ทุกคนต้องทำงาน เพื่อหาเงินไว้เป็นค่าใช้จ่าย เพราะเงินเป็นปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลย ไม่มีเงินก็ไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะต้องใช้เพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของ อาหาร ที่อยู่อาศัย พาหนะ อุปกรณ์สื่อสาร หรือปัจจัยอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ความรู้เรื่องเงิน การใช้เงิน และบริหารเงิน จึงมีความสำคัญที่คนทำงานจะต้องรู้พร้อมลงมือปฏิบัติ ทำได้ดี ชีวิตก็มีแต่ความสุข ไร้ปัญหาการเงิน
การหาเงิน การทำงานแบบต่างๆ
การหาเงินไม่มีอะไรซับซ้อน อยากมีเงินก็ต้องทำงาน แต่งานที่ทำแล้วได้เงินนั้นมีหลายแบบ ควรวางแผนไว้หลายๆ แบบ เดินไปพร้อมกันหลายทาง เช่น
1. วางแผนทำงานที่ต้องทำทุกวันจึงจะได้เงิน งานแบบนี้ ก็เป็นงานหลักของคนส่วนใหญ่ ไม่ทำก็ไม่มีเงินใช้ งานแบบนี้อาจจะได้เป็นจำนวนเงินเท่าๆ กันทุกเดือน
2. วางแผนทำงานที่ไม่ต้องทำทุกวันแต่มีรายได้เกิดขึ้น อาจจะไม่ทุกเดือน แต่ได้เป็นก้อนใหญ่ เช่น
- ทุนน้อย อาจทำงานฝีมือ งานประดิษฐ์ งานศิลปะ ผลิตสินค้าจำนวนมากไว้รอขายส่งทีเดียว อาจจะใช้เวลาว่างจากงานประจำ
- ทุนน้อยมากๆ หลักร้อยหลักพันก็มีงานรองรับ เช่น การเป็นนักเขียนอาชีพนักเขียน ไม่มีทุนก็เขียนบทความตุนไว้เยอะๆ รอขาย ปีหนึ่งเขียนไปเถอะ ให้ได้สัก 5,000 บทความ ไว้ขายบทความละ 20 บาท การหาเงิน 20 x 5,000 = 100,000 บาท
- บางคนก็ปลูกไม้ดอก ไม้ประดับ ไม้ผล ไว้จำนวนมาก รอขายเมื่อถึงเวลา ขายแต่ละครั้งหลักพันต้น
- หากมีทุน อาจจะผลิตสินค้าจำนวนมาก หรือซื้อมาขายไป บางคนเน้นซื้อของจำนวนมากจากโรงงานมาปล่อยขายปลีกได้เงินเป็นก้อนใหญ่
*. วิธีหาเงินมีหลายแบบ ไม่ใช่การทำงานเป็นพนักงาน มนุษย์เงินเดือนเพียงอย่างเดียว หรือกรณีมีงานประจำอยู่แล้ว ก็มีงานอื่นรองรับมากมายเช่นกัน *
สินค้าที่ผลิตครั้งเดียว แต่ทำรายได้ไปอีกนาน
กรณีที่ผลิตสินค้าเป็นของตนเอง ก็มีสินค้าบางประเภทที่ใช้การผลิตครั้งเดียว แต่กินยาวววว เช่น
1. บางคนแต่งเพลงเพราะๆ อัพโหลด Youtube ให้ฟังสบายๆ เช่น ILLSLICK หรือวิดีโอสอนเล่นกีตาร์แบบนี้ ถือเป็นสินค้าประเภทหนึ่ง ผลิตครั้งเดียว รับรายได้จากป้ายโฆษณา Adsense ไม่ต้องดูแล ไม่มีค่าไฟ ค่าน้ำ อัพโหลดครั้งเดียว จบ กินยาวววว
2. การทำบทความลงในเว็บไซต์ที่หาเงินกับโฆษณา Adsense ก็เช่นกัน ทำครั้งเดียวกินยาว เช่นกัน แต่ปัจจุบันอาจจะได้ไม่นานเหมือนเมื่อก่อน คล้ายกับวิดีโอ ไม่ต้องดูแล อัพโหลดเข้าเว็บไซต์ แล้วก็ไม่ต้องทำอะไร
สินค้าที่ใช้ระบบการหาเงินแบบอัตโนมัติแบบนี้ยังมีอีกมาก ไอเดียหาเงินมีอีกมากมาย ติดตามอ่านได้ในบทความ รวมไอเดียหาเงิน แนะนำวิธีหาเงินแบบต่างๆ คลิกเล้ยยย
การใช้เงิน
เมื่อมีเงินในมือแล้ว คนส่วนใหญ่ก็จะคิดแต่วิธีใช้เงิน จะซื้อสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะคนส่วนใหญ่มองว่า เงินเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความสุข แต่จริงๆ แล้วเงินเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างความทุกข์มากกว่า ใช้เงินมาก ก็ทุกข์มาก เพราะเกิดการเสพติดสิ่งที่เคยใช้เงินซื้อเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง
