ช่วงปลายปีร้านค้าต่างพากันลดราคา ทำโปรโมชัน บางคนก็ได้โบนัส หรือมีเงินเก็บ ก็อยากจะใช้จ่ายซื้อสินค้าที่ตัวเองต้องการ แต่ก่อนอื่นก็ควรตั้งสติ คิดให้รอบคอบ คิดให้รอบด้าน อย่าให้ความอยากได้ ทำให้ขาดสติ หรือ การศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะ การรู้ถึงความต้องการของตัวเอง มีความต้องการใช้งานมากแค่ไหน และคุณสมบัติของสินค้าตรงตามที่ต้องการหรือไม่

 

 

ประสบการณ์ที่จะมองออกว่า สินค้าที่จะซื้อนั้น มีคุณสมบัติที่ดีสามารถใช้งานได้เหมาะสมกับตัวเองหรือไม่ ก็มักจะเสียเงินไป ไม่น้อยกับการทดลอง ซื้อมาใช้ก่อน และเมื่อพบว่า สินค้านั้นๆ ไม่เหมาะกับตนเอง ก็เสียเงินไปแล้ว และก็ไม่สามารถนำสินค้านั้น ไปขายต่อได้ การซื้อสินค้าที่ขาดสติ ขาดการคิดให้รอบคอบ ก็มักจะทำให้เสียเงิน หรือได้สินค้าที่สร้างปัญหาในภายหลัง

 

ตัวอย่าง 17 เรื่องควรคิดให้รอบด้านก่อนซื้อสินค้า

ข้อคิดเหล่านี้ก็ล้วนเกิดจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง นำมาแชร์ เผื่ออาจจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน

 

Tips1: ระวังสินค้าที่มีพังเมื่อไม่มีการใช้งาน

สินค้าประเภทนี้ หากไม่มีการเปิดใช้งาน ก็จะทำให้พัง เสียหาย สึกหรอ หรืออะไหล่ ชิ้นส่วนของอุปกรณ์นั้นๆ มีปัญหา ตัวอย่าง เช่น
- คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค หากไม่เปิดใช้งาน ฮาร์ดดิสก์ จอภาพ จะมีโอกาสพัง เสีย
- รถยนต์ รถจักรยานยนต์ จักรยาน หากไม่ขยับ ไม่มีการใช้งาน ชิ้นส่วนที่เป็นยาง จะเสื่อมสภาพ หมดอายุเร็วกว่า รถที่ใช้งาน เป็นประจำแทบทุกวัน
ดังนั้นก่อนจะซื้อสินค้าใดๆ จึงต้องดูให้รอบด้านว่า หากปล่อยไว้ ไม่ค่อยได้ใช้งาน จะทำให้สินค้านั้นเสียเร็วหรือไม่

 

Tips2: ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นตามมาจากสินค้านั้นๆ

อุปกรณ์หรือสินค้าบางอย่าง จะมีค่าใช้จ่ายสูงตามมา จึงจะใช้งานได้ดี อย่างมือถือระบบแอนดรอยด์กับ iOS/iPhone/iPad ระบบแอนดรอยด์จะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า มีแอปฟรีให้ใช้มากกว่า และไม่ถูกบังคับให้ต้องเสียเงินซื้อ แต่การใช้งาน iPhone/iPad ให้ เต็มประสิทธิภาพ จะต้องจ่ายเงินซื้อบริการเสริมเพิ่มเติม มีค่าใช้จ่ายสูงตามมา

 

