การทำร้าย ร่างกาย และจิตใจ ของตัวเอง โดยที่ไม่รู้ตัว หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจจะเกิดจากความต้องการ ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น กิเลสของคนเรานั้น เราก็จะพยายาม แสวงหา สิ่งต่างๆ มาบำเรอความสุข มาสนองความต้องการให้กับตนเอง จนบางครั้ง สิ่งที่นำมาสนอง ความต้องการของตัวเองในทางร่างกายและทางจิตใจนั้น กลับกลายเป็นการทำร้ายตัวเอง เรื่องนี้ต้องรู้ให้เท่าทัน เพื่อไม่ให้ชีวิตต้องเจอแต่ความ ทุกข์

 

 

การทำร้ายตัวเองอาจจะแยกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน

1. การทำร้ายตัวเอง ทางร่างกายทำให้ร่างกาย มีปัญหาในอนาคตอาจจะเจ็บป่วย 2. การทำร้ายจิตใจของตนเองทำให้เกิดความเครียดเกิดความทุกข์ใจ

 

การทำร้ายร่างกายตนเองอย่างไม่รู้ตัว

การทำร้ายร่างกายตัวเองโดยไม่ตั้งใจ การพยายามที่จะสนองความต้องการให้กับตนเองทางร่างกายนั้นมักจะเป็นการเสพสิ่งต่างๆ เข้าตัวเอง ถ้าหากว่าเกินความพอดี ก็มักจะเป็นการทำร้ายตัวเองอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง อาจจะไม่รู้ตัว หรือกว่าจะรู้ตัวก็อาจจะสายเกินไปแล้ว ตัวอย่างเช่น
1. การกินมากเกินไป การกินอาหารบางอย่างมากเกินไป ก็ทำให้เกิดความเจ็บป่วยในภายหลังได้ เป็นโรคต่างๆ โรคเกี่ยวกับระบบการทำงาน ของอาหาร เป็นกรดไหลย้อนหรืออาจจะเป็นไขมันสะสมมีน้ำตาลในเลือดสูง เป็นเบาหวานและอีกสารพัดโรคที่จะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งทั้งหมดทั้ง ปวงก็เกิดจากการกินอาหาร พฤติกรรมการกินและประเภทของอาหารที่เราเลือกกินนั่นเอง

การกินอาหารที่เรียบง่ายธรรมดา และกินแต่พอเพียงเท่าที่ร่างกายสามารถรับได้ อย่างการกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อและครบทั้ง 5 หมู่ก็ถือว่า เพียงพอแล้ว แต่คนเราส่วนใหญ่มักจะกินอาหารมากเกินที่ร่างกายต้องการ ร่างกายอิ่มแล้ว แต่ใจไม่อิ่ม เมื่อนั้นอาหารที่เป็นส่วนเกินก็จะ สะสมอยู่ในร่างกายในรูปแบบต่างๆ เช่น ไขมันอุดตันอยู่ตามอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย กลายโรคต่างๆ

2. การไม่ออกกำลังกาย ขี้เกียจ ไม่อยากให้ร่างกายเหนื่อย ก็เป็นการทำร้ายตัวเองในอนาคตเช่นกัน ทำให้ร่างกายไม่แข็งแรง โดยเฉพาะในบรรดาผู้สูงวัย ซึ่งก็จะมีปัญหาในเรื่องนี้ ผู้สูงวัยไม่น้อยจะมีความคิดที่ผิดๆ โดยคิดเข้าข้างตัวเองแบบขี้เกียจว่า การพยายามถนอม สุขภาพถนอมร่างกายด้วยการไม่ทำอะไรเลย จะลดความเจ็บป่วยลดอาการบาดเจ็บของอวัยวะต่างๆ ได้

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลับไม่ใช่อย่างที่คิดเพราะเมื่อไหร่ที่เราไม่ออกกำลังกาย อวัยวะต่างๆ ก็จะอ่อนแอ บางคนเน้นทานอาหารที่ดีมี ประโยชน์ต่อสุขภาพแต่นั่นก็เป็นการช่วยเหลือเฉพาะอวัยวะภายในเท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุ หกล้ม บางคนอาจจะได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส อาจจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต อย่างการล้มในห้องน้ำ หรือการหกล้มที่เกิดจากอุบัติเหตุ บางคนชอบปั่นจักรยาน หากสังเกตให้ดีก็จะพบว่าคนที่ เน้นการปั่นจักรยานนั้น เวลาล้มก็มักจะทำให้บาดเจ็บสาหัส แขนขาหัก เป็นต้น ทั้งๆ ที่น่าจะแข็งแรง แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด

 

วิธีการออกกำลังกายมีหลายแบบ ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมเช่นกัน หากเน้นการออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วยป้องกันร่างกายเวลา หกล้ม ก็ต้องใช้การวิ่ง กระโดดเชือก หรือการออกกำลังกายที่มีการกระแทก เพื่อให้ร่างกายสร้างกล้ามเนื้อที่มีความแข็งแรง หากหกล้มก็จะไม่ สร้างปัญหา

 

