บทความนี้จะพาผู้อ่านไปรู้จักปัญหาการเงินแบบต่างๆ และแนวทางแก้ไข เพราะเงินเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีพ ปัญหาเรื่องเงินจึงเป็น ปัญหาที่เราต้องเจอะเจอทุกวัน ทุกเดือน หรือทั้งชีวิต หากไม่รู้วิธีแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ เมื่อชีวิตมีปัญหาเรื่องเงิน ก็จะนำปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมาก ทำให้ชีวิตไม่มีความสุข

 

เงิน เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญของคนเรา ไม่ว่าจะคนไม่มีเงิน หาเช้ากินค่า คนรวยมีเงินเหลือใช้ บางคนก็ยังมีปัญหาเรื่องเงิน หรือชีวิตมีปัญหา เพราะเงินอยู่ดี ตัวอย่างปัญหาการเงินแบบต่างๆ ที่เราควรรู้

 

ปัญหาเงินไม่พอใช้

ปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ เป็นปัญหาของคนส่วนใหญ่ ซึ่งปัญหาในเรื่องนี้ เกิดจากหลายสาเหตุ ที่จะต้องรู้ เพื่อจะได้หาทางแก้ไข เช่น 1. รายได้ไม่พอกับรายจ่าย หาเงินได้น้อย มีรายจ่ายมากกว่ารายได้ แม้จะพยายามประหยัดการใช้จ่ายอย่างมากที่สุดแล้วก็ตาม

แนวทางแก้ไข
กรณีนี้ก็ต้องพัฒนาตนเองในเรื่องอาชีพ การหาอาชีพเสริม หารายได้เพิ่มขึ้น หรือเปลี่ยนงาน ขยันทำงานมากขึ้น การเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพใหม่ๆ ทุกวันนี้มีสอนมากมายใน Youtube แทบทุกคนมีมือถือที่สามารถดูยูทูปได้ ก็อย่าเอาแต่เสพความบันเทิงไร้สาระ อย่าเอาแต่บ่นว่า เงินไม่พอใช้ แต่ ไม่ยอมพัฒนาตนเองในเรื่องการทำงาน หรือไม่ยอมทำงาน

 

2. รายได้เพียงพอแต่ใช้ชีวิตหรูเกินไป มนุษย์มีความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด จึงมักจะทำให้เงินไม่พอใช้

แนวทางแก้ไข
ทดลองใช้ชีวิตให้เรียบง่ายดูสักเดือน แล้วจะพบว่า รายจ่ายจะน้อยมาก เช่น เรื่องอาหารการกิน ให้เน้นกินข้าวเป็นหลัก ทั้ง 3 มื้อ อย่ากินของกิน เล่น หรือขนมขบเคี้ยว เป็นอาหารหลัก เพราะไม่อยู่ท้อง และสิ้นเปลืองเงินมากกว่า แทนที่จะเปิดแอร์ ลองเปิดพัดลม แต่ต้องใช้ขนาดเล็กสัก 2 ตัว ตัวหนึ่งดูดอากาศจากหน้าต่างหรือระเบียงเข้ามาในห้อง อีกตัวเปิดในห้องให้อากาศไหลเวียน ไม่ร้อน ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก

 

การใช้ชีวิตเรียบง่ายจะช่วยประหยัดเงินอย่างมาก หาโอกาสลองทำสักครั้ง เพื่อให้รู้ว่าต้องใช้เงินเท่าไรจึงจะเพียงพอต่อการเอาชีวิตรอดแบบ สบายๆ อยู่ได้ไม่ลำบาก ไม่อดๆ อยากๆ ไม่ใช่เอาแต่คิดว่า จะต้องมีเงินเท่าไรจึงจะทำให้ตัวเองมีความสุข คนส่วนใหญ่จะคิดแบบหลังมากกว่า ชีวิตจึงมีแต่ความทุกข์ในเรื่องการเงิน เพราะเงินไม่พอใช้

 

