Sponsored Ads

ภาษาอังกฤษจะแยกคำนามต่างๆ เป็นแบบเอกพจน์และพหูพจน์ การแปลงคำนามระหว่างคำทั้งสองประเภทนี้จะช่วยให้การเรียบเรียงประโยคเพื่อพูดหรือเขียน ทำใหอย่างถูกต้องกับคำกริยาที่จะต้องใช้

 

คำนามภาษาอังกฤษเช่น เด็กชาย (boy/บอย), เด็กหญิง (girl/เกิร์ล), แมว (cat/แคท) ฯลฯ จะมีการแบ่งคำเหล่านี้เป็นคำนามแบบเอกพจน์และพหูพจน์ ซึ่งจะใช้กับคำกริยาที่ต่างกัน จึงต้องรู้วิธีแปลงคำสองชนิดนี้ให้ถูกต้อง
คำนามเอกพจน์ใช้กับคำกริยาแบบเอกพจน์
Girl likes beaty
เกิร์ล ไลค์ บิวตี้
เด็กผู้หญิงชอบความสวยงาม ของสวยงาม คำว่า ชอบ หรือ like จะต้องเติม s เพราะคำว่า Girl เป็นคำนามเอกพจน์

The most of boys like football.
เดอะ โมสทฺ ออฟ บอยสฺ ไลค์ ฟุตบอล
เด็กผู้ชายส่วนมากชอบฟุตบอล คำว่า ชอบ หรือ like จะไม่เติม s เพราะคำว่า boys ซึ่งหมายถึงเด็กชายหลายคน เป็นคำนามพหูพจน์

จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการเรียบเรียงประโยคเพื่อพูดนั้น จะมีคำที่มีความหมายถึงจำนวนที่มากกว่าหนึ่ง ซึ่งเราจะต้องใช้กับคำกริยาพหูพจน์ให้ถูกต้องเช่นเดียวกัน

 

ตัวอย่างการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์

วิธีเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีหลายแบบและต้องจำให้ได้ ซึ่งมีหลายวิธีเช่น

 

เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการเปลี่ยนรูป

วิธีนี้จะเป็นการเปลี่ยนรูปคำไปเลย เช่น
ชายคนหนึ่ง a man(แมน) เปลี่ยนเป็น ชายหลายคน men (เมน)
หญิงคนหนึ่ง a woman (อะ วูแมน) เปลี่ยนเป็น หญิงหลายคน women(วูเมน)

 

เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการเติม s

วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการเติม s ทำให้ได้ง่ายที่ ส่วนใหญ่จะใช้วิธีนี้ เช่น
a cat (อะ แคท) แมวหนึ่งตัว cats(แคทสฺ) แมวหลายตัว
a cat (อะ แคท) แมวหนึ่งตัว five cats (ไฟว์ แคทสื่อออออ ) แมวห้าตัว
a book (อะบุ้ก) หนังสือหนึ่งเล่ม books (บุ้กสฺ) หนังสือหลายเล่ม
a book (อะบุ้ก) หนังสือหนึ่งเล่ม two books (ทูบุ้ก) หนังสือสองเล่ม

คำนามส่วนใหญ่จะใช้วิธีเติม s เพื่อเปลี่ยนเป็นคำพหูพจน์ เมื่อเติมตัว s เวลาอ่านต้องออกเสียง ตัว เอสส ด้วย เช่น cats แคทสื่ออออ คำนามเอกพจน์ และกริยาเอกพจน์ a cat และ chases
a cat chases a mouse
อะ แคท เชส อะ เมาส์
แมวตัวหนึ่งไล่หนู

คำนามพหูพจน์และกริยาพหูพจน์ Five cats และ chase
Five cats chase a mouse
ไฟว์ แคทสฺ เชส อะ เมาส์
แมวห้าตัวไล่หนู
(อะ แคท) แมวหนึ่งตัว cats(แคทสฺ) แมวหลายตัว

 

เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการเติม es

คำนามเอกพจน์ลงท้ายด้วย s, ss, sh, ch, x และ z ให้เติม es

คำนามบางคำ การเปลี่ยนให้เป็นพหูจน์จะใช้การเติม es โดยจะเป็นคำนามที่ลงด้วยด้วยตัวอักษร s, ss, sh, ch, x และ z เช่น
bus (บัส) รถบัส buses (บัสเสซ) รถบัสหลายคันมากกว่าหนึ่งคัน
class (คลาสส) ห้องเรียน classes (คลาสเสซ) ห้องเรียนหลายห้อง
dish (ดิช) จาน dishes(ดิสเชส) จานหลายใบ
switch (สวิทชฺ) สวิทซ์ไฟ switches (สวิทเชส) สวิทซ์หลายตัว
fox(ฟอกซ์) หมาป่า foxes (ฟอกเซส) หมาป่าหลายตัว
fizz (ฟิซซฺ) ฟองแก๊สในของเหลว fizzes (ฟิซเสซ) ฟองแก๊สในของเหลวจำนวนมาก