การทำร้ายจิตใจตัวอย่างอย่างไม่รู้ตัว

การทำร้ายจิตใจของตัวเองนั้นก็มีหลายหลายเรื่องที่เราทำไปเพราะความไม่รู้ ตัวอย่างเช่น
1.การคิดลบ คิดไม่สร้างสรรค์ คิดแต่เรื่องที่ไม่ดีก็จะทำให้จิตใจหม่นหมองเกิดความหงุดหงิด ชีวิตไม่มีความสุข ก็เพราะวิธีการคิดที่ไม่สร้างสรรค์ ของเรานั่นเอง คิดไม่ดีก็เหมือนฉีดสารพิษใส่ตัวเอง หากเริ่มมีอาการหงุดหงิด ขี้โมโห ก็แสดงว่า การคิดลบนั้นได้ส่งผลออกมาแล้ว เริ่มป่วย แล้ว

2. การพูดไม่ดี พูดส่อเสียด พูดแต่เรื่องลบๆ พูดในเรื่องที่ไม่สร้างสรรค์ สิ่งเหล่านี้ ก็จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด ขี้โมโห อารมณ์ร้าย และไม่มีความสุขในชีวิต ดังนั้นในเรื่องของการพูดก็ควรพูดแต่สิ่งที่ดี เพื่อให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้าสู่ตัวเรา และคนรอบตัว การพูดแรงๆ อาจจะรู้สึกว่า สะใจ แต่เชื่อเถอะว่า สักวันจะป่วย เพราะคำพูดแรงๆ ของตัวเอง ทำให้ทั้งตนเองและคนรอบตัวที่รับฟัง กลายเป็นคนขี้หงุดหงิด โมโหง่าย หากมี อาการมากๆ ก็จะกลายเป็นคนที่ใครก็ไม่อยากอยู่ใกล้

3. การรับฟังเรื่องไม่ดีใส่ตัว การทำร้ายจิตใจของตนเองในบางเรื่องนั้น อาจเกิดจากการไปรับฟังปัญหาของคนอื่น ไปช่วยรับปัญหาของคนอื่นมา ใส่ตัวเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองนั้นก็ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้มีเรื่องราวที่ทำให้ทุกข์กายทุกข์ใจแต่อย่างใดเลย แต่อาจจะมีเพื่อน มีครอบครัว มีคนรักคู่ครอง ที่กำลังประสบปัญหา ตัวเองก็พยายามที่จะช่วยแก้ปัญหา ช่วยรับฟังปัญหาหรืออาจจะไปทำตัวเป็นกระโถน ช่วยรับฟังปัญหา ซึ่งนั่นก็จะเป็นผล เสียในระยะยาวเพราะจะเป็นการรับสิ่งไม่ดีใส่ตัวเอง สุดท้ายก็จะทำให้ป่วย กลายเป็นคนที่ขี้หงุดหงิด เพราะรับเอาปัญหาของคนอื่นมาใส่ตัวเอง มากเกินไปแล้วนั่นเอง

4. ความอยาก กิเลส การสร้างปัญหาให้กับตัวเองที่ทำให้เกิดความทุกข์กายทุกข์ใจ เพราะความอยากได้ อยากมีอยากเป็น บางคนเพิ่งจะเริ่มทำงานมีเงินเดือนไม่ มาก แต่ก็ตัดสินใจผ่อนรถใหม่ป้ายแดงด้วยความอยากได้อยากมีให้ทัดเทียมกับคนอื่นหรือเหนือกว่าคนอื่น จึงตัดสินใจผ่อนรถยนต์ป้ายแดง ซึ่ง เรื่องนี้ คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ ในเรื่องการผ่อนรถยนต์ ก็มักจะเจ็บตัวอยู่เสมอ เพราะไม่รู้ว่ารายจ่ายแท้จริงที่จะเกิดขึ้นตามมา ความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ยังมีสาเหตุจากปัจจัยอื่นอีก เช่น
- การทำอะไรก็ตามที่เกินกำลัง ความสามารถของตน
- ความอยากได้ในสิ่งที่เกินความสามารถ โชควาสนาของตน
- การมีคู่ครองที่ไม่เหมาะสม
- การมีสัตว์เลี้ยงทั้งๆ ที่ไม่พร้อม
ฯลฯ

5. พฤติกรรม การกระทำที่ไม่ดี รุนแรง ก้าวร้าว สุดท้ายก็จะทำให้เราป่วยทางใจ ได้เช่นกัน ดังนั้นจงทำแต่สิ่งที่ดี ก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้าสู่ตัวเอง

 

สรุป

เมื่อเข้าใจถึงความทุกข์ต่างๆ ที่จะทำให้เราทุกข์กาย ทุกข์ใจโดยไม่รู้ตัวอย่างนี้แล้ว ก็ต้องระวัง ก่อนจะทำอะไรก็ตาม ต้องคิดให้ดี ถึงผลที่จะ ตามมา อย่าให้ความสุขชั่ววูบ หรือความสุขในระยะเวลาสั้นๆ ทำลายความสุข ทำให้ชีวิตมีแต่ความทุกข์รอบด้าน