Tips3: ปัญหาของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

สินค้าประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนที่เป็นยาง พลาสติก มักจะมีปัญหากับความชื้น หากที่บ้าน ห้อง สถานที่อยู่ อาศัยมีความชื้นสูง อาจจะทำให้เปื่อย ผุ พังเสียหาย กรณีไม่ค่อยได้ใช้งาน ก็จะเสียเวลานำมาใช้บ้าง อย่างสายเชื่อมต่อสัญญาณ เสียง ไมค์แบบหนีบ สายชาร์จ จำเป็นจะต้องเอามาใช้บ้าง ตากแดดบ้าง ทำความสะอาด หากปล่อยไว้ไม่ค่อยได้ดูแล ก็จะเริ่มมี ปัญหา เปื่อย หลุดลุ่ย สินค้าประเภทนี้ต้องการการดูแล จึงควรเลือกใช้เท่าที่จำเป็น จะไม่เสียเวลาดูแล

 

Tips4: สินค้าที่เป็นหนัง ระวังความชื้น

สินค้าที่เป็นหนัง หากที่บ้าน ห้อง ที่อยู่อาศัย มีความชื้นสูง ก็ต้องระวังจะขึ้นเชื้อรา อย่างกระเป๋ากีตาร์ของผู้เขียน แม้จะแขวนไว้ โดนพัดลม อากาศถ่ายเทสะดวก ก็ยังขึ้นรา ต้องเช็ดทำความสะอาดาอยู่บ่อยๆ เสียเวลาดูและ

 

Tips5: สินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

สินค้าบางชนิดที่เราใช้งานทุกวัน บางอย่างก็ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ อย่างเช่น หม้อหุงข้าว กระทะ เคลือบเทฟล่อน จำเป็น จะต้องดูแลขณะใช้งาน และการล้างทำความสะอาด ระวังอย่านำช้อน ตะหลิว หรือโลหะมาใช้กับสินค้าแบบนี้ เมื่อต้องใช้งานทุกวัน ก็จะทำให้เสียเวลา อย่างกระทะเทฟล่อนแบบนี้ ใช้ครั้งเดียวก็ต้องหยุดใช้ เพราะเวลาล้างจะใช้ฟองน้ำนุ่มๆ ใช้ตะหลิว ช้อน กับ กระทะแบบนี้โดยเฉพาะ เพื่อป้องกันเทฟล่อน ที่เคลือบไว้หลุดลอก สำหรับกระทะตัวนี้ก็วางแผนใช้กระดาษทรายมาขัดเท ฟล่อนออกให้หมด เพื่อให้ใช้งานง่าย ดูแล ล้างทำความสะอาดง่ายมากขึ้น

 

Tips6: สินค้าแบบเดียวกันต้องดูคุณสมบัติให้ดี

สินค้าประเภทเดียวกัน ทำหน้าที่ หรือ มีวิธีใช้งานที่เหมือนกัน แต่ความสะดวก ความแข็งแรง จะต่างกัน ยกตัวอย่างที่จับมือ ถือมีหลายแบบ บางแบบไม่แข็งแรง พังง่าย หรือใช้งานยาก ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าประเภทนี้ จึงต้องศึกษาให้รอบด้าน จะไม่ เสียเงินเปล่า

 

Tips7: สินค้าราคาแพงยิ่งมีค่าใช้จ่ายตามมามาก

สินค้าที่มีราคาแพง และเป็นสินค้าที่เคลื่อนไหวได้ อย่างรถยนต์ จักรยานยนต์ มักจะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ทั้งค่าตัวสินค้า ค่า ใช้จ่ายในการใช้งานประจำวัน ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ดูแล จึงต้องเลือกให้เหมาะสมกับการเงิน และระยะเวลา เพราะสินค้าที่ มีราคาสูงมากๆ อย่างรถยนต์ หากไม่ศึกษาการเงินให้ดี จะทำให้โอกาสรวย หรือตั้งตัวได้ หรือนำเงินไปลงทุนอย่างอื่น ทำได้ช้าลง หรือตั้งตัวได้ช้าลง และมักจะทำให้เสียเงินไปเยาะมาก

 

