ความหมาย : สำนวนนี้มักจะใช้พูดเพื่อเตือนสติ ในการกระทำบางอย่างที่อาจนำความเดือดร้อนมาสู่ตนเอง อย่างการมีปัญหาทะเลาะวิวาทหรือขัดแย้งกับผู้ใดก็ต้องดูให้ดีว่าคุ้มหรือไม่ ที่จะลดตัวไปทะเลาะด้วย อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง อย่าลดตัวไปมีเรื่องกับคนไม่ดี ทองนั้น มีราคามากกว่ากระเบื้อง แต่ความแข็งน้อยกว่า หากกระทบกระทั่งกัน ก็จะเป็นทองที่จะเกิดความเสียหายมากกว่า เช่นเดียวกัน หากไปมีเรื่องกับคนไม่ดี ก็มีแต่จะทำให้ตัวเองได้รับความเสียหายหรือเสื่อมเสีย มากกว่า

ตัวอย่าง :

การมีเรื่องกับคนพาล ที่ชอบเอาชนะโดยไม่ยึดเหตุผล ไม่ยึดความถูกต้อง เอาแต่ความถูกใจตัวเอง เอาแต่ผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง หากเจอคนประเภทนี้อย่าลดตัวไปยุ่ง อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะลดตัวไปสู้กับคนเหล่านี้เพราะคนเหล่านี้จะไม่คิดความถูกต้อง แต่ยึดความถูกใจเป็นหลัก สิ่งใดที่ตัวเองได้ประโยชน์ สิ่งนั้นก็คือความถูกต้อง การทะเลาะกับคนประเภทนี้จึงไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด

คนที่มีอารมณ์รุนแรงขี้โมโห ขี้หงุดหงิด ไม่ยอมใคร คนประเภทนี้เมื่อมีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน ก็มักจะมีความรุนแรงตามอารมณ์ของตน บางคนแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็มักจะพยายามทำให้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องเท่ามด แต่ก็พยายามสร้างเรื่องให้ใหญ่เท่าช้าง เพื่อให้การทะเลาะกันนั้นมีความรุนแรง มีความสะใจมากขึ้น คนประเภทนี้ไม่ควรลดตัวไปมีเรื่องด้วย อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง อย่าเอาตัวเองไปยุ่งกับคนไม่ดีเหล่านี้ เพราะปัญหาจะไม่จบง่ายๆ แต่ควรใช้กฎหมายเข้ามาจัดการ

การมีเรื่องทะเลาะกับคนบางประเภทโดยเฉพาะคนระดับล่าง ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้าปากตลาด หรือคนที่คิดลบ หรืออยู่ในสังคมที่ไม่ดี เพราะตัวเองมีแต่ความทุกข์อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว การทะเลาะกันก็มักจะมีความรุนแรง อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง อย่าเอาตัวไปมีเรื่องกับคนเหล่านี้ ได้จะไม่คุ้มเสียเพราะการทะเลาะกับคนประเภทนี้ อาจจะต้องตายกันไปข้างจะต้องเจ็บตัวกันไปข้าง และคนเหล่านี้มักจะเกรงกลัวคนที่มีอิทธิพล มีอำนาจเหนือกว่าตนอย่างแท้จริง หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่มีอิทธิพล อำนาจอะไร ยากที่จะยอมเลิกราง่ายๆ

การอยู่ในสังคมที่เห็นแก่ตัวมากๆ สังคมที่ผู้คน คิดถึงแต่ตัวเองซึ่งบางทีก็เป็นสังคม ใกล้ตัวเรา อย่างสมาชิกในครอบครัวญาติพี่น้องหรือแม้แต่เพื่อนฝูง หากอยู่ในสังคมอย่างนี้ ก็ต้องระวังการมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับคนประเภทนี้ อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง เพราะปัญหาอาจบานปลายและรุนแรงโดยเฉพาะหากการเป็นคนต่างถิ่นที่ไปอาศัยอยู่ในถิ่นอื่น ย้ายมาอยู่ถาวร ตั้งรกรากปักฐาน ก็ยิ่งต้องระมัดระวัง อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง การมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับชาวบ้านเพียงคนเดียว แต่อาจจะมีเรื่องกันทั้งหมู่บ้าน เพราะไปลากพรรคพวกมาช่วยกันรุม รังแก

หากเจอกรณีอย่างนี้ ก็ต้องพึ่งพาเจ้าหน้าที่บ้านเมือง หรือดูข้อกฎหมาย ว่าจะทำอะไรได้บ้าง แต่ก็อีกนั่นแหละ บางทีเจ้าหน้าที่ก็จะเข้าข้างพวกพ้องในท้องที่เดียวกัน ไม่เอาคนต่างถิ่น หากมีปัญหากระทบกระทั่งคนประเภทนี้ จึงต้องระวัง ติดกล้องวงจรปิดไว้ เพื่อจะได้มีหลักฐาน ไว้ป้องกันตัวเอง

ในชีวิตคนเรานั้นก็มีโอกาสเจอคนประเภทอาฆาตพยาบาทหรือนิสัยพาล เกเร เอาเปรียบ ไม่ยอมใคร แม้ว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายผิดก็ตาม อย่างการเปิดร้านค้า ร้านอาหารในละแวกเดียวกัน บางร้านนั้นขายดีมาก ก็มักจะมีปัญหาในเรื่องความอิจฉาเกิดขึ้นตามมา ร้านอื่นอาจเกิดความอิจฉาออกนอกหน้า มีปากเสียงทะเลาะกัน หากมีปัญหาเช่นนี้ต้องระวังการลดตัวลงไปทะเลาะกับคนเหล่านั้น อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง เพราะจะไม่คุ้ม ควรใช้วิธีอื่นอย่างการตั้งกล้องวงจรปิด การจับภาพ ถ่ายวีดีโอเพื่อเป็นหลักฐานไว้ดำเนินคดี หรือการหาทางติดต่อกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่คนเหล่านั้นเกรงกลัวหรือนับถือเพื่อให้ช่วยไกล่เกลี่ย ย่อมจะดีกว่า การมีปัญหากลายเป็นคู่อริกัน