Sponsored Ads

หลังจากได้จ่ายเงินซื้อรถมือสองหรือจะเป็นรถป้ายแดงก็ตาม มีหลายอย่างที่มือใหม่เพิ่งมีรถคันแรก ต้องระวังเรื่องการใช้จ่าย เรื่องการเงิน ซึ่งมักจะผิดพลาดอยู่เสมอและพาให้ชีวิตต้องเดือดร้อนเรื่องเงิน เมื่อใช้รถไปสักพัก บางคนแม้จะเพิ่งผ่อนหรือซื้อรถมาได้ไม่กี่เดือน ก็เริ่มมีปัญหาการเงินขึ้นมาทันที เพราะมีรายจ่ายตามมามากกว่าที่คาดคิดเอาไว้

สิ่งที่ควรทำหลังจากได้รถยนต์มาแล้ว

เราไปดูกันก่อนว่ามีอะไรบ้างที่เราควรจะทำหลังจากได้รถยนต์มาเป็นกรรมสิทธิ์ของเราแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือสองหรือรถยนต์ใหม่ก็ตาม จากประสบการณ์ส่วนตัว อยากแนะนำให้ทำแบบนี้ โดยเฉพาะมือใหม่ที่เพิ่งมีรถคันแรก ยังตามไม่ทันกับรายจ่ายแฝงที่จะตาม มา เช่น

9. 

1. ระวังการใช้เงินในช่วงเดือนแรกให้ดี

สำหรับมือใหม่เพิ่งมีรถคันแรก ในเดือนแรกส่วนใหญ่มักจะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ได้รถใหม่อยากขับ อยากเที่ยว เมื่อครั้งที่ผู้เขียนออกรถคันแรก ใน 5 วันแรกก็เริ่มขับตะลอนในกรุงเทพ ทั้งๆ ที่ไม่มีใบขับขี่ วันที่ 12 ขับไปกลับ กรุงเทพ-บุรีรัมย์ ใบขับขี่ก็ยังไม่มีเช่นกัน ไปกลับเจ็ดร้อยกว่ากิโลเมตร

 

วันที่ 21 ของการมีรถขับ จังหวัดใกล้เคียงกรุงเทพฯ บางแสน พัทยา อยุธยา ปทุมธานี สระบุรี ไปหมดแล้ว รวมระยะทางสำหรับเดือนแรก เกิน 5000 กิโลเมตร รวมค่าน้ำมัน ค่าเครื่องดื่มเย็นๆ ค่าอาหาร ฯลฯ คิดเป็นเงินมากกว่าที่คำนวณแบบคิดสั้นเข้าข้างตัวเองก่อนจะมีรถใช้จริงๆ หลายเท่าตัว เข้าเดือนที่ 7 ก็ต้องขายรถเพราะเที่ยวหนักมาก การมีรถช่วยให้เดินทางสะดวก สมัยนั้นไม่มีกฏหมายเมาห้ามขับ ผับก็ไม่ปิดเที่ยงคืน จึงเที่ยวได้จนเช้า

 

กลายเป็นว่า การมีรถเดินทางสะดวก ยิ่งไปไกล ใช้เงินมากกว่าเดิม เพราะผู้เขียนเป็นผู้บันเทิง ไม่เข้าวัด เข้าแต่เธค ผับ ร้านอาหาร สถานที่อโคจร ดังนั้นในช่วงเดือนแรกต้องระวังให้ดี ถ้าเดือนแรกยังขาดวินัยการใช้รถ เงินไม่เหลือแน่นอน พากันเที่ยวหมด ต้องรีบหยุดอย่าให้เกิดความเคยชิน เพราะมักจะส่งผลระยะยาวให้เกิดปัญหาการเงิน หรือตัดสินใจขายรถไปเลย

 

