เมื่อเกิดความผิดพลาดหรือเกิดปัญหาใดๆ เกี่ยวกับเรื่องใดก็ตาม คนส่วนใหญ่มักจะชอบกล่าวโทษคนอื่นหรือโทษปัจจัยภายนอก มากกว่า โทษตัวเอง มีแต่คนฉลาดเท่านั้นที่จะโทษตัวเองและพยายามปรับปรุงแก้ไขตนเองไม่ให้เกิดความผิดพลาดซ้ำอีก เพราะรู้ดีว่า การโทษคนอื่นนั้น ไม่มีประโยชน์อะไร โดยเฉพาะกับคนที่คิดไม่ได้เลย และหากคนที่โดนกล่าวโทษไม่ได้ผิดจริง ก็จะเกิดความโกรธแค้น มีแต่ปัญหาตามมา
ทั้งการชอบโทษคนอื่น และโทษตัวเอง ต่างก็มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ควรรู้ให้ลึกซึ้ง เพื่อจะได้หาทางปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง หรือ รับ มือกับพฤติกรรมของคนรอบข้างที่มีนิสัยแบบนี้ เพราะบางคนนั้น ไม่เพียงชอบโทษคนอื่น แต่ยังแถ และพาลอีกต่างหาก เมื่อพบว่าตัวเอง เป็น ฝ่ายผิดแต่ไม่ยอมรับ คนประเภทนี้มีเยอะมากในสังคมไทยเรา และอาจจะเป็นอันตรายกับเราด้วยเช่นกัน
ข้อดี ข้อเสีย ของการชอบโทษคนอื่น
ข้อดีของการชอบโทษคนอื่นนั้นมีน้อยมาก และบุคคลผู้นั้นจะต้องมีพระเดชพระคุณ ชี้เป็นชี้ตายคนที่โดนตำหนิหรือกล่าวโทษได้ ต้องมี คุณธรรม มีเหตุผล กล่าวโทษเพื่อให้ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ไม่ใช้อารมณ์ หรือกลั่นแกล้ง หากผิดไปจากนี้ ก็มักจะเป็นการสร้างศัตรูเสียมากกว่า เพราะไม่มีใครที่ไม่โกรธเมื่อมีคนมากล่าวโทษตนเอง แม้จะเป็นฝ่ายผิด หรือสมควรโดนกล่าวโทษก็ตาม
การชอบกล่าวโทษคนอื่น บางคนก็กลายเป็นนิสัย และสันดาน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ก็ต้องโทษคนอื่นไว้ก่อน ตัวเองนั้นดีที่สุด ไม่เคยมีข้อผิด พลาดใดๆ ไม่เคยทำอะไรผิดทั้งสิ้น แม้จะเห็นอยู่ตำตา หลักฐานแน่นหนา ก็ยังไม่วายไปกล่าวโทษคนอื่น คนแบบนี้ยากจะพบความสุข เช่น
1. กลายเป็นคนคิดลบ ชอบจับผิดคนอื่น คิดแต่เรื่องไม่ดี ก็เหมือนฉีดสารพิษใส่ตัวเอง เพราะสร้างสิ่งไม่ดีใส่ตัวเองตลอดเวลา
2. กลายเป็นคนเจ้าอารมณ์ ขี้หงุดหงิด เอาแต่ใจตัวเอง ไม่พอใจหากใครทำให้ขัดใจ และพร้อมจะโทษคนอื่นทันที ว่าเป็นสาเหตุ ซึ่งสาเหตุก็มา จากการชอบโทษคนอื่น คิดแต่เรื่องไม่ดีใส่ตัวเองตลอดเวลา และส่งผลให้เป็นเช่นนี้
3. ในใจไม่มีความสุข เพราะมีแต่อารมณ์ขุ่นเคืองอยู่ตลอดเวลา เพราะในใจคิดแต่เรื่องไม่ดี หรือเก็บเรื่องไม่ดีไว้กับตัวมากเกินไป ยิ่งบางเรื่องใน อดีตที่เป็นเรื่องใหญ่ เรื่องคอขาดบาดตาย ก็อาจจะก่นด่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องแทบทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนั้น
