การเป็นคนโสดจำเป็นต้องวางแผนกาเงิน การใช้จ่าย อย่างมีระเบียบวินัยค่อนข้างสูงกว่าคนปกติ เพราะความอิสระ ไม่มีภาระต้องรับผิดชอบ จึงมักจะใช้จ่ายโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง มีโอกาสทำให้เกิดปัญหาการเงินตามมาในอนาคต โดยเฉพาะยามเจ็บป่วย มีปัญหาการเงินหรือยามแก่ชรา

 

 

ชีวิตคนโสดเป็นชีวิตที่มีความสุขมาก โดยเฉพาะคนที่ไม่มีพันธะใดๆ ไม่มีภาระต้องรับผิดชอบ ในช่วงที่ยังมีงาน มีเงิน มีสุขภาพแข็งแรง จึงมักจะใช้ชีวิตสุข สนุกสุดเหวี่ยง ด้วยความประมาท โดยลืมไปว่าชีวิตคนเรานั้นมีสุขและมีทุกข์ สุขมาก ทุกข์มากก็รออยู่เช่นกัน การเป็นคนโสดจึงต้องคิดวางแผนการเงินให้มากกว่าคนทั่วไป เพราะเมื่อต้องตกอยู่ในช่วงเวลาวิกฤตอาจจะไม่เหลือใครให้พึ่งพา 

 

ความจำเป็นที่จะต้องวางแผนการเงินสำหรับคนโสด

คนโสดมีความจำเป็นที่จะต้องวางแผนการเงิน เพื่อให้มีเงินออม มีเงินเก็บ มีเงินไว้ใช้จ่ายในสถานการณ์เลวร้ายที่ไม่รู้ว่าจะเกิดกับชีวิตในวันใด เช่น
1. ตกงาน ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ เทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ขณะเดียวกัน งานบางประเภทก็ต้องล้มหายตายจากไปด้วยเช่นกัน ซึ่งก็มีอีกมากที่จะเป็นอย่างนั้นในอนาคต เพราะจะมีการนำ AI นำหุ่นยนต์มาใช้งานแทนมนุษย์ งานที่เรากำลังทำอยู่ตอนนี้ ในอนาคตจึงไม่แน่ว่าจะยังมีงานให้ทำอยู่หรือไม่
2. เจ็บป่วย ทำงานทำการไม่ได้ การใช้ชีวิตของคนทุกวันนี้มีโอกาสเจ็บป่วยได้มากกว่าคนในสมัยก่อน ดังนั้นจึงต้องมีเงินออมไว้ใช้จ่ายยามเจ็บป่วย เพราะโรคยอดนิยมมักจะมีรายจ่ายสูง
3. ประสบปัญหาชีวิต ในด้านต่างๆ ไม่มีใครที่สามารถพึ่งพาได้ ชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง มีทุกข์ก็ย่อมมีสุขสลับกันไป หากวันใดที่ทุกข์มาเยือน โดยเฉพาะปัญหาการเงิน ก็จะมีเงินออมไว้ใช้จ่าย ไม่ต้องหยิบยืมใคร
4. แก่ชรา ไม่มีคนดูแล ยามแก่ชรา อย่าหวังว่า หลาน หรือญาติจะมาดูแล เพราะคนเราทุกวันนี้ เอาตัวเองแทบจะไม่รอด การเตรียมเงินออมเก็บไว้ย่อมจะดีกว่า การหวังพึ่งพาคนอื่น ซึ่งมีความไม่แน่นอน ไม่ใช่ลูกหลานแท้ๆ แล้วใครจะมาดูแลคนโสด

 

