ก่อนจะซื้อรถมือสองให้ทำความเข้าใจกับราคารถกันก่อน จากรถยนต์ใหม่ป้ายแดงราคาหลักแสน-หลักล้านบาท เวลาที่ผ่านไปแต่ละเดือนแต่ละปี ราคาจะลดลง โดยช่วงแรกจะลดลงอย่างมาก อาจลดลงหลักหมื่นหรือหลักแสนบาทต่อปีเลยทีเดียว และเมื่อเวลาผ่านไป 15-20 ปี กลายเป็นรถมือสอง ราคาก็จะเหลือหลักหมื่นบาทเป็นส่วนใหญ่ แต่รถเหล่านี้ก็ยังใช้งานได้ หากรู้จักเลือกรถ และซ่อมให้เป็น
หากเข้าใจในเรื่องปีรถ ระยะทางหรือเลขไมล์และราคารถที่ตกลงมาเรื่อยๆ ก็จะช่วยให้การหาซื้อรถมือสองสภาพดีๆ สักคัน ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเลือกรถที่เหมาะสมกับงบที่มีได้
รถอายุการใช้งานไม่มากหรือมีประวัติการซ่อมบำรุง
1. รถอายุประมาณ 3 ปีขึ้นไป ราคาลดลงจากรถป้ายแดงเกิน 30% รถใหม่ราคา 1 ล้านบาท จะลดเหลือไม่เกิน 700,000 บาทแต่รถยังมีความสมบูรณ์มาก เราสามารถหาซื้อรถที่ขับน้อยมากๆ เลขไมล์ไม่ถึง 100,000 กิโลเมตรได้สบายๆ
ในขณะที่รถรุ่นใหม่เครื่องยนต์ทนทาน การดูแลอย่างดี สามารถใช้งานเกิน 500,000 กิโลเมตร ได้สบายๆ ประหยัดเงินหลักแสนบาทเลยทีเดียว หากใช้รถยี่ห้อและรุ่นยอดนิยม จะมีเครื่องยนต์รองรับมากมาย อยากได้เครื่องยนต์แบบไหน ก็เปลี่ยนได้ตามใจชอบ
2. รถอายุการใช้งานไม่มาก ส่วนใหญ่เจ้าของจะมีกำลังจ่าย มีการซ่อมบำรุงดูแลตามระยะทาง จึงสามารถหาซื้อรถที่มีประวัติการซ่อมจึงหาไม่ยาก เมื่อหาซื้อได้แล้วก็เพียงแต่ทำการดูแลรถตามที่เจ้าของเดิมเคยทำไว้ แค่นั้นเอง ก็ใช้งานได้ยาวนานแน่นอน
3. ตัวอย่างตารางการตรวจเช็คตามระยะทางของ Honda City ในระยะ ทางประมาณ 200,000 กิโลเมตร หากรถมีอายุการใช้งานมากกว่านั้น ก็ปฏิบัติไปตามตาราง การตรวจเช็ค หากเข้าศูนย์ทุกครั้ง ทางศูนย์จะดำเนินการเรื่องการซ่อมให้เอง ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 200,000 กิโลเมตร การซ่อมศูนย์หากแพงมาก ให้ซื้ออะไหล่เอง จะซื้อจากร้าน อะไหล่ หรือสั่งจากศูนย์ก็ได้ แล้วหาอู่นอกซ่อมเอง ประหยัดกว่า และไม่ว่าจะซื้อรถรุ่นใด ให้หาข้อมูลการซ่อมตามระยะทางในลักษณะนี้ เมื่อได้รถมาแล้ว ก็จัดการไปตามนั้น ก็จะได้รถดีไว้ใช้งาน
รถที่ไม่มีประวัติการซ่อมบำรุง
สำหรับรถยนต์ที่ไม่มีประวัติการซ่อมบำรุง ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถเก่าก็ตาม เจ้าของอาจะมีปัญหาการเงิน ทำให้การซ่อมบำรุงไม่สามารถทำได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในคู่มือ หรือซ่อมอู่นอก จึงไม่มีประวัติ เพราะเข้าศูนย์ มีค่าใช้จ่ายสูง
ก่อนการซื้อรถที่ไม่มีประวัติจำเป็นต้องตรวจสภาพรถให้ละเอียดเสียก่อน ว่ามีอุปกรณ์อะไรต้องซ่อมบ้าง เช่น ช่วงล่าง แอร์ สายพาน ฯลฯ จากนั้นก็จัดการซ่อมใหญ่ทั้งหมด แล้วก็เริ่มต้นดูแลตามระยะทางเหมือนรถใหม่ อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงแรก ตัวอย่างเช่น
1. การซื้อรถมือสองราคาประมาณ 100,000 บาท ก็ยังมีรถให้เลือกสภาพดีๆ อย่าง Honda City ปี 2000 คันนี้ สภาพดูดีมาก เดิมๆ ซื้อมาแล้ว อย่าจอดแตกแดดตากฝน หากมีประวัติการซ่อมบำรุงก็ปฏิบัติไปตามที่เจ้าของเดิมเคยทำ
2. หากไม่มีประว้ติการซ่อมมาก่อน ก็จำเป็นต้องซ่อมใหญ่ เช่น
- จัดการช่วงล่างเปลี่ยนยาง (ถ้าหมดสภาพแล้ว)
- จัดการหน้าเครื่อง ปั๊มน้ำ สายพานต่างๆ
- ดูระบบแอร์
- ระบบระบายความร้อน
ฯลฯ