4. กลายเป็นคนขี้อิจฉา ใครเด่นกว่าตัวเองไม่ได้ และมักจะหาคำพูดไม่ดี มากว่าร้าย หรือกล่าวโทษคนเหล่านั้น
5. ไม่มีใครอยากคบ ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ หรือคบหา เพราะกลัวว่าหากทำสิ่งใดไม่ถูกต้อง ก็จะถูกกล่าวโทษ ถูกตำหนิ โดนด่า ทำให้เสียความ รู้สึก
6. มีแต่ความอาฆาตแค้น บางคนอาจจะเคยมีปัญหาร้ายแรงเกิดขึ้นในชีวิต ก็จะเกิดความอาฆาตแค้น คนที่เป็นสาเหตุไม่ว่าจะทางตรงหรือทาง อ้อม หรือมีส่วนเข้ามาเกี่ยวของกับเหตุการณ์นั้นๆ แม้จะไม่ได้เป็นคนผิดเลยก็ตามที ขอแค่เข้ามาเกี่ยวข้องก็โดน คนเหล่านี้จะมีคำพูดที่สวยหรู เพื่อโทษคนอื่นอยู่เสมอ หากตัวเองทำอะไรผิดไป บางทีก็จะโทษคนรอบข้างว่าทำไมไม่มีใครห้าม ถ้าคนนั้นช่วยห้าม ช่วยเตือน ก็คงจะไม่เกิด เรื่องไม่ดี เป็นต้น
7. เกิดความโกรธแค้น คนรอบตัวที่ตีจาก เมื่อคนรอบตัวรู้ว่า เป็นคนชอบโทษคนอื่น ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แทนที่จะสำนึก คิดได้ แต่บางคนจะ ยิ่งเกิดความโกรธแค้นคนรอบข้าง คิดไม่ได้เลยว่า ตัวเองนั้นผิด หรือไม่ดีอย่างไร ทำไมไม่มีใครอยากคบหา เอาแต่โทษคนรอบตัว
หากเจอะเจอคนประเภทนี้ ต้องพิจารณาให้ดี ก่อนตัดสินใจคบกันอย่างลึกซึ้ง หากเห็นว่าเป็นคนชอบโทษคนอื่น ก็ต้องวางตัวให้ดี วางระยะ ห่างในการคบกัน อย่าให้สนิทกันมากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่าย สามารถโทษตนเองได้ เพราะบางคนนั้น แค่เอ่ยปากขอความช่วยเหลือ แล้ว คนรอบตัวไม่ช่วย ก็เกิดความอาฆาตแค้นอย่างมาก คนที่ชอบโทษคนอื่น แม้จะเป็นเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่วายเก็บมาคิด เจ้าคิดเจ้าแค้น และบาง คนที่อาการหนักมาก แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็จะพยายามทำให้เรื่องใหญ่โต จัดใหญ่ ต้องแรง ต้องสะใจ
เหตุผลสำคัญที่ไม่ควรยุ่งกับคนเหล่านี้ เพราะบางคนนั้นมีความอาฆาตรุนแรงมาก แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี ก็ยังไม่หยุดแรงอาฆาต ทั้งๆ ที่ ตัวเองเป็นฝ่ายผิดก็ตาม ก็ยังแถ ยังไม่ยอมรับ ยังพยายามโยนความผิดให้คนอื่น การคบคนแบบนี้ จึงต้องวางระยะห่างให้ดี โดยเฉพาะหากคน ผู้นั้น มีอำนาจ มีอิทธิพล เป็นบุคคลอันตราย ก็จะไม่เป็นผลดีกับตัวเองอย่างแน่นอน และสำคัญที่สุด หากคนๆ นั้นเป็นคู่ครอง คนรัก ด้วยแล้ว ก็จะสร้างปัญหาปวดหัวมากที่สุด อย่างหลังนี้ คนทั่วไปมีโอกาสเจอมากที่สุด และแก้ปัญหายากมากที่สุด ต้องเลิกรากันไปเท่านั้น จึงจะจบ ปัญหาลงได้
คนที่ชอบโทษคนอื่นจะมีนิสัยอย่างไร