การวางแผนการเงินกับคนในครอบครัวสำหรับคนโสด

การใช้จ่ายเงินกับคนในครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง ต้องใช้เงินอย่างมีสติ และศึกษาถึงผลดีผลเสียของการใ้ห้เงินให้ทรัพย์สมบัติต่างๆ เพราะมักจะมีผลเสียตามมาเสมอ และมักจะทำให้เกิดปัญหากับตัวเองในภายหลัง
1. ระวังอย่าให้คนในครอบครัว เข้ามาวุ่นวายกับทรัพย์สมบัติของตนเอง
เรื่องนี้สำคัญมากที่จะต้องวางแผนให้ดี ไม่เช่นนั้นก็ต้องมีกฏกติกา มีการจ่ายเงินเดือนในการบริหารจัดการ แต่หากให้เข้ามาจัดการเองตามใจชอบ มักจะครอบงำ หรือพยายามครอบครอง จนทำให้เกิดปัญหาในภายหลัง บางคนเอาเงินเข้าเก็บไว้ในบัญชีของพ่อแม่ และไม่สามารถถอนออกมาได้ เพราะไปขัดใจ ไม่ทำตามใจ หรือมีความคิดเห็นเรื่องเงิน ไม่ลงรอยกัน อย่างเรื่องการทำธุรกิจ พ่อแม่บางคนเน้นให้นำเงินฝากธนาคารเก็บไว้ ปลอดภัย แต่ลูกหลานก็อยากจะนำเงินไปลงทุน ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ กลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา
2. การให้เงินพ่อแม่พี่น้องหลานเหลน ญาติ ต้องมีเงื่อนไขในการช่วยเหลือ
ตัวอย่างการให้เงิน เช่น ให้ทุนเพื่อทำมาหากิน ให้เงินก้อนเพื่อการศึกษาเท่านั้น มีระยะเวลามีขอบเขต อย่าสักแต่ให้ง่ายเกินไป เพราะจะสร้างนิสัยเห็นแก่ตัว นอกจากนี้ก็ควรสังเกตุพฤติกรรมของแต่ละคนด้วย ว่ามีนิสียอย่างไร เป็นคนจิตใจดี หรือเห็นแก่ตัว ต้องอ่านให้ขาด เพื่อจะได้เตรียมรับมือในภายหลัง
คนที่แบมือรับอย่างเดียวมีแนวโน้มเป็นคนเห็นแก่ตัวสูงมาก และหากคนในครอบครัวเป็นแบบนั้น ความจำเป็นต้องตัดสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัว ก็ต้องมาถึงไม่วันใดก็วันหนึ่ง แต่หากรู้ทันก่อนว่าแต่ละคนนิสัยเป็นอย่างไร ก็จะได้เตรียมรับมือตั้งแต่เริ่ม และอาจจะหาทางป้องกันได้
3. ให้ความช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้องด้วยความคาดหวังหวังพึ่งพาคนในอนาคต
คนโสดไม่มีลูกหลาน จึงต้องระวังกับการดูแลลูกๆ ของพี่น้องก็คือหลานๆ นั่นเอง อย่าไปคาดหวังอะไรให้มาก เช่น ตั้งใจส่งเสียดูแล คาดหวังว่าจะมีคนดูแลตัวเองในอนาคต เพราะผลที่ได้มักจะไม่เป็นอย่างที่คิด ให้ความช่วยเหลือแต่พอดี และมีขอบเขตดีที่สุด อย่าไปตั้งความหวังว่า หลานๆ จะเป็นที่พึ่งพายามแก่ชรา ขอแค่ไม่มาเบียดเบียนเงินออมของตัวเองก็ดีแล้ว
4. การให้เงินก้อนกับพ่อแม่พี่น้องไม่ควรทำ
การให้เงินก้อนกับพ่อแม่พี่น้อง โดยเฉพาะพ่อแม่ บางทีอาจจะทำให้เสียคนตอนแก่ มีเงินใช้สบาย ก็จะใช้ฟุ่มเฟือยเต็มที่ แทนที่จะเก็บไว้ดูแลตัวเองยามแก่ชรา หรือยามที่เราเองก็มีปัญหาการเงิน การงาน ไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออะไรได้ บางทีอาจจะตกงาน ต้องหางานใหม่ ในขณะที่พ่อแม่ก็แก่ชราลงมาก หากก่อนหน้านั้น ได้เก็บเงินไว้เผื่อดูแลตัวเอง ก็จะไม่ลำบาก แต่พ่อแม่บางครอบครัวก็ใช้จ่ายสบายมือไม่เหลือเก็บ ยามเจ็บป่วย ก็สร้างปัญหาเดือดร้อนกันไปทั่ว
ดังนั้นการให้เงินเพื่อดูแลพ่อแม่ จึงต้องวางแผนเช่น นำเงินไปลงทุนเพื่อให้เกิดดอกผล แล้วนำดอกผลมาใช้ แทนที่จะนำเงินก้อนมาให้เปล่าๆ เพราะคนเรายังสามารถทำงานได้จนอายุใกล้ตาย แม้จะมีอายุมาก แต่ก็มีงานมากมายที่รองรับคนสูงวัย
แม้คนโสดจะมีรายได้มากพอ แล้วก็อย่าเพิ่งให้พ่อแม่เกษียณเร็วเกินไปนัก หรือหยุดทำงาน ไม่ต้องทำอะไร รับเงินจากลูกอย่างเดียว เพราะหากการงานตัวเองมีปัญหา ก็จะส่งผลกระทบไปทีั้งครอบครัว ต้องวิเคราะห์การเงินให้ละเอียด พ่อแม่มีเงินเก็บหรือไม่ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยหรือไม่ มีโรคประจำตัวหรือไม่ มีพี่น้องคนไหนมาเบียดเบียนเงินไปใช้หรือไม่ หากเจ็บป่วยจะมีค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ หากไม่มั่นใจ ก็ต้องช่วยกันทำงานต่อไป อย่ารีบไปแบกภาระไว้คนเดียว