ทำให้ดีที่สุด เปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่หมดทั้งคัน เผื่องบไว้ซ่อมสัก 100,000 บาท ซ่อมบำรุงให้เทพไปเลย จากนั้นก็จะได้รถดีไว้ใช้งานได้อีกนานหลายปี เลขไมล์ประมาณแสนห้าหมื่นกิโลเมตรอย่างคันนี้ ใช้งานได้อีกนาน สำหรับรุ่นนี้เพื่อนผู้เขียนเคยใช้ซึ่งเลขไมล์ขณะนั้น ประมาณ 400,000 กิโลเมตร ยังขับไปขึ้นเหนือกรุงเทพเชียงรายเชียrงใหม่ได้สบายๆ
3. การซ่อมรถเก่าที่ไม่รู้ประวัติ หากต้องการความมั่นใจ ไม่ต้องกลัวเสียกลางทาง ควรซ่อมใหญ่ทุกระบบ ทุกจุด ทั้งค่าตัวรถและค่าซ่อมจบที่ 150,000 - 200,000 แต่ได้รถดีไว้ใช้งานอีกนาน ก็ถือว่าคุ้มมาก ประหยัดเงินหลายแสนบาทเลยทีเดียว
แต่ทั้งนี้ก็มีข้อแม้ว่า รถคันนั้นต้องเป็นรถตลาด ขายต่อง่าย ประหยัดน้ำมัน การซ่อมบำรุง ต้องทำให้เหมือนเดิม อยู่สภาพเดิมๆ หากรถเครื่องใหญ่ รถใหญ่อย่าง Accord, Camry ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง อย่าซื้อและอย่าซ่อม จะบานปลาย แม้รถจะมีความสมบูรณ์แต่มีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูง ค่าน้ำมันก็แพงกว่า ติดแก๊สก็จะมีปัญหาจุกจิกตามมา
จากที่ยกตัวอย่างข้างต้น หากมีความเข้าใจในปีรถ ราคา สภาพรถ เลขไมล์ และรู้จักซ่อมบำรุง ก็จะสามารถเลือกรถ ในราคาตามงบประมาณได้ ตัวอย่างมีงบ 700,000 อยากได้ CRV ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรถใหม่ป้ายแดง เพราะมีรถมือสองสภาพดี เลขไมล์น้อยๆ ให้เลือกหลายคัน
หากมีงบไม่มากเพียง 150,000-200,000 บาท ก็ซื้อรถราคาประมาณ 100,000 บาท หรือถูกกว่านั้น ขอให้มีสภาพตัวถังดี ไม่มีผุไม่มีชนหนัก เครื่องไม่มีปัญหาความร้อน ได้มาแล้วก็ซ่อมบำรุงอย่างดี ทุกจุด ก็จะได้รถมือสองสภาพดีไว้ใช้งานอีกนาน
การใช้รถมือสองต้องซ่อมรถให้อยู่ในสภาพเดิม เหมือนมาตรฐานจากโรงงาน ไม่เช่นนั้นไม่จบ แต่สิ่งสำคัญ ห้ามทำอย่างเด็ดขาด ก็คือ การดัดแปลง ต้องทำให้คงสภาพเดิม เพราะรถเดิมๆ จะค่อนข้างทน อย่างล้อแม็กเดิม ติดรถ อาจจะไม่สวย แต่ทนไม่ลอกง่ายๆ ระวังสุนัขฉี่ และอย่าจอดตากแดดตากฝน
ถ้าสภาพยังสวยเหมือนเดิม ราคารถจะไม่ตกไปกว่า 70,000 บาท ราคาจะอยู่ประมาณนี้ ตกไปกว่านี้ก็นิดหน่อย อยากเปลี่ยนรถตอนไหนก็ไม่ขาดทุนมาก แต่หากซ่อมใหญ่แล้วต้องใช้ยาวๆ ให้ได้เกิน 5 ปี จะได้มีเงินเก็บ
ทั้งหมดที่ว่ามานี้ ผู้เขียนได้ทดลองเองมาแล้ว ด้วยประสบการณ์ซื้อรถ ใช้รถทั้งหมด 11 คัน ตั้งแต่ป้ายแดงยันรถเก่าอายุเกิน 40 ปี ก็มี หรือซื้อซากรถมาทำ เล่นมาหลายแบบ บางคันเก่ามาก ปัจจุบันอายุเกิน 30 ปี มาทำใหม่แล้วก็ยังใช้งานได้อีกนาน
ส่วนคันนี้ปี 1996 เลขไมล์ขณะนี้เกิน 440,000 กม, แรงยังดี เครื่อง 1300 ความเร็วปลายยังได้ประมาณ 140 พาขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้สบาย กางเต็นท์รับลมหนาว
สำหรับรถเก่า ผู้เขียนอาจจะเน้นรถราคาไม่เกิน 100,000 บาท เน้น Honda City มากกว่ารุ่นอื่น เพราะใช้มาหลายรุ่น แต่ของ Toyota ก็มีรุ่นที่น่าเล่นก็คือ Vios ตัวนี้น่าจะประหยัดน้ำมันกว่า Honda City แน่นอน เป็นรุ่นที่อยากจะมีไว้ครอบครองสักครั้งเหมือนกัน ปัจจุบันปี 2024 ราคาก็ลดลง ราคาไม่ถึงแสนบาท สภาพสวยๆ ก็มีให้เลือก เหมาะสำหรับคนเริ่มต้นทำงาน งบน้อย ก็ใช้รถแบบนี้ไปก่อน แทนที่จะใช้รถใหม่ป้ายแดง จะได้มีเงินเหลือเก็บ