3. เงินไม่พอใช้ เพราะไม่รู้จักเลือกใช้เงินให้คุ้มค่า

แนวทางแก้ไข
ในการใช้จ่ายซื้อสินค้าต่างๆ เงินที่เราจ่ายออกไปนั้น ส่วนใหญ่เป็นกำไรของแม่ค้า เช่น ข้าวไข่เจียวจานละ 30 บาท ต้นทุนจริงๆ ไม่ถึง 10 บาท ที่ เหลือเป็นกำไรของพ่อค้าแม่ค้า ดังนั้นลองหาโอกาสทำอาหารกินเอง อุปกรณ์ทำอาหารพื้นฐานอย่างหม้อหุงข้าวไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์ ประจำตัวที่จำเป็น เพราะคนเราต้องกินอาหารทั้งชีวิต ดังนั้นจึงต้องทำอาหารกินเอง หรืออย่างน้อย หุงข้าวแล้วซื้อกับข้าวสำเร็จก็ยังประหยัดกว่า ซื้ออาหารตามสั่ง อย่างช่วงนี้ราคาอาหารตามสั่งปรับตัวขึ้นสูงมาก จานละ 40 บาท ขึ้นไป แต่.. ในตลาดสด ยังมีอาหารราคาถูก อย่างแกงถุงละ 20 - 30 บาท

 

คนทำงาน ไปทำงานเช้า เย็นกลับ ก็สามารถประหยัดเงินในเรื่องค่าอาหารได้ อาจซื้อตู้เย็นไว้แช่อาหาร ซื้ออุปกรณ์ทำอาหาร หม้อหุ้งข้าว ไฟฟ้าที่มีซึ้งนึ่งอาหาร จากนั้นก็หุงข้าวกินเองมื้อเย็นกับมื้อเช้าเป็นหลัก นำอาหารที่แช่ตู้เย็นไว้มาอุ่น หรือซื้อแกงไว้กินมื้อเย็นกับมื้อเช้าที่บ้่าน ซื้อ อาหารเฉพาะมื้อเที่ยง หากทำได้อย่างนี้ก็จะช่วยประหยัดเงินในแต่ละวันไม่น้อยเลยทีเดียว

 

สินค้าต่างๆ ที่เราจำเป็นต้องใช้ในแต่ละวัน แต่ละเดือนยังมีอีกมาก เช่น กาแฟ ชั่วโมงเน็ต เครื่องดื่มต่างๆ ล้วนต้องจ่ายเกินจริงทั้งสิ้น กาแฟ แก้วละ 50 บาท ต้นทุนค่ากาแฟ อาจจะไม่เกิน 15 บาท ที่เหลือเป็นกำไรของทางร้าน เป็นราจ่ายค่าพนักงาน เป็นต้น หากใช้เงินให้คุ้มค่า ก็จะ ช่วยประหยัดเงินหลักพันบาทต่อเดือน หรือหลักหมื่นบาทต่อปีเลยทีเดียว .

 

เงินพอใช้แต่ไม่มีเก็บ

บางคนนั้นมีรายได้ในแต่ละเดือนเพียงพอต่อการดำรงชีวิตได้อย่างสบายๆ แต่ใช้เงินเก่งมาก จึงไม่มีเงินเกิบเลย แล้วจะทำอย่างไรดีหนอ?

แนวทางแก้ไข
เมื่อเงินเดือนออก ให้หักเงินส่วนเกินจากค่าใช้จ่ายประจำเดือนไปลงทุนในรูปแบบต่างๆ เช่น มีรายรับเดือนละ 10,000 บาท มีรายจ่ายประจำ เดือนค่าเช่าห้อง ค่าน้ำมันรถ ค่าอาหาร ฯลฯ รวมเป็นเงิน 8,000 บาท เหลือ 2,000 บาท ก็รีบนำเงิน 2,000 บาท ไปลงทุน อาจจะหาซื้อของ มาขายในเน็ต ขายผ่านเฟสบุ๊ค โดยเน้นสินค้าที่ไม่บูดไม่เน่า มีโอกาสขายได้เรื่อยๆ วิธีนี้ก็จะช่วยให้มีเงินเพิ่มมากขึ้น ถ้าสินค้าสามารถขายได้ทุกวัน ก็จะมีเงินเข้ามาทุกวัน มีโอกาสที่จะมีเงินเก็บ

 