คนในครอบครัวเดียวกันเมื่ออายุมากหรือแต่ละคนแยกตัวไปมีครอบครัวของตัวเองแล้ว พี่น้องก็เหมือนคนอื่นคนไกลไปแล้ว การให้ความช่วยเหลือเรื่องการเงินมากเกินไป จึงไม่ใช่เรื่องดี ในวันที่ชีวิตตัวเองย่ำแย่ อย่าไปคาดหวังว่าครอบครัวจะช่วยดูแล
การวิเคราะห์พฤติกรรมหรือนิสัยของแต่ละคนให้ละเอียด ก็จะพอได้คำตอบ จะได้เตรียมรับมือ เช่น ให้เงินพ่อแม่แล้วใช้เงินเก่ง ไม่มีเหลือ กรณีนี้มีปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นต้องรีบหยุดตั้งแต่แรก
ผู้เขียนคบผู้สูงวัยหลายคน บางคนก็ใช้เงินฟุ่มเฟือย แทนที่จะเก็บไว้เผื่อลูกหลานกรณีที่ไม่สามารถส่งเงินให้ได้ เผื่อไว้สำหรับตัวเองเจ็บป่วย บางคนก็ยังสร้างปัญหาให้ลูกๆ ต้องตามจ่ายเงิน จ่ายหนี้ของตัวเองอีกต่างหาก
สิ่งที่ควรทำ ก็คือการทำธุรกิจร่วมกัน หรือให้นำเงินไปสร้างรายได้ โดยที่พยายามให้เงินก้อนยังอยู่และนำกำไรที่ได้มาใช้จ่าย เพราะไม่มีใครจะอยู่คำฟ้า ช่วยเหลือใครได้ บางทีลูกอาจจะตายก่อนพ่อแม่ ก็ได้ หากฝึกให้พ่อแม่เป็นง่อย ทำมาหาเกินไม่เป็น ถ้าตัวเองไม่อยู่หรือช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ใครจะดูแล

 

 

การวางแผนเรื่องการทำงานสร้างรายได้

ในอีกหลายสิบปีข้างหน้า โลกย่อมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่ามาก ดังนั้นแผนการเงินที่วางไว้ อาจจะไม่รองรับ การวางแผนเรื่องการทำงาน เลือกงานที่เหมาะสมกับวัย หรืองานที่สามารถทำได้ทุกวัย จึงจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้เพื่อเตรียมรับมือกับอาชีพใหม่