สำหรับคนที่ชอบโทษคนอื่นจะมีนิสัยโดยรวม จะเป็นคิดลบ เห็นแก่ตัว คิดถึงแต่ตัวเอง หรือเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สามารถคุยกันเรื่องเหตุผลได้ เรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องรู้ เมื่อคบกับใครก็ตาม โดยเฉพาะคนที่คิดว่าจะคบกันเป็นคู่ครอง ต้องรู้ว่าคนๆ นั้น มีลักษณะเป็นคนชอบโทษคน อื่นหรือไม่ สามารถคุยเรื่องเหตุผลรู้เรื่องหรือไม่ ถ้าเป็นประเภทชอบโทษคนอื่น ก็ต้องวางตัวให้ห่าง เพื่อให้คนเหล่านั้นรู้ถึงระดับความสัมพันธ์ ที่ไม่ใกล้ชิดมากนัก ก็จะไม่กล้ากล่าวโทษ
กรณีศึกษาคนที่ชอบโทษคนอื่นที่ต้องระวังตัว
ตัวอย่างต่อไปนี้จะเป็นประสบการณ์ตรงที่ผู้เขียนประสบมาเอง
1. คนที่เคยประสบความสำเร็จ เคยมีอำนาจ เคยเป็นใหญ่เป็นโต คนเอาแต่ใจตัวเอง เอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ตัวเองถูกไปทุกเรื่อง และ พร้อมจะหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาเข้าข้างตัวเอง คนอื่นผิด ตัวเองไม่เคยผิด เพราะชีวิตยังลงไม่ได้ เคยเป็นหมายเลข 1 จึงไม่ยอมใคร คนอื่น ต้องผิด แต่ตัวเองถูกอยู่คนเดียว ในชีวิตจริง คนรอบตัวเรา อาจจะเป็นคนในครอบครัว รุ่นพี่ รุ่นลุง ป้า น้า อา หรือญาติผู้ใหญ่
2. คนทั่วไประดับชาวบ้าน ระดับล่างๆ ลองออกมาใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้าน ก็จะมีโอกาสเจอคนแบบนี้ บางคนมีบ้านติดแม่น้ำ ก็จะให้อาหารปลา หลังบ้าน แต่ชาวบ้านในพื้นที่ก็มาจับปลาตรงนั้น ไม่ไปจับที่อื่น โดยอ้างเหตุผลว่า เป็นที่สาธารณะ ใครก็จับได้ และการให้อาหารปลาหลังบ้าน แบบนี้ ปลาก็มารวมตัวอยู่ตรงนี้ ที่อื่นไม่มี สรุปแล้ว คนให้อาหารปลา เป็นคนผิด
3. คนที่มีนิสัยลักขโมย บางคนจะมีเหตุผลที่สวยหรูว่า ก็ไปขอเงินดีๆ แล้วไม่ให้ ก็เลยต้องขโมย ต้องปล้น ก็ให้ก็คงจะไม่ขโมย
4. คนแก่ คนสูงวัย เป็นกันมาก มนุษย์ลุง มนุษย์ป้า อย่างที่ชอบพูดกันนั่นเอง คนอื่นผิด ตัวเองถูกอยู่คนเดียว คนเหล่านี้ต้องระวัง วางตัวให้ห่าง สังเกตุง่ายๆ ก็คือ คนเหล่านี้จะคิดลบมาก พูดลบ คิดไม่ดี พูดไม่ดี เห็นแก่ตัว คนแบบนี้ในสังคมเราก็มีมาก
เรื่องสำคัญมากที่จะต้องรู้ก็คือ การวางแผนให้ไปติดกับดัก เพื่อจะได้โยนความผิดให้ บางคนหัวหมอมากกว่านั้น เวลาจะทำอะไร ก็จะถาม คนรอบข้างก่อน หรือขอให้คนรอบข้าง ช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ เพื่อที่ว่า หากเกิดความผิดพลาด หรือปัญหาใดๆ ตามมา ก็จะได้โทษคนแนะนำ หรือคนที่ให้ความช่วยเหลือ ส่วนตนเองนั้นไม่ผิด