 

คำนามเอกพจน์ลงท้ายด้วย o หน้า o เป็นพยัญชนะ เติม es

สำหรับคำนามเอกพจน์บางคำที่ลงท้ายด้วยตัวโอ o และหน้าตัว o เป็นพยัญชนะ ให้เติม es เพื่อทำให้เป็นคำนามพหูพจน์ เช่น a buffalo (อะ บัฟฟาโล่) ควายหนึ่งตัว buffaloes (บัฟฟาโลสฺ) ควายหลายตัว คำนี้ ลงท้ายด้วยตัวโอ o และหน้าตัวโอ เป็นพยัญชนะ ก็คือตัวแอล l จะต้องเติม es แต่คำว่า bamboo(แบมบู) ไม้ไผ่ ลงท้ายด้วยตัวโอเหมือนกัน แต่หน้าตัวโอเป็นสระโอ o ไม่ใช่พย้ญชนะ ก็จะเติม s เป็น bamboos
a hero(ฮีโร) วีรบุรุษหนึ่งคน heroes(ฮีโรสฺ) วีรบุรุษหลายคน

 

คำนามเอกพจน์ลงท้ายด้วย o หน้า o เป็นสระ เติม s

คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วยตัวโอ o หากหน้าตัวโอ เป็นสระ จะเติม s อย่างเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเติม es เช่น
boo(บู) boos(บูสฺ)
a radio(เรดีโอ) วิทยุหนึ่งเครื่อง radios(เรดิโอสฺ) วิทยุหลายเครื่อง

 

คำนามเอกพจน์ลงท้าย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เติม es

คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วยตัววาย y และหน้าตัววาย y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยนวาย y เป็นไอ i ก่อน แล้วเติมอีเอส es เช่น a fly(อะ ฟลาย) แมลงหนึ่งตัว flies(ฟลายสฺ)แมลงหลายตัว หน้าตัววาย y เป็นตัวแอล l ซึ่งเป็นพยัญชนะ

 

คำนามเอกพจน์ลงท้าย y และหน้า y เป็นสระ ให้เติม s

คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วยตัววาย y และหน้าตัววาย y เป็นสระ ให้เติมเอส s ลงไปได้เลย เช่น
a day (อะ เดย์) หนึ่งวัน days(เดย์สฺ) หลายวัน หน้าตัววาย y เป็นตัวเอ a ซึ่งเป็นสระ

 

คำนามเอกพจน์ลงท้ายด้วย f หรือ fe

คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วยตัวเอฟ f หรือเอฟอี fe ให้เปลี่ยนเป็นตัววี v ก่อน แล้วเติม es เช่น
a knife(อะ ไนฟฺ) มีดหนึ่งเล่ม knives(ไนฟสฺ) มีดหลายเล่ม
a leaf (อะลีฟฺ) ใบไม้หนึ่งใบ leaves (ลิฟสึ) ใบไม้หลายใบ ลากเสียงคำว่า ลีฟ เล็กน้อย

 

เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการเปลี่ยนสระ

คำนามบางคำจะใช้การเปลี่ยนสระภายในเพื่อทำให้เป็นคำนามพหูพจน์ เช่น
man (แมน) ผู้ชาย men (เมน) ผู้ชายหลายคน
woman (วูแมน) ผู้หญิง women (วูเมน) ผู้หญิงหลายคน
foot(ฟูตเทอะ) เท้า feet(ฟีตเทอะ) หลายเท้ารวมกัน

 

เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการเติม en หรือ ren

คำนามบางคำจะใช้การเติม en หรือ ren ต่อท้ายเพื่อเปลี่ยนจากเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ เช่น
child (ชาย) เด็ก children (ชีลเดรน) เด็กหลายคน

 

คำบางคำเป็นพหูพจน์โดยกำเนิด

คำนามบางคำนั้นเป็นพหูพจน์โดยกำหนด จึงต้องท่องจำอย่างเดียว เช่น
assets (แอสเสต) ทรัพย์สิน
spectacles (เสปกแทกเคิล) แว่นตา

 

เปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ด้วยการผสมกับคำบอกปริมาณ

คำนามบางประเภทเป็นเอกพจน์ การจะเปลี่ยนเป็นพหูพจน์ จะต้องใช้การผสมกับคำอื่นเพื่อบอกปริมาณ เช่น น้ำ ปกติจะนับไม่ได้ หากต้องการนับ ก็ต้องใช้การตวงหรือใส่ภาชนะอย่างขวดน้ำ
น้ำ water(วอเตอร์) เป็นคำนาม การนับอาจจะใช้ two bottles of water (ทู ออฟ วอเตอร์) น้ำสองขวด