แนะนำเรื่องที่ต้องรู้ คำศัพท์ คำเรียก หรือข้อความโฆษณาเกี่ยวกับโปรเน็ต เพื่อสมัครเล่นเน็ตแบบต่างๆ ของบริษัทมือถือแต่ละค่าย เพื่อจะได้เลือกสมัครแพ็คเกจที่ตรงกับความต้องการ ไม่ผิดพลาดเสียเงิน

 

 

ตัวอย่างโปรเน็ต แพ็จเกจสำหรับสมัครใช้อินเตอร์เน็ต

บริษัทมือถือแต่ละรายมีโปรเน็ตให้เลือกเยอะมาก ซึ่งมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องศึกษาอย่างมากเช่นกัน เช่น

จำนวนโปรโมชันข้อมูลรับส่ง

ตัวอย่างเช่น สามารถใช้งานได้ที่ 3 GB ที่ความเร็ว 512 kbps ในการใช้งานเน็ตจะมีการรับส่งข้อมูลระหว่างมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของ เรากับเซิร์ฟเตอร์ในอินเตอร์เน็ต 3 GB จะเป็นปริมาณข้อมูลที่มีการรับส่งนั่นเอง ปริมาณข้อมูลจะมากหรือน้อยก็อยู่ที่ข้อมูลที่เราเข้าไปใช้งาน หากดูวิดีโอ Youtube ดูหนังความคมชัดสูง จะมีการโหลดข้อมูลจำนวนมาก การดูภาพจะลดลงมาตามลำดับ หากเน้นอ่านข่าว อ่านอีเมล์ มี แต่ข้อความ ปริมาณรับส่งข้อมูลก็จะน้อยมาก ส่วนความเร็วในการเชื่อมต่อเช่น 512 จะเป็นอัตราข้อมูลที่มีการรับส่ง

 

ความเร็วการเชื่อมต่อหลังหมดโปรโมชั่นของแพ็คเกจนั้น

ตัวอย่างเช่น ความเร็วการเชื่อมต่อจะอยู่ที่ 64Kbps ในแพ็คเพจอินเตอร์เน็ต อาจจะมีการระบุว่า เมื่อหมดโปรโมชันการใช้งานที่ 3 GB แล้วจะลดความเร็วหรือลดอัตรารับส่งข้อมูล จาก 512 kbps เหลือ 64 kbps, 128 kbps เป็นต้น ยิ่งลดน้อยมาก การรับส่งข้อมูลจะสะดุดมาก ถ้าเหลือ 64 kbps ดูวิดีโอ Youtube ไม่ได้ การแสดงภาพจะค่อนข้างช้า ดังนั้น เมื่อหมดโปรโมชันแล้ว ควรเลือกที่ความเร็วรับส่งข้อมูลไม่ ควรน้อยกว่า 128 kbps

 

ความเร็วเชื่อมต่อคงที่ไม่มีโปรโมชัน

ตัวอย่าง สามารถใช้งานเน็ตที่ความเร็วคงที่ 512 kbps บางโปรโมชัน ไม่มีการให้ปริมาณรับส่งข้อมูล อย่างเช่น 1 GB, 3 GB ที่ความเร็วสูง แต่ให้การเชื่อมต่อที่ความเร็วคงที่ เช่น 384 kbps, 512 kbps ซึ่งก็ต้องดูว่า พฤติกรรมการใช้งานของเราเป็นอย่างไร และความเร็วที่เหมาะสม กับสไตล์การใช้เน็ตของเราเป็นแบบไหน ก็อาจจะเลือกการเชื่อมต่อที่ความเร็วคงที่ ไม่ต้องมีโปรโมชันความเร็วสูงในปริมาณกี่ GB ของแต่ ละแพ็คเกจ


อย่างบางโปรโมชันให้ปริมาณรับส่งข้อมูลที่ 3 GB และลดความเร็วลงเหลือ 64kbps ซึ่งหากเน้นดูวิดีโอ Youtube ท่องเน็ตไปทั่ว ไม่เกิน 7 วันก็ใช้งานปริมาณข้อมูลครบ 3 GB หรืออาจจะหมดเร็วกว่านั้น หลังจากนั้นจะถูกลดความเร็วลงเหลือ 64 kbps ซึ่งไม่สามารถทำอะไรได้ ดูวิดีโอก็ไม่ได้ สะดุดมาก อ่านข่าวได้อย่างเดียว โหลดภาพก็ลำบาก ดังนั้นหากใช้โปรโมชันความเร็วคงที่อย่าง 512kbps ตลอดช่วงเวลาที่ สมัครใช้งาน ก็จะไม่มีสะดุด ดูวิดีโอ อ่านข่าว ฯลฯ