แต่ทั้งนี้ ห้ามเข้าไปข้องเกี่ยวกับการพนันอย่างเด็ดขาด เพื่อนผู้เขียนบางคนชอบเล่นการพนัน เมื่อทำงานและเก็บเงินได้มากๆ ก็จะไปเล่นการ พนัน ทำให้เงินหลักแสนบาท หมดเกลี้ยงทันที ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้ พอเงินหมด ก็คิดได้ พอมีเงินมาก ก็ไปเล่นอีก เพราะคิดว่า เอาน่า เงินเยอะ ไม่มีปัญหา แต่พอไปเล่นการพนัน ก็ทำให้หมดตัวทุกที สุดท้ายก็ไม่มีเงินเก็บเลย

 

การพนันนั้นน่ากลัว เพราะในการเล่นนั้น ไม่มีข้อห้ามในเรื่องเงินที่จะต้องใช้ อยากเล่นเท่าไร ก็ไม่มีใครห้าม ทำได้เต็มที่ หากพลาด เงินหลัก แสน หลักล้าน ก็ไม่เหลือ และห้ามไปข้องแวะกับคนเล่นการพนันอย่างเด็ดขาด เพราะคนเหล่านี้มักจะขอหยิบยืมเงิน แล้วก็ไม่สามารถจ่ายคืนได้ สุดท้าย ก็อาจพาหมดตัวไปด้วยเช่นกัน ยิ่งเป็นคู่ครองกันด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวัง บางคนหมดตัวเพราะคู่ของตนติดการพนัน

 

ใช้เงินหมดก่อนสิ้นเดือน

ปัญหาใช้เงินเก่ง และใช้หมดก่อนสินเดือน น่าจะเป็นปัญหาของมนุษย์เงินเดือนอย่างมาก หลายคนมีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะทันทีที่เงินเดือน ออก ก็ใช้จ่าย กิน เที่ยว ดื่ม อย่างสนุกสนาน บางคนแค่ต้นเดือนเท่านั้น เงินก็แทบหมดแล้ว บางคนจะลำบากมากในช่วงปลายเดือน เพราะเงิน แทบไม่เหลือแล้ว

แนวทางแก้ไข
หากพบว่าตัวเองใช้เงินแก่งมาก ใช้เงินหมดเร็วมาก ทำให้ชีวิตช่วงปลายเดือนค่อนข้างลำบาก ก็ต้องหาวิธีควบคุมการใช้เงิน เช่น 1. เปิดบัญชีธนาคาร โดยไม่ทำบัตร ATM จากนั้นก็ตั้งให้โอนเงินเข้าบัญชีสำหรับใช้จ่ายทุกอาทิตย์ เช่น โอนเงินทุกวันอาทิตย์ เป็นต้น อย่าตั้งให้ โอนทุกวันศุกร์ หรือเสาร์ เพราะเป็นวันหยุดงาน มีโอกาสเที่ยว กิน ดื่ม ใช้เงินหมดเร็ว กรณีนี้ก็จะใช้เงินหมดไปในแต่ละอาทิตย์เท่านั้น ไม่หมดทั้ง เดือน ชีวิตในแต่ละเดือนจะไม่ลำบากมาก อาจจะไม่มีเงินเก็บเลย แต่ก็ไม่ถึงกับลำบากมากนัก

 

2. หากวิธีแรก ใช้ไม่ได้ผล ยังควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีจ้างคนช่วยดูแลเรื่องเงิน อาจจะเป็นพอ่แม่ พี่น้อง โดยใช้การโอนเงินเข้าไปไว้ใน บัญชีของพ่อแม่ พี่น้อง แล้วให้โอนเงินมาให้ทุกอาทิตย์ โดยอาจจะจ่ายเงินตอบแทน เช่น การโอนแต่ละครั้งคิดเงิน 100 บาท วิธีนี้ก็จะช่วยให้มีเงิน เหลือ ไม่ลำบากในช่วงปลายเดือน

 

มีเงินเหลือใช้แต่มีความทุกข์ใจ

คนส่วนใหญ่มีความเชื่อผิดๆ ว่า มีเงินแล้วจะทำให้มีความสุข เพราะคิดว่าเงินนั้น สามารถซื้อทุกอย่างได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาจไม่เป็น อย่างที่คิด บางคนเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิต เพราะได้ผ่านมาหมดทุกอย่างแล้ว มีเงิน แต่ก็ไม่มีความสุข หรือมีเงินแต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหา บางอย่างได้ เช่น มีแฟนที่เริ่มบ่น ทำตัวน่ารำคาญ จะเลิกก็ไม่ได้ มีลูกต้องรับผิดชอบร่วมกัน ก็กลายเป็นความทุกข์ใจอย่างหนัก ที่ยากจะ แก้ไข

