การทำร้านค้าแบบรถยนต์เคลื่อนที่ได้ จะเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่า หากมองอีกมุมหนึ่ง ก็ประหยัดเงินมากกว่าการไปเช่าที่ เพราะค่า ตกแต่งร้านมักจะแพงกว่าตัวรถมือสองเสียอีก เพราะรถที่ซื้อมานั้น หากเป็นรุ่นยอดนิยม ราคาก็ไม่ตก ซื้อมาแสนหนึ่ง อาจจะขายได้ ราคาเท่าเดิม หรือลดลงเล็กน้อย

 

ตัวอย่างการนำรถมาทำเป็นร้านที่เรามักจะพบกันบ่อยๆ จะเป็นการนำรถคลาสสิคหรือรถรุ่นเก่า เพราะรถเหล่านี้มีเสน่ห์ดึงดูดสาย ตาอยู่แล้ว ยิ่งมาทำเป็นร้านก็ยิ่งสะดุดสายตา ที่นิยมกันมากจะเป็นร้านกาแฟ เครื่องดื่ม

 

สิ่งต้องพิจารณาก่อนการซื้อรถมาทำเป็นร้านเคลื่อนที่

เมื่อต้องการ รถยนต์มือสอง รถเก่า มาทำป็นร้านค้าเคลื่อนที่สักคัน ก็อาจจะพิจาณาจากปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้

ประหยัดน้ำมัน

เมื่อต้องขับรถบ่อยๆ เพื่อขายของนอกสถานที่ดังนั้น ต้องคำนึงถึงเรื่องประหยัดน้ำมันไว้ก่อน เน้นเครื่องยนต์ขนาดเล็กประหยัด น้ำมันไว้ก่อน รถติดแก๊สอาจจะเป็นทางเลือกที่ประหยัด แต่ปัญหาจุกจิกที่จะตามมาจะไม่คุ้ม

 

ขายต่อราคาไม่ตก

รถทุกคันเมื่อถึงเวลาก็ต้องขาย จึงต้องพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย เพราะรถเก่าแม้ราคาจะตกลงแต่ก็จะหยุดอยู่ประมาณไม่เกิน 100,000 บา ท หากสามารถรักษาสภาพไว้ได้ดี ก็จะอยู่ประมาณ 70,000 - 100,000 บาท ก็ถือว่าไม่ขาดทุน อย่างรถกระบะตอนเดียวพวกนี้ ราคาไม่ตก ประหยัดน้ำมัน และภาษีประจำปี เป็นรถที่ชาวบ้าน ชาวไร่ ชาวสวนนิยมใช้ จึงขายต่อไม่ยาก แต่ซื้อมาแล้วต้องแต่งเติมอีกหน่อยอย่างการติดหลังคาแครี่บอยไว้เก็บของ

 

 

รุ่นยอดนิยม

การเลือกรถรุ่นยอดนิยม จะชายต่อง่าย เมื่อหยุดทำกิจการ ก็ขายได้ ปล่อยง่าย ขณะใช้งานก็ไม่ลำบากเวลาซ่อมหรือการหาซื้อ อะไหล่เช่นกัน

 

เครื่องยนต์ดีเซล

สำหรับรถเก่า รถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลจะประหยัดน้ำมันมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์เบนซิน แม้เครื่องเบนซินจะสามารถ ติดแก๊สได้ แต่ความจุกจิกของระบบแก๊สจะสร้างปัญหากวนใจ ดังนั้นการเลือกเครื่องยนต์ดีเซลนั้นดีกว่าแน่นอน เพียงแต่ต้องลดความ เร็วในการขับให้อยู่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร รถเก่าเครื่องยนต์ดีเซลล์ส่วนใหญ่ทำได้เกิน 13 กิโลเมตรต่อลิตร หรือกิโลเมตรละประมาณ 2 บาท

 

รถมีความอเนกประสงค์

รถมือสองหรือรถเก่าแบบอเนกประสงค์มีให้เลือกหลายรุ่น เหมาะสำหรับไว้ค้าขาย เปิดร้านนอกสถานที่ เพราะสามารถบรรทุกสินค้า เก็บสินค้าในรถได้ รถแวนเป็นตัวเลือกที่ดี บางรุ่นสามารถหาซื้อได้ในราคาถูกมาก เครื่องยนต์ดีเซลมีความทนทานใช้งานได้อีกนาน อย่างรุ่นนี้ประหยัด ทนทาน

 

หากว่ากันในเรื่องความอเนกประสงค์แล้ว ต้องยกให้รถตู้ เพราะมีตัวเลือกหลายตัวที่เหมาะสำหรับการทำร้านเคลื่อนที่ อย่าง ISUZU Buddy คันใหญ่แบบนี้ สำหรับคนที่มีความสูงไม่เกิน 175 เซนติเมตร ก็ยืนในรถได้สบายๆ ข้างในกว้างขวางมาก

 

รถตู้ขนาดเล็กก็มี อย่าง Toyota Liteace ความยาวตัวรถพอๆ กับรถ Honda Jazz ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี คล่องตัว วงเลี้ยวแคบ แต่ บรรทุกได้มาก เก็บสินค้าในรถได้ ไม่ต้องกลัวเปียก กลัวเปื้อน แต่ปัญหาที่ต้องระวังก็คือ ตัวถังผุเร็วหากเจอฝนบ่อยๆ ต้องศึกษาจุดนี้ให้ดี เพราะซ่อมแล้วไม่จบ

 

รถยนต์แบบ Hatch Back รถมือสองแบบนี้ในท้องตลาดจะมีไม่มากนัก เช่น Honda Civic 3 Door, Toyota Starlet หลายรุ่นเปลี่ยน เครื่องยนต์ใหม่แล้ว ประหยัดกว่าเครื่องเก่าแบบคาร์บูเรเตอร์