ผู้เขียนชอบช่วยเหลือคนอื่น อย่างการสอนคนสูงวัยใช้คอมพิวเตอร์บ้าง ใช้มือถือบ้าง แต่ก็เจอกับบางคนที่ทำให้รู้สึกเข็ดขยาดไปเลย เพราะ เครื่องเขามีปัญหา และโทษว่า เป็นเพราะผู้เขียนเป็นต้นเหตุ ก่อนหน้านั้น เครื่องไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังจากผู้เขียนไปใช้มือถือของเขาแล้ว เสียงก็ไม่ดัง
โชคดีที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด มือถือเครื่องนั้น ใช้งานมานาน และชอบเปิดเสียงดัง ทำให้ลำโพงแตก มีปัญหา เสียง เบามาก อาการนี้ บ่งบอกว่า ลำโพงใกล้จะมีปัญหาแล้ว ก็มาโทษว่าผู้เขียน เป็นสาเหตุ ทำให้เสียงของมือถือมีปัญหา ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปยุ่งอะไรกับ เสียงเลย สุดท้ายเจ้าตัวก็ต้องยอมรับ เพราะจำนนด้วยหลักฐาน ไม่สามารถกล่าวโทษอะไรได้อีก เพราะสาเหตุมาจากเครื่องมีปัญหาจริงๆ ไม่ เกี่ยวกับผู้เขียนเลย แม้แต่น้อย
บรรดาคนรอบข้างผู้เขียน ก็ยังมีบางคนที่ต้องเจอปัญหาแบบเดียวกัน โดนกล่าวโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องใกล้ตัวเรา มากๆ จึงต้องรู้ให้เท่าทัน เพื่อจะได้เตรียมรับมือ เพราะบางเรื่องอาจจะสร้างปัญหาใหญ่มากตามมา ตามระดับความเสียหายที่เกิดขึ้น
ข้อดีข้อเสียของการโทษตัวเอง
การโทษตัวเองจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย คนมีปัญญาจะโทษตัวเองไว้ก่อน เพราะความผิดพลาดใดๆ ก็ตามที่ตัวเองมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออาจ เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาที่เกิดขึ้น เราต้องหาทางแก้ไขตัวเอง ปรับปรุงตัวเอง ต้องแก้ปัญหาแบบนี้
ถ้าแต่ละคน คิดแบบนี้ เป็นคนแบบนี้ แม้จะมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ก็จะน้อยที่สุด เพราะต่างคนก็จะพยายามแก้ไขตัวเอง ไม่มีการเอาแต่ โทษคนอื่น ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด ก็ตาม
การโทษตัวเอง จะทำให้เรารู้ว่า ทำผิดเรื่องใด อย่างไร และปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดียิ่งขึ้น ส่วนคนรอบข้าง คนรอบตัวเรานั้น เราอยากจะให้ ปฏิบัติตัวกับเราอย่างไร ก็อยู่ที่การวางตัวของเรา หากมีนิสัยที่ต่างกัน อย่างเราเป็นคนใจดี แต่อีกฝ่ายเป็นคนเห็นแก่ตัว ก็อย่าได้ให้โอกาสอีก ฝ่ายได้เอาเปรียบเรา อย่าเปิดโอกาส หรือไม่สนใจ ไม่คบหาสมาคมด้วย วางตัวห่างๆ แม้ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง คนในครอบครัวก็ตาม ทำให้คนๆ นั้นรู้ตัวเองว่า เป็นคนไม่ดี เราจึงไม่อยากจะคบ ปัญหาต่างๆ ก็จะไม่เกิด เป็นต้น