ยกตัวอย่าง คนเริ่มทำงานที่รีบผ่อนรถใหม่ป้ายแดงเร็วเกินไป ในช่วงระยะเวลาที่ผ่อนรถหลายปี เงินก็จะร่อยหรอไปอย่างมาก กับคนที่เน้นใช้รถมือถือแค่พอกับได้ แต่นำเงินไปลงทุนด้านอื่น ก็ย่อมจะมีเงินเพิ่มพูนมากกว่า และมีโอกาสรวยกว่า หรือ มีความ มั่นคงทางการเงินมากกว่า เป็นต้น

 

Tips8: คุณสมบัติของสินค้าสร้างปัญหาปวดหัวให้ภายหลัง

สินค้าแต่ละชนิด หรือ แม้จะเป็นชนิดเดียวกัน แต่บางอย่างก็ทำให้เกิดปัญหารำคาญในการใช้งาน ตัวอย่าง พัดลม ที่สายไม่ได้ เป็นพัดลมแบบตั้งพื้น ตั้งโต๊ะ กับพัดลมที่ส่ายได้ หากมีงบประมาณจำกัดการเลือกซื้อแบบตั้งโต๊ะที่ส่ายไม่ได้ สุดท้ายก็มักจะเสีย เงินซื้อเพิ่ม เพราะการที่ลมพัดทางเดียวตลอดเวลา อาจจะทำให้คัดจมูก ไม่สบายตัว

 

คุณสมบัติของสินค้าจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องคิดให้รอบด้าน คิดให้รอบคอบ โดยเฉพาะสินค้าที่จะต้องใช้งานทุกวัน อย่าง รองเท้าแตะแบบหนีบ ถ้าพื้นหนาและหนัก ก็จะทำให้เมื่อยเท้ามากกว่า เดินไม่สบาย เหมือนรองเท้าแตะพื้นเบาๆ ใช้งานได้ไม่กี่วัน ก็ต้องหยุด กลายเป็นว่าเสียเงินเปล่า จะใช้ต่อ ก็สร้างปัญหาในการใช้งาน

 

Tips9: อุปกรณ์ที่ใช้แบตเตอรี่

อุปกรณ์ประเภทนี้ มีโอกาสทำให้เสียเงินเปล่าตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว หากทางร้านไม่รับคืน ตัวอย่างเมาส์ไร้สายมีแบตเตอรี่ ในตัว บางตัวใช้งานได้วันเดียว แบตเตอรี่ก็เสื่อมแล้ว หรือไฟฉายคาดศรีษะ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าขายมานาน เพียงใดแล้ว แบตเตอรี่เสื่อม หรือยัง บางทีได้มาแล้ว ก็ใช้ไม่ได้ เสียเงินเปล่า

 

สินค้าที่มีแบตเตอรี่ในตัว แม้ว่าเมื่อได้มาจะใช้งานได้ดี แบตเตอรี่เก็บไฟได้ดี แต่หากไม่ค่อยได้ใช้ ไม่ค่อยได้ชาร์จ ปล่อยทิ้งให้ แบตเตอรี่หมดอยู่บ่อยๆ ก็พังเร็วได้เหมือนกัน กลายเป็นภาระต้องดูแล อย่างผู้เขียนจำเป็นจะต้องมีมือถือหลายเครื่อง เพื่อเอาไว้ ทดสอบแอป ก็จะใช้งานบ้าง ไม่ใช้บ้าง ตัวไหนไม่ได้ใช้ก็เป็นภาระต้องคอยตรวจสอบ คอยดูแล ชาร์จ อย่าให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง เป็นภาระพอสมควร

 

Tips10 ความทนทานของสินค้า

สินค้ามีราคาสูงจะมีความทนทานมากกว่า และแม้จะเป็นสินค้ามือสองก็ตาม การยอมจ่ายแพงกว่า แต่คุ้มค่า และไม่ทำให้ชีวิต เสียเวลาต้องมาค่อยดูแล ก็ย่อมจะดีกว่า อย่างรถมอเตอร์ไซค์ การเลือกยางคุณภาพดี เช่น มิชลิน ใช้งานได้สบายใจ ขอเพียงหมั่น เติมลมอย่าให้ลมยางอ่อน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องยางรั่ว เพราะเนื้อยางมีความเหนียวมาก เป็นต้น