 

บางคน ก็มีปัญหากับคู่ครอง หรือคนในครอบครัว ลูกหลาน ไม่ยอมทำงาน ทำการ เพราะเห็นว่า คู่ของตน หรือพ่อแม่ หรือลูกหลานร่ำรวยแล้ว จึงแบมือขอเงินอย่างเดียว ไม่ยอมทำอะไร หรือทำงานก็ไม่เป็นชิ้น เป็นอัน กลายเป็นความทุกข์ใจ ที่ได้แต่รอให้ตายจากกันไปข้าง ปัญหาจึงจะจบ เพราะตัดกันไม่ขาด ตัดกันไม่ได้

 

บางคนหนักกว่านั้น สร้างแต่ปัญหาให้ลูกหลาน หรือพ่อแม่ต้องตามแก้ โดยเฉพาะในเรื่องเงิน บางคนเห็นว่าคู่ของตน สามารถหาเงินได้มาก ก็ ใช้จ่ายมาก ใช้ชีวิตเหนือระดับมากยิ่งขึ้น เช่น จะต้องไปเที่ยวต่างประเทศทุกปี จะต้องใช้รถยนต์ มือถือ รุ่นล่าสุดเสมอ เปลี่ยนรถทุก 5 ปี ฯลฯ สร้างความทุกข์ใจให้กับคนหาเงิน บางคนก็รู้สึกว่า ตัวเองเป็นเหมือนทาสรับใช้ เพราะพอแต่งงานกันและมีลูก ก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเอาลูกเป็นตัว ประกัน ต้องทำอย่างนั้น อย่างนี้ ทุกอย่างที่ให้ลูกต้องดีที่สุด แพงที่สุด ฯลฯ

 

แนวทางแก้ไข
1. ความสุขทางใจที่แท้จริง เป็นความสุขที่ใช้เงินซื้อไม่ได้ ต้องใช้ความเข้าใจ ธรรมชาติและธรรมะ เพื่อพบว่าชีวิตเริ่มเกิดความเบื่อหน่าย แม้จะมี เงินมากมาย ก็รู้สึกว่าไม่มีความสุข ก็จงหันหน้าเข้าหาธรรมะ เพื่อนผู้เขียนบางคน มีทุกอย่างเพียบพร้อม การงานดี รายได้ดี มีครอบครัวที่ดี แต่ ลึกๆ ในใจกลับเกิดความรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างมาก เพราะอะไรๆ ก็ผ่านมาหมดแล้ว เบื่อหน่ายมากจนกระทิ่งเกิดความคิดอยากจะฆ่าตัวตาย

 

2. ส่วนกรณีของคนรอบตัว คู่ครอง บุตรหลาน ญาติพี่น้อง หยิบยืมเงิน แบมือขอเงิน ไม่ยอมทำงานเป็นชิ้นเป็นอัน ก็ต้องเปิดใจคุยกับ คนมี เงินต้องเป็นใหญ่ หากตามใจคนรอบข้างที่ไม่มีวินัยการเงิน ใช้เงินไม่ป็น ยิ่งตามใจ ก็มีแต่จะสร้างปัญหาตามมา บางคนมาทำงานต่างถิ่น ได้เงินก็ ส่งกลับบ้านไปให้พ่อแม่ ซึ่งก็ใช้เงินกันอย่างสบายใจ ส่งไปเท่าไรก็หมด ในวันที่ลูกหลานกลับมาอยู่บ้าน ด้วยหวังว่าจะสบาย เพราะส่งเงินกลับมา ให้ทุกเดือน แต่ปรากฏว่า พ่อแม่พี่น้องใช้เงินจนหมดเกลี้ยง บางรายสร้างหนี้ให้ต้องตามจ่ายอีกต่างหาก ส่วนคนมีคู่บางคน เงินเดือนตัวเองไม่พอใช้ เพราะใช้เงินเกินตัว สร้างปัญหาให้อีกฝ่าย ก็ต้องคุยกัน เรื่องเงินนั้นอย่าไปตามใจใคร อย่าให้เงินใครง่ายเกินไป และไร้เหตุผล เพราะมีแต่ทำให้ เสียคน สร้างสารพัดปัญหาตามมาเสมอ