ป้องกันไม่ให้โทษตัวเองด้วยการไม่ทำเรื่องไม่ดี
ความผิดพลาดใดๆ ก็ตามจะส่งผลกระทบต่อตัวเราอย่างรุนแรงมาก หากเกิดความรู้สึกผิดในสิ่งที่ได้กระทำลงไป และไม่มีโอกาสได้แก้ตัว ดังนั้น ก่อนจะลงมือทำอะไรที่อาจจะส่งผลเสียตามมาในอนาคต ก็ต้องรู้จักยับยั้งชั่งใจ เช่น
- การขับรถที่มีผู้โดยสารเต็มคัน อย่าได้คึกคะนอง จนเกิดอุบัติเหตุ พิการ หรือเสียชีวิต บางคนรู้สึกผิด และเอาแต่โทษตัวเอง กลายเป็นเหมือน บาปในใจ ที่ไม่มีโอกาสแก้ตัว หรือ ชดใช้ความผิด
- การคบกัน บางคู่ ก็อาจจะจากกันด้วยดี บางคู่ก็จากกันไม่ดีนัก การทำเรื่องผิดต่ออีกฝ่าย ก็จะทำให้รู้สึกผิด และไม่มีโอกาสแก้ไข กลายเป็น เรื่องทีทำให้ต้องทุกข์กาย ทุกข์ใจ
- การทำสิ่งใดก็ตาม ที่มีโอกาสทำให้เกิดความเดือดร้อน เกิดปัญหาตามมา โดยเฉพาะเรื่องที่มีโอกาสทำให้คนรอบตัวต้องเดือดร้อน ไม่ได้เดือด ร้อนเพียงคนเดียว ก็ไม่ควรทำ ต้องใช้สติพิจารณาให้รอบด้าน
ไม่ว่าจะเป็นการชอบโทษคนอื่น หรือ โทษตัวเองก็ตาม ก็ไม่ใช่เรื่องดีทั้งสิ้น คนชอบโทษคนอื่น ก็จะไม่มีใครอยากจะคบหา คนที่ชอบโทษตัว เอง ก็จะทำให้ตัวเองมีแต่ความทุกข์ใจ ทุกข์กาย อาจจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถทำได้ ง่ายๆ
1. การคบกับคนที่ชอบโทษคนอื่น
คนแบบนี้ควรหลีกเลี่ยง หรือ วางระยะห่างให้ดี อย่าให้ความใกล้ชิตสนิทสนมกันมาก หรือเป็นได้แค่เพื่อนกิน เพื่อนคุยเท่านั้น ส่วนการจะให้ ความช่วยเหลือเรื่องใด ต้องบอกไว้ก่อน ต้องตกลงกันก่อน ร่างเงื่อนไขให้อ่านก่อน เพราะหากมีสิ่งผิดพลาดขึ้นมา จะไม่โดนกล่าวโทษ
คนแบบนี้ก็มีไม่น้อย ที่ไม่รู้ตัว และไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหาในเรื่องนี้ ดังนั้น จึงไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ใครอยากจะคบ ก็ต้องยอมรับ ในพฤติกรรมแบบนี้ของตนเอง บางคนนั้นก็ควบคุมตัวเองได้ดีมาก ใครไม่คบ ก็อยู่คนเดียวได้ แต่ใครอยากจะคบ ก็ต้องยอมรับในพฤติกรรมไม่ ดีแบบนี้
2. การโทษตัวเอง
เพื่อป้องกันปัญหานี้ ไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกผิดในภายหลัง ก่อนจะทำอะไรก็ตาม หากเป็นเรื่องไม่ดี ไม่ถูกต้อง ต้องรู้จักหักห้ามใจ อย่าได้ กระทำอย่างเด็ดขาด เวลาใครบอก ใครสอนเรื่องอะไร ก็ฟังบ้าง เก็บมาคิดบ้าง และศึกษาเพิ่มเติม เพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้กระทำสิ่งไม่ดี ด้วย ความที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ตัวเองต้องมานั่งเสียใจภายหลัง กลายเป็นการโทษตัวเอง