เมื่อมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา งานบางอย่างก็จะหายไป อย่างหนุ่มสาวโรงงาน หากมีการนำหุ่นยนต์มาทำงานแทนที่ ก็จะพากันตกงาน จึงต้องเตรียมตัวรับมือ เน้นงานที่สามารถทำได้ โดยไม่ต้องใช้แรงกายมากนัก แม้จะแก่ชรา ก็จะไม่มีปัญหาในการทำงาน

 

การวางแผนให้เงินทำงานแทนตัวเอง

สิ่งที่คนโสดจะหวังพึ่งพาได้ 100% ก็คือเงินหรือทรัพย์สมบัติของตัวเอง เท่านั้น เพราะไม่ใช่สิ่งมีชีวิต แต่เป็นระบบที่เราสามารถควบคุมได้ อย่างการวางแผนให้เงินช่วยทำงานแทนเรา ย่อมจะดีกว่าให้คนอื่นเอาเงินเราไปลงทุน หรือลงทุนทำอะไรบางอย่าง โดยเราเป็นคนลงทุน แล้วจ้างคนอื่นดูแล เพราะมีโอกาสผิดพลาด สูญเสียเงินก้อน การวางแผนให้เงินช่วยทำงาน จึงเป็นสิ่งที่คนโสดจำเป็นต้องทำ เช่น
1. การนำเงินไปลงทุนกับหุ้นปันผล เงิน 2,000,000 บาท หากนำไปลงทุนกับหุ้นปันผล ก็จะมีผลตอนแทนประมาณ 60,000 - 1000,000 บาทต่อปี สำหรับคนโสดที่ไม่มีภาระอะไร เงินประมาณนี้ ก็เพียงพอสำหรับการใช้จ่ายในแต่ละเดือน กว่าจะเกษียณออกจากงาน หากสามารถหาเงินไปลงทุนได้สัก 3 ล้านบาทขึ้นไปเพื่อให้มีรายได้จากเงินปันผลต่อปีประมาณ 90,000 บาทขึ้นไป หรือเฉลี่ยเดือนละ 7,500 ก็ถือว่าเพียงพอ แต่ต้องมีบ้านที่อยู่ไม่ต้องเช่า หากมีเงินบางส่วนจากประกันสังคมและอื่นๆ อีกเล็กน้อย ก็อยู่ได้สบายๆ นี่คือการวางแผนให้เงินช่วยทำงาน
2. การซื้ออสังหาริมทรัพย์ บ้าน ตึกแถว คอนโด ที่ดิน เพื่อปล่อยให้เช่า ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนโสดอาจจะเลือกใช้สิ่งเหล่านี้ช่วยสร้างรายได้ แต่จะต้องเดินทางไปเก็บค่าเช่าเองทุกเดือน ต่างจากการเล่นหุ้น ถึงเวลาก็โอนเงินเข้าบัญชีหรือทำเรื่องถอนเงิน ไม่ต้องไปไล่ตามเก็บกับผู้ให้เช่า
3. การนำเงินไปลงทุนยังมีอีกมาก เช่น การผลิตสินค้าของตนเอง เพื่อขาย การทำงานออนไลน์ ซึ่งจะสามารถทำได้จนกว่าร่างกายจะไม่ไหว อย่างการเป็นนักเขียนแบบนี้ ยังทำงานได้อีกนาน

สำหรับคนโสด การวางแผนให้เงินช่วยทำงานอทนตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมาก ที่จะต้องทำให้ได้ เพราะการให้ระบบทำงานแทนเราแบบนี้ ปัญหาจะเกิดขึ้นน้อยมาก น้อยกว่าการให้ใครก็ตามมาดูแลกิจการที่เราทำ การไปเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต มีโอกาสสร้างปัญหามากกว่าสิ่งไม่มีชีวิตอย่างการนำเงินไปลงทุนแนวนี้

 