 

สินค้าบางอย่างที่ต้องใช้งานบ่อยๆ อย่างกางเกงที่มีซิพ ในรุ่นที่ราคาถูก ซิพจะเสียเร็วมาก สร้างปัญหาทำให้ใช้งานต่อไม่ได้ นี่ก็ เป็นตัวอย่างของสินค้าที่มีความทนทานต่ำ จะทำให้เสียเงินซ้ำๆ จ่ายหลายรอบ รวมแล้วมากกว่าการซื้อสินค้าของดี คุณภาพดีครั้ง เดียว

ดังนั้นสินค้าใดที่จะต้องใช้งานบ่อยๆ ใช้งานแทบทุกวัน จึงจำเป็นจะต้องเลือกสินค้าที่มีความทนทาน อย่างผู้เขียนชอบวิ่งออก กำลังกาย และชอบซื้อกางเกงราคาถูก ไม่นานก็พัง เพราะออกกำลังกายทุกวัน จึงต้องซักบ่อย ก็ทำให้เสียเงินบ่อย

 

Tips11: ราคาสินค้าถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับสถานที่

แหล่งซื้อสินค้าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะราคาสินค้าอาจจะต่างกันมาก อย่างเคสของ iPhone 7 ผู้เขียนยอมเสียเวลาไปเดินห้าง เพราะคิดว่าไม่แพง ปรากฏว่าเคสแบบเดียวกัน แต่ที่ห้างขายชิ้นละ 100 บาท เลยตัดสินใจซื้อผ่านเน็ต ชิ้นละ 38 บาท ซื้อมา 2 ชั้น รวมค่าส่งเป็นเงิน 116 บาท

 

ทุกวันนี้เรามีตัวเลือกในการซื้อสินค้ามากขึ้น ดังนั้นจึงควรหาแหล่งซื้อสินค้าที่มีราคาถูกเพื่อประหยัดเงินในกระเป๋า

 

Tips12: ความง่ายในการซ่อมบำรุง หรือ DIY

การซื้อสินค้าใดๆ ควรนึกถึงการซ่อมบำรุง หรือ ดัดแปลงแก้ไข ต้องสามารถทำได้ง่าย และมีหลายวิธีที่สามารถทำได้ เพื่อจะ ได้ดัดแปลงให้เหมาะสมกับการใช้งาน หรือกรณีเสียก็สามารถซ่อม แก้ไขดัดแปลงด้วยตัวเองได้

 

Tips13: การขายต่อ

สินค้าของมือถือก็มีแหล่งให้เรานำสินค้าไปลงประกาศขายได้ จึงควรเลือกสินค้าที่สามารถขายต่อได้ และเมื่อได้มากแล้วก็ควร ดูและให้ดี อย่างมือถือ ก็ควรใส่เคสปกป้องให้เครื่องอยู่ในสภาพดี ไม่มีรอย ก็จะขายต่อได้ราคา เป็นต้น

 

Tips14: ดูแตกต่างจากคนอื่นมากเกินไป

สินค้าที่ทำให้ดูมีความแตกต่างจากผู้อื่นมากเกินไป จนกลายเป็นจุดสนใจ ก็ใช่จะเป็นเรื่องดี และบางทีก็อาจจะเป็นการรบกวน คนรอบข้าง ตัวอย่างเช่น การใช้มือถือถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ เมื่อไปเที่ยวในสถานที่ต่างๆ จะเป็นเรื่องปกติ ที่ใครๆ ก็ทำกัน แต่เมื่อ ใช้อุปกรณ์ถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ อย่างกล้องติดหมวก โดรน คาดหน้าอกติดมือถือหรือติดกล้อง ไม้เซลฟี่ กล้องหลายตัว พร้อมไมค์ ฯลฯ ก็ทำให้กลายเป็นจุดสนใจ และไม่ใช่ทุกคนที่อยากจะออกกล้อง เพราะเสียความเป็นส่วนตัว

