บทความแนะนำวิธี วิธี ดูแลรักษาเริมเบื้องต้น เพื่อป้องกันไม่ให้ลาม กลายเป็นแผลใหญ่ เริมเกิดจากเชื้อไวรัส มีโอกาสเกิดได้กับทุกเพศ ทุกวัย อาการรุนแรงมากน้อยต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียด ร่างกายอ่อนแอ อาหาร ความวิตกกังวล หรือการได้รับเชื่อโดยตรง
การเกิดเริม มักจะเกิด 2 แบบด้วยกัน โดยจะพุเป็นตุ่มใส่ แสบร้อน
1. เริมที่ริมฝีปาก หรือในช่องปาก
2. เริมที่อวัยวะเพศ
วิธีดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อเป็นเริม
1. ก่อนอื่นต้องรู้อาการของเริมกันก่อน จะมีโอกาสที่จะต้องสังเกตุและจำให้ได้ ก็คืออาการเป็นตุ่ม ปวดแสบปวดร้อน หากมีอาการดังกล่าวที่ริมฝีปาก หรืออวัยวะเพศ ก็มีโอกาสสู้ที่จะเป็นเริม แน่นอน
2. เมื่อรู้ว่าร่างกายกำลังจะเป็นเริม มีตุ่มปวดแสบปวดร้อน จะต้องหยุดความเครียดทันทำ ทำตัวให้สบายๆ หากกำลังทำงานหนัก ก็ให้หยุดพักผ่อนให้เพียงพอ หรือนั่งสมาธิ และต้องออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง กรณีเพิ่งขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ ก็จะหายได้ในเวลาไม่นาน เพราะร่างกายกลับมาแข็งแรงเร็ว
3. หากมีอาการหนักต้องรีบพบแพทย์
4. หลังจากขึ้นเป็นตุ่มใส และเริ่มแตกแล้ว ก็จะเป็นแผลเล็กๆ ให้ทาเจลสำหรับรักษาเริมโดยเฉพาะ ประมาณ 1-2 สัปดาห์ แผลก็จะเริ่มหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องพักผ่อน ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ภูมิต้านทานก็จะทำงานได้ดี แผลหายเร็ว เพราะโรคนี้ติดต่อได้ จึงดูไม่ดีนัก ดังนั้นก็จะต้องหาทางรักษาให้หายให้เร็วที่สุด
การดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อเป็นเริม หากต้องการให้แผลหายเร็ว จะต้องไม่เครียด ลดกาแฟ แอลกอฮอร์ เข้านอนให้เร็ว และออกกำลังกาย หลักการง่ายๆ แค่นี้เอง โรคนี้เป็นแล้วไม่หาย มีโอกาสกลับมาเป็นได้อีก ถ้าเครียด ร่างกายอ่อนแอ รู้ให้ทัน ก็จัดการกับปัญหา เริมได้ไม่ยาก เริมสามารถติดต่อได้ ดังนั้นก็จำเป็นจะต้องทำความรู้จัก และสังเกตุคนรอบข้าง โดยเฉพาะเริมที่ริมฝีปาก อย่าเผลอไปดูดปากใครในช่วงนั้น