การใช้เงินเพื่อปัจจัยพื้นฐานของคนเราจริงๆ แล้ว จะใช้เงินไม่มากนัก เมื่อเทียบกับการใช้เงินในเรื่องที่ไร้ประโยชน์ หรือใช้ฟุ่มเฟือย แต่สิ่งสำคัญที่จะต้องรู้ก็คือ ต้นทุนจริงๆ ของสิ่งที่เราจำเป็นจะต้องใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค เช่น
1. การใช้เงินในสิ่งที่จำเป็น อาหารการกิน เสื้อผ้า ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย หากใช้ในสิ่งที่จำเป็นแล้ว เราจะพบว่า เงินส่วนนี้ไม่มากเลย สิ่งสำคัญก็คือต้นทุนที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น
- การทำข้าวไข่เจียวหมูสับทานเอง ต้นทุนไม่เกิน 15 บาท
- การสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับในร้านอาหารตามสั่ง จานละ 30 บาท
- การสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับในร้านอาหารจานละ 60 บาท
- การสั่งข้าวไข่เจียวหมูสับในร้านอาหารหรูๆ จานละ 100 บาท
2. สิ่งที่เราจำเป็นจะต้องใช้มีอีกหลายอย่าง แต่หากพิจาณาด้วยหลักการเดียวกันแล้ว ก็จะพบว่า แต่ละอย่างมีต้นทุนไม่มาก เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะจะช่วยประหยัดเงิน รู้ต้นทุนจริงของสินค้า และรู้วิธีใช้เงินอย่างคุ้มค่า บางคนมีเงิน 500 บาท สามารถอยู่ได้ทั้งเดือน แต่บางคน วันเดียว ไม่พอใช้
3. สินค้าต่างๆ ไม่เพียงสินค้าที่มีราคาถูก แต่สินค้าราคาแพง ก็จะมีคุณภาพสูงตามไปด้วยเช่นกัน อย่างเสื้อผ้า กางเกง บางชุดใส่กันเป็นสิบปี แม้จะแพงแต่ก็มีความทนทาน ต่างจากสินค้าราคาถูกต้องซื้อบ่อยๆ สรุปแล้วก็จะเสียเงินมากกว่า
4. การใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จะเป็นเงินที่เราใช้กันมากที่สุด เช่น เปลี่ยนมือถือบ่อยๆ เปลี่ยนรถบ่อย เปลี่ยนแฟนบ่อย ฯลฯ ยิ่งของชิ้นใหญ่ หรือของมีชีวิต คิดเองเป็น ก็ยิ่งมีค่าใช้จ่ายตามมามาก
สิ่งที่ยากที่สุดในการใช้เงินก็คือ การควบคุมการใช้เงินเฉพาะในสิ่งที่จำเป็น การใช้เงินให้เป็น รู้จักใช้เงิน เรื่องนี้สำคัญมาก ไม่เช่นนั้น หาได้เท่าไรก็ไม่พอใช้
การบริหารเงิน
หลังจากทำงานหาเงินมาได้แล้ว ก็ต้องใช้เงินเพื่อปัจจัยพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิต และเมื่อมีเงินเก็บก็ต้องรู้วิธีการนำเงินไปบริหารแบบต่างๆ เช่น ฝากธนาคาร ซื้อหุ้น ซื้อสินค้ามาขาย ผลิตสินค้าขายเอง ซื้อบ้าน ซื้อที่ดิน ฯลฯ ซึ่งจะต้องศึกษาและเลือกรูปแบบการบริหารเงินที่เหมาะสมกับตัวเอง เรื่องนี้จำเป็นจะต้องทำ เพราะการนำเงินไปบริหารหรือลงทุนแบบนี้ มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่อาจจะมากกว่าเงินเดือน และเมื่อถึงเวลานั้น ก็เตรียมตัวลาออกเกษียณก่อนกำหนดได้เลย
การหาเงิน ใช้เงิน และบริหารเงิน ทั้ง 3 เรื่องนี้ล้วนเป็นเรื่องยาก ทุกคนก็อยากจะหาเงินให้ได้มากๆ แต่ก็ทำไม่ได้ ได้เท่าที่กำลังความสามารถของตนเอง และเมื่อมีเงินแล้ว ทุกคนก็อยากจะใช้น้อยๆ ประหยัด เพื่อให้มีเงินเก็บ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ส่วนการนำเงินไปบริหาร น้อยคนจะทำเช่นกัน กลัวเงินหมด กลัวไม่พอใช้
คนส่วนใหญ่จะคิดถึงเรื่องการใช้เงินมากกว่า การหาเงิน ส่วนการบริหารเงินนั้น มักจะถูกตัดตอนทิ้งไปเสมอ หากใครสามารถทำได้ ชีวิตนี้จะอยู่อย่างมีความสุข อาจจะไม่มาก แต่อย่างน้อยก็ไม่ลำบากอย่างแน่นอน