 

3. การเปลี่ยนนิสัยคนรอบตัวนอกจากใช้การบอกกล่าว การสอนสั่งแล้ว ในบางกรณีอาจจะไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ เพราะตัวเองเด็กกว่า ก็ ต้องใช้การวางตัว เช่น วางตัวเป็นคนมีวินัยการเงิน ประหยัด ขยันทำงาน รู้จักใช้เงินอย่างคุ้มค่า ส่วนใครก็ตามที่จะเข้ามาหา จะมาแบมือขอเงิน ยืม เงิน หรือขอความช่วยเหลือใดๆ ก็จะเกิดความเกรงใจ คนไม่ทำงาน จะต้องไม่ให้ความช่วยเหลือ ไม่คลุกคลี ให้ความสนิทสนมกับคนประเภทนี้ ทำ ให้คนเหล่านั้นรู้ว่า เราไม่ชอบที่เขามีพฤติกรรมแบบนั้น ตั้งกำแพงป้องกันตัวเองไว้ก่อน เพราะขืนไปข้องเกี่ยวก็จะมีแต่ปัญหาตามมา

 

การให้เงินก็ต้องช่วยทำงานตอบแทน เพราะการให้เงิน ให้ความช่วยเหลือการเงินอย่างขาดสติ จะทำให้คนรอบตัวเสียคน กลายเป็นคนเห็นแก่ ตัว และสร้างปัญหาตามมา กับคนในครอบครัว คนใกล้ชิดกัน ยิ่งต้องระวังให้มาก เพราะเวลาเกิดปัญหาจะหนักกว่าคนไกลตัว ก่อนจะให้เงินใคร ต้องศึกษาข้อดีข้อเสียให้รอบด้านเสียก่อน ศึกษานิสัยใจคอของคนรับ เป็นคนดี หรือไม่ดี หากเป็นคนไม่ดี การให้เงินบ่อยๆ ให้เงินง่ายเกินไป จะ ทำให้คนเหล่านั้นเสียคน สร้างปัญหาตามมาในภายหลัง เพราะเมื่อขอแล้วไม่ให้ ก็จะเริ่มออกฤทธิ์ อาจจะด่าว่า เนรคุณ บ้าง ได้ดีแล้ว เอาตัวรอด คนเดียว คำพูด คำด่าจะเริ่มรุนแรมากขึ้น หากไม่ได้รับการสนองตอบ เป็นต้น

 

ปัญหาการขอเงิน หยิบยืมเงิน ถูกเบียดเบียนเรื่องเงิน

เมื่อเริ่มมีรายรับมากขึ้น มีเงินมากขึ้น ก็อาจจะมีคนรอบข้าง คนในครอบครัว ญาตสนิท มิตรสหาย ต่างพากันหยิบยืมเงิน กลายเป็นปัญหา ปวดหัว กับการยืมแล้วไม่คืนบ้าง บางคนมีตำแหน่งหน้าที่การงานดี ก็จะถูกขอให้ช่วยค้ำประกันการกู้เงินหรือผ่อนสินค้า อาจจะสร้างปัญหาตามมา ต้องรับผิดชอบเรื่องหนี้สินแทน ในฐานะคนค้ำประกัน

แนวทางแก้ไข
เมื่อเริ่มมีเงิน มีรายได้มากขึ้น จะต้องศึกษาปัญหาการเงินที่จะตามมาในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะคนรอบตัว คนในครอบครัวที่อาจจะพากันแบมือขอ เงิน หรือหยิบยืมเงินแต่ไม่คืน หรือเข้ามาควบคุมการเงินของเรา ต้องวางแผนป้องกันตั้งแต่แรก อย่าคิดว่าปัญหาเรื่องเงินจะไม่เกิดกับตัวเอง เช่น คนในครอบครัวยืมเงินแล้วไม่คืน หรือพยายามมาวุ่นวายกับการเงินของเรา เมื่อลูกทำงานมีรายได้ พ่อแม่บางคน ก็ทำหน้าที่ดูแลการเงิน ควบคุม การเงินไว้ทั้งหมด ไปๆ มาๆ ยึดเป็นของตัวเองทั้งหมดก็มี ในวันที่ลูกอยากจะนำเงินไปทำธุรกิจหรือมีเหตุให้ต้องใช้จ่าย ก็ไม่สามารถทำได้