2. ตรวจสอบค่าใช้จ่ายตามจริงจากการใช้งานรถในชีวิตจริง

ลองขับรถไปสักเดือนสองเดือน เพื่อตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงก่อน ว่ามากน้อยแค่ไหนจากที่เราได้คำนวณไว้ เช่น ระยะทางที่เราต้องขับรถไปทำงาน ตลอดจนการออกนอกเส้นทางในวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ไปทำธุระส่วนตัวหรือขับรถเที่ยว ให้เตรียมสมุดไว้บันทึกรายจ่ายอย่างละเอียด

 

ลองขับดูก่อนสักเดือนสองเดือน ก็จะน่าจะพอคำนวณค่าใช้จ่ายตามจริงได้ ซึ่งจะไม่เหมือนกับที่คำนวณในอากาศก่อนจะซื้อรถแน่นอน เพราะก่อนจะซื้อรถนั้นความอยากได้มันบังใจไปหมด เช่น ขับรถไปกลับบ้านที่ทำงานระยะทางรวม 30 กิโลเมตร รถกินน้ำมันประมาณ 15 กิโลลิตร สมมุติว่าเติมโซฮอลล์ 95 ลิตรละ 28 บาท ก็ตกกิโลเมตรละ 1.8 บาทหรือประมาณวันละ 27 บาท

 

ในหนึ่งเดือนถ้าทำงาน 22 วัน จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 27 x 22 = 594 เวลาคำนวณค่า ใช้จ่ายนั้นเราจะคำนวณกันแบบคิดสั้นแบบนี้แหละ พอเอาเข้าจริง ใช้งานจริงๆ จะออกนอกเส้นทางเสมอ และเวลาเติมน้ำมัน เราจะไม่เติมแค่ 600 จะต้องเติม เผื่อไว้ ซึ่งอาจจะเต็มถังหรือ 1000 บาท วันเสาร์อาทิตย์จะเป็นวันปาร์ตี้ วันนัดพบเพื่อน หรือการเที่ยวต่างจังหวัดใกล้ๆ อย่างน้อยก็ต้องไปเดินห้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายจะพอๆ กันหรือมากกว่าการขับรถไปทำงานเสียอีก

 

3. คำนวณรายจ่ายแฝงที่ตามมาทั้งหมดจากการใช้งานจริง

หลังจากได้ใช้รถไปประมาณ 1-2 เดือน เชื่อว่ามือใหม่เพิ่งมีรถคันแรกทั้ง หลายก็น่าจะเริ่มมองออกแล้วว่า รายจ่ายที่จะเกิดขึ้นกับการมีรถยนต์ หนึ่งคันนั้น มันไม่ธรรมดาอย่างที่คิด เพราะเชื่อเหลือเกินว่าค่าน้ำมันนั้น มันจะบานปลายไปจากที่คิดไว้หลายเท่าตัวและยังมีรายจ่ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย

 

นอกเหนือ ไปจากค่าน้ำมันไปกลับบ้าน-ที่ทำงาน โดยเฉพาะค่าอาหาร เครื่องดื่มเย็นๆ ปาร์ตี้ การเดินทางไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆ การพารถเที่ยว การพาครอบ ครัวไปทำธุระ รับส่งแฟน ฯลฯ จากปกติเสาร์อาทิตย์อยู่ติดบ้าน คราวนี้กลาย เป็นว่าพากันเที่ยว ทั้งค่าน้ำมัน ค่ากิน จะไม่น้อยเลยทีเดียว

 

คำแนะนำต่อจากนี้ก็คือ ให้คำนวณรายจ่ายแฝงอื่นๆ ที่จะตามมาทั้งหมดเช่น ค่าประกันต่อปี ค่าซ่อมบำรุง ปาร์ตี้ ออกนอกเส้นทาง ฯลฯ นำมารวมกันให้หมด แล้วคิดคำนวณใหม่ เพื่อหาตัวเลขที่แท้จริง ว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่ เพราะจะเริ่มเห็นแล้วว่า มันไม่ใช่อย่างที่คิด คราวนี้จะคำนวณได้ตรงมากยิ่งขึ้น และหากมีพฤติกรรมขับรถนอกเส้นทาง ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ทุกอาทิตย์ ไม่นาน จบครับ ต้องขายรถทิ้งแน่นอน เงินหมด 100%