 

สินค้าที่ใช้แล้ว ทำให้ตัวเองกลายเป็นจุดเด่นมากเกินไป ก็ไม่ดี จะทำให้เสียความเป็นส่วนตัว และก็อาจจะเป็นการรบกวน หรือ ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นไปด้วย อย่างการถ่ายวิดีโอลงช่องยูทูปที่นิยมกันมากในตอนนี้

 

Tips15: สินค้าที่ขาดๆ เกินๆ

สินค้าประเภทนี้มีคุณสมบัติบางอย่างที่ใช้แล้วเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ตัวอย่างเช่น กระติ๊กใส่น้ำร้อนขนาด 500 มิลลิลิตร มันก็ไม่พอดีกับเบย 1 ขวด ปริมาณ 620 มิลลิลิตร หรือกระติ๊กใส่น้ำแข็งบางอัน มันก็เล็กเกินไป ใส่น้ำแข็งได้ครึ่งถุงแค่นั้น สินค้า ประเภทนี้ถ้าต้องใช้งานทุกวัน ก็หงุดหงิดได้ทุกวัน ดังนั้นจึงต้องวางแผนให้ดีว่าจะนำสินค้านั้นๆ ไปใช้กับอะไร อย่างผู้เขียนซื้อ กระติกเล็กๆ พกพาง่ายมาไว้ใส่น้ำแข็ง แต่ก็ใส่ได้ไม่หมด สุดท้ายก็ต้องไปซื้อมาอีกอัน ตามภาพ จึงจะใส่น้ำแข็ง 1 ถุง ได้พอดี

 

สินค้าบางอย่างก็มีคุณสมบัติ จนทำให้ใช้งานไม่สะดวก เช่น พัดลมแบบส่ายไม่ได้ ปรับไม่ได้ การได้รับลมมากเกินไป และ ตลอดเวลา สำหรับบางคนจะให้คัดจมูก จาม หายใจไม่สะดวก ทำให้ต้องเสียเงินซื้อพัดลมส่ายได้มาใช้ กลายเป็นว่า ตัวเล็กสีขาว ก็กลายเป็นเครื่องประดับบ้านไปแทน เปิดทีไรคัดจมูก ไม่สบายตัว เพราะลมมาทางเดียวตลอดเวลา

 

Tips16: สินค้าที่ไม่เหมาะสมกับฐานะหรือสไตล์การใช้ชีวิตตัวเอง

แต่ละคนต่างก็มีสไตล์การใช้ชีวิตของตนเอง สินค้าที่ใช้หากไม่เหมาะกับฐานะ สถานะ ความเป็นอยู่ ความรู้อาชีพ ก็อาจจะ สร้างปัญหาในการใช้งาน อย่างชาวบ้านธรรมดา ถ้าเกิดไปถูกรางวัลที่ 1 ได้มาหลายสิบล้าน ก็นำไปซื้อรถเบนซ์มาขับ แต่ตัวเองใช้ ชีวิตเรียบง่ายเหมือนเดิม รถยนต์หรูก็ไม่เหมาะกับสไลต์การใช้ชีวิต รวยก็จริง แต่ซื้อมาจอด ก็เสียเงินเปล่า เป็นต้น เพราะรถมีแต่ จะลด ในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า จากรถราคาหลักล้านบาทก็อาจจะเหลือราคาแค่หลักแสนบาทเท่านั้นเอง ใช้ iPhone แต่เป็นชาวบ้าน รายได้น้อย ไม่มีความรู้

 