 

การเป็นข้าราชการ หรือมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี ก็ต้องระวังตัวเรื่องการคบคน เพราะปัญหาน่าปวดหัวอย่างหนึ่งก็คือ การถูกไหว้วานให้ ช่วยค้ำประกันการผ่อนหรือกู้เงินแบบต่างๆ ต้องใจแข็งที่จะไม่ช่วยเหลือ ทะเลาะกันครั้งแรกไปเลย ดีกว่าทะเลาะกันภายหลัง เช่น หากมีคนรอบ ตัวมาขอให้ช่วยค้ำประกันการผ่อนรถ ก็ควรปฏิเสธ โดยเฉพาะหากพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่น่าจะผ่อนไหว ก็แนะนำทางเลือกอื่น อย่างการใช้รถมือ สอง ซื้อสดไม่ต้องผ่อน รอให้พร้อมจริงๆ เป็นต้น บางคนเป็นข้าราชการ ก็ไม่คบใคร ไม่เอาญาติพี่น้อง ตัดปัญหาในเรื่องนี้ ไม่อยากจะปวดหัว ยอม โดนเกลียด ดีกว่ามานั่งเครียดเพราะต้องรับภาระจ่ายหนี้แทน

 

การบริหารเงินหัวใจสำคัญที่จะทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องเงิน

เงินอาจจะนำมาซึ่งความสุข สามารถใช้เงินสร้างความสุขชั่วคราวให้เราได้ แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว จะพบว่า เงินนำมาซึ่งปัญหามากกว่า ความสุข เมื่อเริ่มมีเงิน ยิ่งมากเท่าไร ก็ต้องเตรียมใจรับมือกับปัญหาเรื่องเงิน ซึ่งมักจะตามมามากเช่นกัน นอกจากศึกษาปัญหาการเงินให้รอบ ด้านแล้ว ก็ต้องศึกษาวิธีบริหารเงิน เพื่อให้เงินงอกเงย เพิ่มมากขึ้น โดยที่เราไม่ต้องทำงาน การรู้จักบริหารเงิน อาจจะช่วยให้มีเงินในอนาคต มากกว่าการทำงานทั้งชีวิต เช่น การซื้อที่ดิน ซื้อบ้าน ตึก อาคารพาญิชย์เก็บไว้ขายทำกำไรในอนาคต บางคนสามารถขายได้ราคาหลายเท่าตัว มากกว่าเงินที่ได้จากการทำงาน นี่คือตัวอย่างการรู้จักบริหารเงิน

ส่วนวิธีที่ช่วยให้ชีวิตไม่มีปัญหาการเงิน ไม่ปวดหัวเรื่องเงิน ก็ต้องใช้ชีวิตเรียบง่าย ใช้เงินเฉพาะในสิ่งที่จำเป็น หาเงินได้มากเท่าไรก็อย่าไปสนใจ อะไรกับมันมาก ใช้เงินทำบุญบ้าง ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง โดยเฉพาะคนที่สมควรจะได้รับความช่วยเหลือ อย่าใช้เงินในสิ่งที่จะทำให้ชีวิตเกิดปัญหา ตามมา อย่างเรื่องอบายมุขทั้งหลาย คนไม่ดีทั้งหลาย

 

การใช้เงินในเรื่องใด แล้วมีโอกาสสร้างปัญหาตามมา ก็ต้องหยุด ห้ามทำอย่างเด็ดขาด บางคนเรียนจบ ได้งานก็รีบผ่อนรถยนต์ป้ายแดงทันที แบบนี้ไม่ควรทำ เพราะมีโอกาสพลาด หากการงานมีปัญหา หากทำได้ตามนี้ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเงินมารบกวนอย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยาก มาก น้อยคนจะสามารถทำได้ คนส่วนใหญ่จึงมีปัญหาเรื่องเงิน อาจจะมากบ้างหรือน้อยบ้าง ตามแต่ความอยากได้ อยากมี อยากเป็นของแต่ละคน ใครสามารถหยุดความอยากและใช้ชีวิตเรียบง่ายได้ คนนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องเงินมารบกวน