 

4. ซื้อรถมือสองแบบเงินผ่อน ต้องมีวินัยการเงินอย่างมาก

สำหรับท่านใดที่ซื้อรถมือสองแบบเงินผ่อน จะต้องตั้งวินัยการเงินอย่างเข้ม งวด ไม่เช่นนั้นอาจจะพาชีวิตเดือดร้อนอย่างแน่นอน เพราะมีรายจ่ายผูกพันรออยู่ อย่างการต่อภาษี พ.ร.บ. ประกันภัยจะยังมาไม่ถึง อาจจะเกิดความประมาท ใช้เงินไม่คิดหน้าคิดหลัง

 

5.ก ารซ่อมบำรุงต้องเล่นชุดใหญ่ อย่าขับไปซ่อมไป

ในการซ่อมบำรุงนั้น ต้องซ่อมเป็นชุดๆ สำหรับผมจะซ่อมทั้งหมดรวดเดียวเลย เพราะเคยขับไปซ่อมไป แล้วไม่จบ ซ่อมตรงนั้น เป็นตรงนี้ ซ่อมตรงนี้เป็นตรงนู้น ซ่อมทุกเดือน หาเรื่องออกจากบ้านทุกเดือน หากมีงบมากพอก็จัดการทั้งหมดในคราวเดียว ไม่เสียเวลา เสียค่าน้ำมันซ้ำซาก

 

6.หากเริ่มมีพฤติกรรมใช้จ่ายมากควรตัดใจขายรถ

การมีรถสำหรับคนชอบเที่ยว ชอบดื่ม ชอบกิน หรือชอบเล่นการพนันด้วยแล้ว จะไม่เป็นผลดี เพราะจะสามารถพากันไปได้ไกลกว่าเดิม สะดวกกว่าเดิม และใช้เงินมากกว่าเดิม หากพบว่าได้เกิดพฤติกรรมใช้เงินเก่งมากขึ้น ควรตัด สินใจหยุดใช้รถทันที ขายทิ้งไปเลย เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดกับบางคนเท่านั้น อย่างผู้เขียนเป็นขาเที่ยวตัวยง มีรถไม่ได้เลย ชีวิตพัง

 

7.ดูแลรถมือสองให้อยู่ในสภาพดี

รถมือสองที่อยู่ในสภาพดี ราคาก็ไม่ตก ขายต่อง่าย ดังนั้นจึงควรดูแลรถให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ หากมีปัญหาการเงิน เพราะเอาไม่อยู่ เนื่องจากมีรถแล้วมีรายจ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก การตัดสินใจขายก็ง่าย รถไม่มีปัญหาปล่อยไม่ยาก


เอาแค่นี้ก็พอแล้วครับ สำหรับสิ่งที่ควรทำ เพราะแค่นี้ก็จะช่วยให้เราคำนวณได้แล้วว่าการมีรถหนึ่งคันนั้น จะมีรายจ่ายอะไรตามมาบ้าง และพอจะมองอนาคตของตัวเองออกเช่นกัน หากใช้รถต่อไป จะมีเงินเหลือเก็บหรือไม่

 

หากคิดว่าไม่มีเหลือเก็บแน่นอน หลังจากคำนวณค่าใช้จ่ายตามจริงในแต่ละเดือนได้แล้ว มันบานปลายไปจากที่คิดไว้มาก ก็จงตัดสินใจขายรถไปเลย อย่าดันทุรังใช้ต่อไป จะเจ็บตัวเปล่าๆ หากซื้อเงินสดก็ไม่เป็นไร ขายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากซื้อเงินผ่อนอันตรายครับ ส่งสัญญาณไม่ดีแล้ว ต้องรีบทำอะไรสักอย่างแล้ว เช่น ศึกษาการขายรถติดไฟแนนซ์ ต้องทำอย่างไร ศึกษาราคารถที่ตกลง และหากไม่มั่นใจว่าจะเอาตัวรอดได้หรือไม่ ก็ควรตัดสินใจขายรถไปเลย เพราะรถติดไฟแนนซ์ หากมีปัญหาการเงินจะแก้ปัญหายากมาก เพราะเป็นหนี้ผูกพันระยะยาว มีผู้เกี่ยวข้องหลายคน