 

สีตัวถังภายนอก

รถสำหรับเปิดท้ายขายของจะต้องจอดตากแดดตากฝน ตัวถังและสีรถจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องพิจารณา เน้นรถที่สีเดิมๆ แม้จะซีด จาง แต่ก็ดีกว่ารถทำสีใหม่ เพราะรถทำสีก่อนขาย หลายคันทำสีคุณภาพต่ำ ใช้ได้ไม่นานก็ผุ โดยเฉพาะรถคลาสสิคต้องระวัง เพราะแม้ จะทำสีอย่าง แต่บางคันจอดตากแดดตากฝนไม่กี่เดือนก็เริ่มขึ้นสนิมแล้ว เรื่องนี้สำคัญ เพราะค่าทำสีว่ากันที่หลักหมื่นบาท หรือแม้แต่ การซื้อรถเก่ามาทำสีใหม่ก็ตามก็ต้องระวังในเรื่องนี้ให้ดี หากใช้สีคุณภาพต่ำ ไม่นานก็จะมีปัญหาแน่นอน

 

การใช้รถเก่าแบบต่างๆ มาทำร้านค้าเคลื่อนที่

รถเก่ามีหลายแบบการจะเลือกแบบใดนั้น ต้องมีความรู้เบื้องต้นในเรื่องรถยนต์เสียก่อน เพราะหาเลือกผิด ก็เหมือนเอาเงินไปทิ้ง เปล่าๆ

ใช้รถเก่า รถคลาสสิคทำร้านค้าเคลื่อนที่

รถเก่า รถคลาสสิคมีเสน่ห์ในตัวเองและเป็นที่นิยมอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่จะกวนใจก็คือหากจะต้องจอดตากแดดตากฝนนานๆ จะสร้าง ปัญหาแน่นอน อะไหล่ก็หายาก หากเป็นเครื่องเดิมก็จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินแบบคาร์บูเรเตอร์ กินน้ำมัน และต้องใช้กับน้ำมันเบนซิน 95 หากจะใช้รถแบบนี้ อาจจะซื้อมาจอดหน้าร้านไม่ต้องขยับไปไหน

 

กระบะตอนเดียวหรือมีแคป

กระบะตอนเดียวเป็นรถที่มีความน่าสนใจตรงที่ราคาไม่ตก หากยังคงรักษาสภาพได้ดี เป็นรถที่มีความทนทาน ประหยัดน้ำมัน แต่ ความอเนกประสงค์จะน้อยหน่อย ต้องมีกล่องเก็บของ เก็บสินค้า หรืออาจจะต้องทำหลังคาเสริมก็เป็นตัวเลือกที่ดีมาก คุ้มค่า รถก็ไม่เสีย เก็บของได้มาก การดัดแปลงใดๆ ก็ไปที่ในส่วนที่ทำหลังคาเสริมเท่านั้น

 

ส่วนการเลือกรถกระบะแบบทมีแคปจะมีข้อดีก็คือ นั่งนอนในรถได้ หากฝนตก แดดร้อน เพราะมีพื้นที่ในรถมากพอ เน้นยี่ห้อยอด นิยม ไมีปัญหาในการใช้งาน การซ่อมบำรุง และขายต่อแน่นอน

 

รถตู้

รถตู้เป็นรถที่เหมาะสำหรับการนำมาทำร้านค้าอย่างมาก ซึ่งมีตัวเลือกหลายคันที่ราคาไม่แพง เช่น Toyota Hiace, Toyota Liace, Isuzu Buddy โดยเฉพาะตัว Buddy เป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว้างขวาง การขายเสื้อผ้า สามารถทำห้องลองเสื้อภายในรถได้เลย เน้นเครื่อง ยนต์ดีเซล จะมีความทนทาน ไม่จุกจิก รถเหล่านี้เก็บสินค้าในรถได้สบายๆ นั่งขายในรถได้ เหมาะสำหรับการเปิดท้ายขายของอย่างมาก แต่ต้องพิจารณาตัวถังให้ดี เรื่องผุสำคัญที่สุด

 

รถเก๋ง

รถเก๋งมีบางรุ่นที่เหมาะสำหรับไว้ขับรถขายของเปิดท้าย เช่น Honda City รุ่นแรก เครื่องยนต์ 1300 cc ประหยัดน้ำมัน แต่ไม่ เหมาะสำหรับการบรรทุกสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เครื่องยนต์หัวฉีด ใช้น้ำมันเบนซิน 91 รุ่นนี้อะไหล่ยังหาได้สบายๆ เป็นตัวเลือกที่น่า สนใจ หาซื้อได้ในราคาประมาณ 50,000 - 70,000 บาท

 

การใช้รถยนต์เป็นร้านค้าเคลื่อนที่อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการขายสินค้า เพราะสามารถขายนอกสถานที่ได้ หรือแม้ แต่ไว้จอดไว้หน้าบ้านก็ตาม หากมองอีกมุมหนึ่งแล้ว ประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการสร้างซุ้มหรือเค้าเตอร์ขายสินค้า หรือหากร้านอยู่ลึก ห่างถนนหลัก การนำรถไปจอดหน้าร้านจะมีโอกาสขายของได้มากกว่า อย่างบางร้าน ขายของติดถนน คนซื้อเยอะมาก เพราะสะดวก แต่พอย้ายเข้าข้างใน ปรากฏว่าขายไม่ออก ขายยาก เพราะคนไม่เข้า คนขี้เกียจเข้า การนำเสนอบริการให้ถึงมือลูกค้ามากที่สุด ก็มี ความสะดวกมาก เพราะสามารถดึงเงินจากลูกค้าได้เร็วขึ้น