การวางแผนการเงินเพื่อดูแลตัวเองสำหรับคนโสด

รายจ่ายในส่วนนี้ที่จะต้องเตรียมเผื่อไว้ เช่น
1. การสร้างปัจจัย 4
เมื่อมีรายได้ สิ่งสำคัญที่จะต้องเตรียมให้พร้อมจะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย การมีที่ดินเล็กๆ สักแปลงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบ้านและที่ดิน จะช่วยลดรายจ่ายได้อย่างมาก ไม่ต้องเสียค่าเช่า และที่ดินยังสามารถเพาะปลูกเป็นแหล่งอาหารช่วยลดรายจ่ายด้านนี้ได้ หากไม่มีภาระอื่นๆ ต้องรับผิดชอบ การมีรายได้เดือนละ 2,000-3,000 บาท ก็ดำรงขีพอยู่ได้สบายๆ ในยามแก่ชรา
2. การรักษาพยาบาล
การรักษาพยาบาลยามเจ็บป่วย สำหรับคนโสด ต้องพึ่งพาพยาบาลเป็นหลัก มีค่าใช้จ่ายสูง จึงต้องวางแผนเรื่องการเงินเผื่อไว้ให้มาก
3. ค่าใช้จ่ายในการวางแผนดูแลสุขภาพ
การมีสุขภาพที่ดี ย่อมจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลลงได้ การป้องกันมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการรักษา จึงควรดูแลตัวเองให้ดี อย่าให้เจ็บป่วย
4. วางแผนในเรื่องการทำประกันชีวิต อย่าไปคิดว่า ทำแล้วเราไม่ได้ใช้ ไม่ได้รับประโยชน์ แต่ให้คิดว่า ทำเพื่อไว้เคลมเวลาที่เรามีปัญหาสุขภาพ เหมือนการทำประกันภัยรถยนต์ ทำไว้เพื่อป้องกันตัวเอง เพื่อดูแลตัวเอง ยามเกิดอุบัตเหตุ บางคนจะคิดว่าทำแล้ว ตายไปแล้วไม่ได้รับ ผลตอบแทน จึงไม่ทำ

 

การวางแผนใช้จ่ายเงินกับความบันเทิง

การมีชีวิตโสด อุปสรรคที่ยากจะผ่านก็คือความเหงา กว่าจะผ่านและเข้าใจความเหงามักจะต้องเสียค่าวิชาแพง เรื่องนี้ต้องมีวินัยในชีวิตให้มากๆ อย่าพาตัวเองไปเกี่ยวข้องหรือทำตัวเป็นผู้บันเทิง เที่ยวเตร่ สำมะเลเทเมา จนติดถอนตัวไม่ขึ้น เพราะจะมีรายจ่ายตามมาก โดยเฉพาะในเรื่องการพนันด้วยแล้ว ยิ่งต้องอยู่ให้ไกล
ควรเรียนรู้วิธีจัดการกับความเหงาด้วยวิธีอื่นเช่น การทำกิจกรรมที่ชอบ การเข้าหาธรรมะ ศึกษาข้อคิดคำคมที่ช่วยจรรโลงชีตในทางที่ดี จะเป็นวิธีจัดการกับความเงาที่ยั่งยืนมากกว่า การทำอะไรคั่นเวลาอย่างการเที่ยวเตร่ เที่ยวกลางคืน ปาร์ตี้

 

เพื่อความมั่นคงของชีวิตในบั้นปลาย สิ่งที่คนโสดควรวางแผนและทำตามแผนให้ได้ ในความคิดเห็นของผู้เขียนที่ตั้งใจจะทำแล้ว จะเป็นเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะทำงานส่วนตัว ดังนั้นหากมีที่อยู่อาศัย มีที่ดินของตนเอง ปลูกบ้านเล็กๆ สักหลังไม่ต้องเสียค่าเช่า สามารถเพาะปลูกพีชผักไว้รับประทานได้ ก็จะประหยัดรายจ่ายได้อย่างมาก หากสามารถนำเงินลงทุนให้เกิดรายได้ อย่างการเล่นหุ้นหรือด้านอื่น พร้อมกับทำงานออนไลน์แบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็จะมีรายรับเพียงพอต่อการใช้จ่ายได้สบายๆ น่าจะมีชีวิตบั้นปลายไม่เดือดร้อน