุ้ม เพราะเน้นที่ความเร็วเชื่อมต่อหลักของแต่ละโปรเน็ตมากกว่า หลังหมด โปรโมชันการใช้เน็ตความเร็วสูงแล้ว จะเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วเท่าใด เช่น โปรเน็ต 799 บาท หลังหมดโปรโมชั่นแล้ว เชื่อมต่อได้ที่ความ เร็วไม่เกิน 128 Kpbs ซึ่งถือว่าน้อยมาก เมื่อเทียบกับบริษัทอื่น หรือเงินที่ต้องจ่ายไป

 

ผู้เขียนจะเชื่อมต่อเน็ตเป็นหลัก และแทบไม่ได้ใช้การโทรศัพท์ ในพื้นที่ที่อยู่อาศัย ก็ไม่มีจุดกระจายสัญญาณ Wi-Fi ของ AIS ดังนั้น การเลือกโปรเน็ต 199 ก็คุ้มค่าแล้ว เพราะเชื่อมต่อได้ที่ความเร็วไม่เกิน 128 Kpbs เหมือนกันกับโปรเน็ต 799 บาท แต่ประหยัดเงิน ไปตั้ง 500 บาท

 

บทความนี้ค่อยข้างยาว และมีแต่เรื่องตัวเลข ที่อาจจะทำให้ปวดหัว แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องทำความเข้าใจกับโปรเน็ต คำศัพท์ ราย ละเอียดยิบย่อย เพราะการใช้ชีวิตในยุคนี้ ขาดอินเตอร์เน็ตไม่ได้เลย หากไม่เข้าใจโปรเน็ต เลือกผิดๆ ถูก ก็เสียเงินเปล่า แถมไม่ได้โป รเน็ตที่ตรงตามต้องการ เสียอารมณ์อีกต่างหาก