กรณีเป็นชาวบ้านทั่วไป ไม่มีความรู้ด้านไอที การจะไปใช้มือถือที่มีระบบไม่เหมือนชาวบ้านทั่วไปที่ใช้เพียงแอนดรอยด์ ก็ย่อม จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง เมื่อแอปมีปัญหา ก็ไม่รู้จะถามใคร แก้ปัญหาด้วยตัวเองไม่ได้ คนรอบตัวก็อาจจะช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก นัก เพราะไม่มีความรู้ เป็นต้น

 

อย่างเพื่อนผู้เขียนบางคนเป็นผู้จัดการมีเงินเดือนหลายหมื่นบาท บางคนก็เป็นข้าราชการระดับสูง ทั้งยังมีกิจการส่วนตัว มีรายได้ เดือนหลักแสนบาท แต่ก็ยังใช้รถเล็กๆ อย่าง Suzuki Swift, Honda Jazz ไม่ใช้รถใหญ่ หรู ให้สมฐานะและการงาน เพราะรถเหล่านั้นไม่คล่องตัว ไม่เหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตของตนเอง ซื้อมาก็คงจะไม่ค่อยได้ใช้ ซื้อมาจอด เอาไว้แค่อวดให้คนอื่นรู้ว่ามี ก็จะเสียเงินเปล่า ได้ไม่คุ้มเสีย 

 

Tips17: ใช้ช่วยทำมาหากิน สร้างอาชีพได้

การจะซื้อสินค้าสักชิ้น ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่มีราคาสูงหรือต่ำ ก็ควรคิดถึงช่องทางใช้สินค้านั้นๆ ทำมาหากินด้วย ฝึกคิด ฝึกวาง แผนก็ไม่เสียหายอะไร เป็นความรู้ติดตัวเผื่อไว้ใช้ หรือ แนะนำคนอื่นได้ โดยเฉพาะคนงบน้อย รายได้น้อย กำลังว่างงาน ตัวอย่าง เช่น มือถือสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นแอนดรอยด์หรือ iPhone เครื่องใหม่หรือเครื่องเก่าก็มีช่องทางใช้ทำมาหากินได้ เช่น ถ่ายรูป สินค้า นำไปโพสต์ขาย ถ่ายวิดีโอขายสินค้า ทำเว็บไซต์เขียนบทความสอนใช้มือถือยี่ห้อ หรือ รุ่นนั้นๆ เป็นต้น

 

การหาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สินค้าแต่ละแบบช่วยทำงานยังมีอีกมาก สินค้าตั้งแต่ราคาหลักร้อยบาท จนถึงหลักแสนบาทก็มี ช่องทางช่วยทำมาหากินได้ทั้งสิ้น เพราะอุปกรณ์ช่วยทำมาหากินหลักของเรา แทบทุกคนก็มีอยู่แล้ว ก็คือมือถือนั่นเอง ใช้ถ่ายภาพ สินค้าเพื่อนำไปขายเป็นของมือถือ กรณีไม่ใช้งานแล้ว ก็ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นขยะอยู่ในบ้าน

 

สรุป

ความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติของสินค้าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องรู้ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่าไปกว่านั้น ก็คือ เราต้องรู้ตัวเองว่าจำเป็น จะต้องใช้สินค้าแบบใด คุณสมบัติของสินค้านั้นๆ เหมาะสมกับเราหรือไม่ ซื้อมาแล้วจะใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและมีความสุขหรือไม่ ช่วงนี้หลายคนก็จับจ่ายใช้สอย จึงต้องคิดให้รอบคอบ รอบด้าน ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าใดๆ โดยเฉพาะเวลาที่มีเงิน มีสตางค์ สติก็ มักจะไม่ค่อยมี อยากได้อะไรก็จะซื้อๆๆๆ สุดท้ายก็มักจะทำให้เสียเงินเปล่า ได้ของมากองเต็มบ้าน แต่ไม่ได้ใช้งาน