จริงๆ แล้วโปรแกรมนี้มีสูตรให้ใช้อยู่มากเหมือนกัน แต่ในการทำงานจริงก็ไม่ค่อยจะได้ใช้กัน สักเท่าไรนัก ก็คงจะมีเพียงไม่กี่สูตร เท่านั้นที่จะได้ใช้กันบ่อยๆ ดังนี้
=SUM(ขอบเขตของข้อมูลจาก:ถึง)
คำนวณหายอดรวมของข้อมูลจากขอบเขตที่กำหนด
=AVERAGE(ขอบเขตของข้อมูลจาก:ถึง)
คำนวณหาค่าเฉลี่ยของข้อมูลจากขอบเขตที่กำหนด
=MIN(ขอบเขตของข้อมูลจาก:ถึง)
คำนวณหาค่าต่ำสุดหรือน้อยสุดของข้อมูลจากขอบเขตที่กำหนด
=MAX(ขอบเขตของข้อมูลจาก:ถึง)
คำนวณหาค่าสูงสุดหรือมากสุดของข้อมูลจากขอบเขตที่กำหนด
=COUNT(ขอบเขตของข้อมูลจาก:ถึง)
นับจำนวนข้อมูลจากขอบเขตที่กำหนด ว่ามีทั้งหมดเท่าไร โดยจะนับข้อมูลที่เป็นตัวเลข
=COUNTA(ขอบเขตของข้อมูลจาก:ถึง)
นับจำนวนข้อมูลจากขอบเขตที่กำหนด ว่ามีเท่าไร โดยนับข้อมูลที่เป็นข้อความ เช่น นับจำนวนพนักงานจากรายชื่อที่มีอยู่
=COUNTIF(ข้อมูลในเซลล์...ถึงเซลล์;”เงื่อนไขที่ต้องการนับ”)
คำนวณหาจำนวนข้อมูล ในเซลล์ที่กำหนด ว่าในเงื่อนไขที่ต้องการนับนั้นมีเท่าไร เช่น นับจำนวนคนที่ได้เฉพาะเกรด A มีเท่าไร หรือนับคะแนนที่ได้มากกว่า 70 ว่ามีกี่คน
ตัวอย่างการพิมพ์สูตร =COUNTIF(G5:G14;”A”) หรือ =COUNTIF(F5:F14;”>70”)
=SUMIF(ข้อมูลในเซลล์...ถึงเซลล์;”เงื่อนไข”)
คำนวณหาผลรวมของข้อมูล ตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น
เงื่อนไข : คนที่ได้คะแนนตั้งแต่ 80 ขึ้นไป มีคะแนนรวมกันเท่าไร
=SUMIF(F5:F14;”>=80”) ความหมาย ให้รวมตัวเลขในเซลล์ F5 ถึง F14 โดยนำเฉพาะ ตัวเลขที่มีค่า 80 ขึ้นไป มารวม เพื่อหาค่า ว่าเท่ากับเท่าใด
จากตัวอย่างดังต่อไปนี้ จะเป็นการสรุปเกี่ยวกับยอดขายคอมพิวเตอร์ระหว่างปี 2543-2545
1. ให้ป้อนข้อมูลตามตัวอย่าง เซลล์ E7-E12 และ L7-L12 ไม่ต้องพิมพ์ข้อมูลใดๆ
2. เมื่อป้อนข้อมูลเสร็จแล้ว ในเซลล์ E7 การหาผลรวมยอดขายทั้งหมดให้พิมพ์สูตรดังนี้ =SUM(B3:M5) สำหรับขอบเขตของ ข้อมูลก็คือ B3:M5
3. ในเซลล์อื่นๆ ก็พิมพ์สูตรดังนี้
ในเซลล์ E8 พิมพ์ =SUM(B3:M3)
ในเซลล์ E9 พิมพ์ =SUM(B4:M4)
ในเซลล์ E10 พิมพ์ =SUM(B5:M5)
ในเซลล์ E11 พิมพ์ =MAX(B3:M5)
ในเซลล์ E12 พิมพ์ =MIN(B3:M5)
ในเซลล์ L7 พิมพ์ =AVERAGE(B3:M5)
ในเซลล์ L8 พิมพ์ =AVERAGE(B3:M3)
ในเซลล์ L9 พิมพ์ =AVERAGE(B4:M4)
ในเซลล์ L10 พิมพ์ =AVERAGE(B5:M5)
ในเซลล์ L11 พิมพ์ =COUNT(B3:M5)
ในเซลล์ L12 พิมพ์ =COUNTA(B6:I6)