 

โปรโมชันใช้เน็ตแบบ คิดเป็นชั่วโมง

ตัวอย่างสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตได้ 70 ชั่วโมง การใช้เน็ตแบบคิดเป็นรายชั่วโมงจะมีจุดเด่นที่ความเร็วในการรับส่งข้อมูล เพื่อให้ โหลดข้อมูลได้เร็ว และใช้งานติดพัน ทำให้ชั่วโมงการใช้งานหมดเร็ว โปรแบบนี้ เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่มีระเบียบวินัย ที่สำคัญไม่ขี้ลืม เพราะการต่อเน็ตในมือถือหากลืมตัดการเชื่อมต่อเน็ต เวลาก็จะเดินไปเรื่อยๆ 70 ชั่วโมง อาจจะหมดในไม่กี่วัน

การใช้งานแพ็คเกจแบบนี้ ต้องคำนวณว่าตัวเองใช้เน็ตวันละกี่ชั่วโมง เช่น เล่นเน็ตวันละ 1-2 ชั่วโมง ก็จะใช้เน็ต 70 ชั่วโมงต่อดือนได้สบายๆ เหมาะสำหรับให้บุตรหลานไว้ใช้งาน เพราะยังไม่จำเป็นต้องเล่นเน็ตบ่อยนัก แต่ห้ามลืมตัดการเชื่อมต่อ ไม่เช่นนั้น จำนวนชั่วโมงจะหมด เร็วมาก

 

โปรโมชันแบบคิดตามปริมาณ

ตัวอย่าง สามารถรับส่งข้อมูลได้ที่ 1.5 GB เมื่อมีการเชื่อมต่อเน็ตระหว่างมือถือหรือคอมพิวเตอร์ของเรากับเว็บไซต์ต่างๆ หรือแอ ปต่างๆ ทั้ง Facebook, Line ฯลฯ ก็จะต้องมีการรับส่งข้อมูลไปมาระหว่างกัน ซึ่งปริมาณรับส่งข้อมูลนี้ จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับประเภท ของแอปหรือเว็บไซต์นั้นๆ หากเป็นการดูวิดีโอ ก็จะใช้ปริมาณข้อมูลสูงกว่า การดูหนังบางเรื่องอาจจะมีข้อมูลรับส่งมากถึง 100 Mb การ รับส่งข้อมูลที่ 1.5 GB จึงอาจจะดูหนังได้เพียง 10 เรื่องเท่านั้น


การใช้โปรโมชัตเน็ตแบบคิดตามปริมาณข้อมูลที่รับส่ง จะควบคุมยากมาก หากลืมตัดการเชื่อมต่อ แอปบางตัว มีการรับส่งข้อมูลเอง จึง ต้องตรวจสอบและตั้งค่าแอปต่างๆ ไม่ให้รับส่งข้อมูลเอง การใช้งานเน็ตโดยเลือกโปรเน็ตแบบนี้ไม่เหมาะสำหรับคนชอบแช็ท ชอบท่องเน็ต เพราะจะหมดเร็วมาก

 

โปรแกรมชันใช้โซเชียลฟรี

ตัวอย่างเช่น เมื่อใช้ชั่วโมงเน็ตหมดแล้วจะสามารถใช้งาน Facebook ได้ฟรี หากเป็นคนที่เน้นเล่นโซเชียลเป็นหลัก โปรเน็ตแบบนี้ น่าจะ เหมาะ บางโปรจะสามารถเล่น Facebook ได้ตลอดเวลา ในช่วงที่ยังอยู่ในระยะเวลาสมัครใช้งาน

 