 

8.สิ่งที่ไม่ควรทำ มีอะไรบ้างและสำคัญแค่ไหน

สำหรับมือใหม่มีรถมือสองคันแรกหรือจะเป็นรถป้ายแดงก็ตาม นี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำ เมื่อได้รถมาแล้ว ในช่วงเดือนแรกๆ เช่น

 

 

9. อย่าสร้างหนี้เพิ่มจนกว่าจะแน่ใจว่าคุมค่าใช้จ่ายเรื่องรถได้

การมีรถจะมีค่าใช้จ่ายทั้งตามจริงและรายจ่ายแฝงที่มองไม่เห็นตามมาอีกมาก ดังนั้นอย่าเพิ่งไปสร้างหนี้เพิ่มด้วยการผ่อนมือถือ ผ่อนเมีย ผ่อนมือถือให้เมีย ผ่อนสารพัด เพราะอุปกรณ์บางอย่างมีรายจ่ายแฝงตามมาเช่นกัน เช่น มือถือสมาร์ทโฟนหรูๆ อย่าง iPhone นอกจากแพงแล้วก็จำเป็นต้องใช้ Sim net หากต้องการเชื่อมต่อเน็ตตลอดเวลา หลายคนตามไม่ทันรายจ่ายแฝง ก็มีแต่เจ็บตัว

 

10. อย่าเพิ่งมีกิ๊ก...แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรถ

หากเจ้าของรถเป็นผู้ชาย การมีรถสวยๆ สักคัน ไม่ช้าไม่นานก็จะมีสาวๆ น่ารักบ้าง ไม่น่ารักบ้าง มานั่งเบาะหน้าเคียงข้างเป็นเพื่อนเดินทาง อาจจะแค่คนเดียวหรือหลายคน หากเจ้าของรถเป็นผู้หญิงก็อาจจะมีพนักงานขับรถชายหน้าตาดีบ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องยับยั้งชั่งใจไว้ก่อน การมีรถหนึ่งคันค่า ใช้จ่ายก็หนักพอแล้ว แต่การมีกิ๊กคนเดียวหรือหลายคน ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยเหมือนกัน

 

ความน่ากลัวก็คือ มันเป็นรายจ่ายแฝงที่ลดยากที่สุด แต่เพิ่มอยู่ตลอดเวลาตามระดับความใกล้ชิดและจำนวน เพราะเป็นรายจ่ายแฝงที่มีชีวิต พูดได้ คุยได้ อ้อนได้ ขอนู่นขอนี่ได้

 

ควรดูรายจ่ายแฝงก่อน ว่าเอาอยู่หรือไม่ ถ้าเอาอยู่จะมีสักกี่คนก็ตามสบายเลย ผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย จึงเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ที่ต้องดูแล เหนื่อยไม่น้อยเลยนะกับการต้องดูแลรับส่งผู้หญิงหลายคน ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน สับเกียร์แทบไม่ทัน ตอนนี้มีรถแล้วก็น่าจะช่วยให้ทำหน้าที่นี้ได้ดียิ่งขึ้น รายจ่ายก็เยอะขึ้นตามระดับความสัมพันธ์ แค่พี่น้อง เพื่อนสนิท คนพิเศษ แฟนหรือทาสรักใช้

 

11. อย่าดันทุรังใช้รถต่อ หากพบว่ารายจ่ายสูงมาก น่าจะเอาไม่อยู่

หลังจากใช้รถไปสักพัก จนคำนวณรายจ่ายแฝงและรายจ่ายจริงได้แล้ว หากเกินกำลัง ได้เงินมา พากันเที่ยว พากันใช้จนเงินหมด ไม่มีเงินเก็บแน่นอน ก็จงปล่อยรถไปเลย อย่าได้เสียดาย โดยเฉพาะท่านใดที่เป็นนักดื่ม นักเที่ยว นักเล่น เป็นผู้บันเทิงทั้งหลาย ซึ่งความมีระเบียบวินัยในชีวิตจะน้อยกว่าคนปกติ ยิ่งต้องรีบปล่อยๆ ไปเสีย ก่อนจะเจ็บตัว ยกเว้นซื้อเงินสด

