Sponsored Ads


ในการคำนวณลักษณะนี้ก็จะคล้ายๆ กันกับ การคำนวณเบี้ยเลี้ยงและค่าคอมฯ จะเป็นการรวม คะแนนการสอบ 4 ช่วง จากนั้นก็นำมาคิดเกรด โดยมีเกณฑ์การคิด เกรด ดังนี้
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 80 ขึ้นไป จะให้เกรด A
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 70 ขึ้นไป จะให้เกรด B
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 60 ขึ้นไป จะให้เกรด C
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 50 ขึ้นไป จะให้เกรด D
- ถ้าทำคะแนน น้อยกว่า 50 จะให้เกรด F (สอบตก)
1. ให้ป้อนข้อมูลตามตัวอย่าง ในเซลล์ F5 - F14 รวมคะแนน และ G5-G14 ไม่ต้องพิมพ์ เพราะเป็นส่วนที่ต้องพิมพ์สูตรลงไป เพื่อ หาคำตอบ

2. การคำนวณในเซลล์ F5 เป็นการรวมคะแนนสอบทั้ง 4 ช่วง สอบครั้งที่ 1, 2 และ 3 และคะแนนจิตพิสัย ก็คือ =B5+C5+D5+E5 แล้วก็ก็อปปี้ลงด้านล่างให้ เรียบร้อย

 

 

 

3. ในเซลล์ G5 คำนวณโดยใช้สูตร If
การคำนวณจะมีอยู่ 5 เงื่อนไข
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 80 ขึ้นไป (F5>=80) จะให้เกรด A (“A”)
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 70 ขึ้นไป (F5>=70) จะให้เกรด B (“B”)
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 60 ขึ้นไป (F5>=60) จะให้เกรด C (“C”)
- ถ้าทำคะแนน ได้ตั้งแต่ 50 ขึ้นไป (F5>=50) จะให้เกรด D (“D”)
- ถ้าทำคะแนน น้อยกว่า 50 (F5<\<>50) จะให้เกรด F (“F”) (สอบตก)
จากประโยคข้อความ เราจะมาตีความให้เป็นประโยคทางคณิตศาสตร์ ก็จะได้ดังนี้
if(F5>=80;”A”
if(F5>=70;”B”
if(F5>=60;”C”
if(F5>=50;”D”
if(F5<\<>50;”F”
จากนั้นก็นำสูตรทั้งหมดมารวมเข้าด้วยกัน ในแต่ละเงื่อนไขให้คั่นด้วยคอมม่า วงเล็บปิด ด้านท้ายต้องสัมพันธ์กับวงเล็บเปิดด้านหน้า เช่น เปิด 5 ก็ต้องปิด 5 แล้ว กด Enter เสร็จแล้วก็ ก็อปปี้ไปจนถึงเซลล์ F14
=if(F5>=80;”A”;if(F5>=70;”B”;if(F5>=60;”C”;if(F5>=50;”D”;if(F5<\<>50;”F”)))))

 

 

ในการใช้สูตร IF หากเงื่อนไขใดเป็นข้อความ เช่น if(F5=80;”A” คะแนน 80 ขึ้นไปให้เกรด A ตัว A ต้องคร่อมด้วยเครื่องหมายคำพูด

<@Subhead 2 not in content:>ตัวอย่างเพิ่มเติม
if(F5>=70;”ผ่าน” ได้คะแนน 70 ขึ้นไป ให้ผ่านวิชานั้นๆ
ส่วนข้อมูลที่เป็นตัวเลขไม่ต้องคร่อมด้วยเครื่องหมายคำพูด เช่น
if(C3=”ตจว”;3000 อยู่ต่างจังหวัดได้เบี้ยเลี้ยง 3000 บาท จำนวน 3000 ไม่ต้องคร่อมด้วย เครื่องหมายคำพูด