โปรโมชันใช้ WiFi ไม่จำกัด

ตัวอย่างเช่น นอกจากโปรเน็ตแล้ว ก็จะสามารถใช้งาน WiFi ได้ไม่จำกัด หากบ้านอยู่ใกล้จุดส่งสัญญาณไวไฟของค่ายมือถือนั้นๆ การ ใช้งานแบบนี้คุ้มแน่นอน แม้จะเล่นเน็ตผ่านซิมไม่ได้ แต่ก็เล่นผ่าน Wifi ได้

 

โปรเน็ตตามเงื่อนไขการสมัคร

ตัวอย่างเช่น สามารถเล่นได้เน็ตถึง 6 ทุ่ม การสมัครใช้งาน อาจจะมีบางค่ายที่มีการกำหนดระยะเวลาใช้งานเช่น ใช้ได้ถึง 6 ทุ่ม หากไป สมัครในช่วงเวลา 5 ทุ่ม 50 นาที ก็จะใช้งานได้ แค่ 10 นาทีเท่านั้น แต่บางแพ็คเกจจะมีการระบุว่า เล่นได้ 24 ชั่วโมงตามจริง

ทางผู้ดูและเว็บ ไซต์ siamebook เองก็เคยสมัครแบบเบลอๆ ตอนใกล้จะเที่ยงคืน พอหลังเที่ยงคืนแล้ว ปรากฏว่าไม่สามารถเล่นได้ ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ ใช้ซิมแบบรายเดือน โดยคิดเงินแบบเต็มๆ ตอนนั้นคิดเป็นนาทีละ 2 บาท โหด เลว ชั่วจริง จะโทษค่ายมือถือก็ไม่ได้ เพราะบรรดาโป รเน็ตทั้งหลาย ถูกออกแบบมาเพื่อสูบเงินของเราอยู่แล้ว หากไม่ศึกษาให้ดี ก็มีแต่เจ็บตัว

 

โปรโมชันใช้งานอินเตอร์เน็ตแบบรายวัน รายสัปดาห์

ตัวอย่างเช่น เล่นเน็ตได้วันละกี่ชั่วโมงหรือคิดตามปริมาณใช้งาน คิดตามข้อมูลที่มีการรับส่ง การใช้งานแบบนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้ซิมที่มี โปรโมชันเสริม เช่น ปกติอาจจะใช้เน็ตที่บ้าน ผ่าน WiFi แต่มีเหตุให้ต้องออกจากบ้านไปทำธุระต่างจังหวัดไปเที่ยว 2 วัน ก็สมัครโปรเน็ต เสริมแบบนี้ เพื่อใช้งานเฉพาะกิจ เป็นต้น

 

ข้อมูลซิม โปรหลัก โปรเสริมที่ใช้งานในขณะนั้น

ซิมมือถือจะต้องมีโปรหลัก เช่น โทรศัพท์นาทีละกี่บาท โทรฟรีได้กี่นาที หรือต่อเน็ตคิดเงินอย่างไร ส่ง SMS ครั้งล่ะเท่าไร ให้ตรวจ สอบโปรหลักของเรา ด้วยการกด * ตามด้วยตัวเองที่ทางค่ายมือถือกำหนด บางค่ายมีค่าใช้บริการ ดังนั้น ให้จดเอาไว้ ว่าโปรหลักของซิมที่ ใช้นั้นมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง เช่น

  • dtac *103*8#
  • my *905*00#
  • true *9399 กด 2, 1 บาท/ครั้ง, *939*2#
  • ais *777#


ในการใช้งานเน็ตให้สมัครโปรเสริม โดยเฉพาะผู้ใช้งานแบบรายเดือน ซึ่งจะเสียเงิน 2 ทาง คือค่าบริการรายเดือน และการสมัครโปรเน็ต เสริม โดยคิดรวมกัน แต่ค่าใช้จ่ายสูงแน่นอน หากไม่สมัครโปรเสริมเพื่อใช้เน็ต

การใช้เน็ตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนยุคนี้ เพราะขาดการเชื่อมต่อเแทบไม่ได้เลย อ่านข่าว ดูวิดีโอ เช่น Facebook, Line ฯลฯ ดังนั้นจึงต้อง ศึกษาเครื่องมือใช้เชื่อมต่อเน็ต อย่างซิมมือถือและโปรโมชันต่างๆ ให้ดี ศึกษาให้รอบคอบ เพื่อให้รู้ว่า มีข้อดี ข้อเสียอะไรบ้าง

 

แชร์บทความนี้ :