 

ตัวผู้เขียนเองจัดอยู่ในกลุ่มผู้บันเทิง จึงไม่ซื้อรถเงินผ่อนเด็ดขาด รู้ตัวอยู่แล้วว่าไม่รอดแน่นอน ผ่อนไป 3 คันแล้วไม่รอด ต้องขายดาวน์ทั้ง 3 คัน เพราะเที่ยวหนักมาก บางคันกว่าจะขายได้ ทำเอาคนใกล้ตัวเดือดร้อนกันไปหมด

 

12. ห้ามคนที่ไม่มีวุติภาวะ คึกคะนอง มือใหม่หัดขับมายุ่งกับรถ

เมื่อได้รถมาแล้ว เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องอาจจะยืมรถไปใช้งาน มีไม่น้อยเลยที่เอารถไปพัง บางคันไม่มีประกัน ก็ขายซากตามสภาพไป กรณีเป็นญาติกัน ก็น้อยคนอีกนั่นแหละที่จะรับผิดชอบ รถยนต์ราคาหลักแสนหรือหลักล้านบาทเมื่อกลายเป็นซากก็อาจจะเหลือหลักหมื่นบาทเท่านั้น หากคู่กรณีเป็นต้นไม้ ก็ไม่เป็นไร รถพังก็ขายซากไป แต่หากเป็นเสาไฟฟ้า ทรัพย์สินราชการหรือของชาวบ้านหรือเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน ค่าใช้จ่ายจะตามมาอีกบานเบอะ เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญมาก

 

กรณีศึกษาครับ คันนี้ของผมเอง ซื้อมาและทำนู่นทำนี่หมดไป 11x,000 บาท ใช้ไม่ถึง 3 เดือน พาน้องแอลก์ขับรถเล่นเพลินไปหน่อย หลับในชนต้นไม้ ขายซากไป 15,000.- บาท โชคดีไม่เคยชนคน ล่าสุดเฉี่ยวกับสิบล้อ เป็นแผลยาวตั้งแต่ไฟหน้าจรดไฟท้าย ก็ดีว่าต่างคนต่างหนี รอดกันไป ตอนนี้ขายไปหมดแล้ว กลัวชีวิตจะไม่เหลือ

 

12. ห้ามแต่งรถผิดไปจากมาตรฐาน เน้นเดิมๆ ไว้ก่อน

ห้ามซ่อมห้ามแต่งรถเกินความจำเป็น พยายามคงสภาพมาตฐานเดิมๆ จากโรงงานไว้ก่อน เพื่อดูว่า รายจ่ายต่างๆ ที่เกิดจากการมีรถนั้น มากน้อยเพียง ใด คำนวณรายจ่ายแฝงที่มากับรถให้ละเอียดเสียก่อน


บางคนได้รถมาแล้ว ก็จะกระหน่ำแต่งแม็กแต่งช่วงล่าง แต่งเครื่องเสียง สมมุติว่า มีเงินเก็บอยู่ 200,000 บาท ซื้อรถมา 150,000 บาท แต่งแม็ก แต่งเครื่องเสียง แต่งภายใน ฯลฯ เงิน 200,000 บาท ใช้จนหมดเกลี้ยง นี่คือสิ่งที่ไม่ควรทำสำหรับผู้มีรถครั้งแรกและคันแรก 

เพราะเมื่อมีรถแล้ว อาจจะมีรายจ่ายแฝง ราย จ่ายที่คาดไม่ถึงตามมามาก จนอาจเกิดปัญหาการเงินได้ทันที ดังนั้นควรสำรองเงินไว้ก่อน เพื่อดูรายจ่ายที่เกิดขึ้นจริงก่อน เผื่อเงินไว้ใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