ก่อนจะทำการแต่งรถยนต์เก่า รถมือสอง ทำรถ หรือซ่อมรถเก่า ให้มีสภาพสมบูรณ์ สามารถใช้งานได้ มีหลายเรื่องที่จำเป็นต้องศึกษาให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะจากประสบการณ์ตรงของผู้เคยทำมาก่อน เพราะส่วนใหญ่มักจะเอาเงินหมื่นเงินแสนไปทิ้ง หมดไปกับรถ ยิ่งมีสตางค์มาก สติก็จะไม่อยู่กับตัว อยากทำอะไรก็พร้อมจ่ายทันที ซึ่งมักจะเสียเงินเปล่า

ตัวอย่างประสบการณ์ตรงของผู้เขียนเองที่ผิดพลาดไปกับการทำรถเก่า รถมือสอง สูญเงินไปหลักแสน สุดท้ายก็ต้องขายทิ้ง เพราะทำแล้วไม่จบ หากมีประสบการณ์ หรือ ได้ศึกษาประสบการณ์ของคนอื่นให้ดีเสียก่อน ก็คงจะไม่ทำให้เสียเวลา เสียเงินไปเปล่าๆ
1. รถตู้เก่า เหล็กตัวถังหมดสภาพแล้ว อะไหล่ที่สำคัญอย่างพวกยางขอบกระจก ไม่มีของแท้ ใช้ของเทียม ไม่มีคุณภาพ น้ำซึมเข้าได้ ทำให้ขอบกระจกบังลมหน้าหลัง ขึ้นสนิมผุทุก 4-6 เดือน ซ่อมอย่างไรก็ไม่จบ คันนี้หมดเงินทำรถไปร่วม 200,000 บาท

2. รถยนต์เก่า Fiat 132 เป็นรถยนต์เก่าอีกคันที่ซื้อเพราะรู้สึกชอบรถเก่า ได้รถมาแล้ว ซ่อมจบ ขับทางไกลได้ แต่เครื่องยนต์ใหญ่เกินไป ไม่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ กินน้ำมันมาก คันนี้หมดไปกับค่าซ่อมเกิน 50,000 บาท

3. รถแวน Toyota Mighty X เป็นรถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งก็คิดว่า ซ่อมแล้วน่าจะจบ แต่กลับเจอกับจุดอ่อนที่สำคัญก็คือ ตัวหลังแครี่บอย ที่หมดสภาพแล้ว ซ่อมไม่จบ น้ำสามารถรั่วซึมเข้าไปภายในตัวรถได้ เป็นความผิดพลาดที่ไม่ควรซ่อมตั้งแต่แรก แต่ควรจะเปลี่ยนของใหม่ คันนี้หมดไปกับค่าซ่อมเกิน 70,000 บาท

ที่ได้ยกตัวอย่างมา ก็คือความผิดพลาดในการซ่อมบำรุงรถยนต์มือสอง แบบไม่มีความรู้ทำให้งบบานปลาย เสียเงินไปเปล่าๆ ดังนั้นการซ่อมรถ ทำรถยนต์มือสองจึงต้องศึกษาหาข้อมูลให้ดีเสียก่อน ตัวอย่างเช่น

A. ตั้งจุดประสงค์ในการทำรถ ทำเพื่ออะไร

ก่อนอื่นควรตั้งจุดมุ่งหมายก่อนว่า ทำไปเพื่ออะไร สร้างรถเพื่อนำไปใช้งานด้านไหน ต้องวางแผนให้ดี ผิดพลาดขึ้นมามีแต่เสียเงิน อย่างรถผู้เขียน รถเดิมเครื่องยนต์ดีเซลใช้งานดี ไม่มีปัญหา เกิดบ้าเอาไปวางเครื่องใหม่ กินน้ำมัน ติดแก๊สก็สร้างปัญหาไม่จบ สุดท้ายก็ต้องขายทิ้ง เสียเงิน เสียเวลาซ่อมรถ

B การแต่งรถเพื่อความแรงมักจะสร้างปัญหา

รถผู้เขียนจากรถเดิมๆ ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ใช้งานดีอยู่แล้ว แต่ไม่ค่อยแรง จึงเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2,000 cc พอเปลี่ยนเครื่องแล้ว แรงมาก ได้ดั่งใจ แต่กินน้ำมันมาก น้ำมันเบนซินช่วงนั้นประมาณ ลิตรละ 45 บาท ก็เลยต้องติดแก๊ส พอติดแก๊ส รถก็มีปัญหากับระบบไฟฟ้า จนต้องตัดสินใจขาย เพราะซ่อมไม่จบ เครื่องแรงมักจะสร้างปัญหา จึงต้องหาข้อมูลให้ดี

ถ้าจะต้องใช้รถในชีวิตประจำวัน ใช้งานแทบทุกวัน จะต้องเน้นความประหยัดไว้ก่อน รถแรง เครื่องยนต์ใหญ่สนุกเวลาขับ ทุกข์เวลาเติมน้ำมันต้องจ่ายเงินมาก และขายต่อ ราคาก็ตกมาก

C. การแต่งรถมากเกินไป เวลารถเสีย ซ่อมยาก

การทำรถ แต่งรถบางรุ่น หากแต่งมากเกินไป ผิดจากมาตรฐาน เวลารถเสียจะยุ่งยาก ทั้งอู่ที่จะรับทำ ทั้งเรื่องอะไหล่ ซึ่งบางอู่นั้น จะไม่รับถ้ารับ ก็ฟันหัวแบะ เพราะเสียเวลาก็เลยคิดค่าแรง ค่าอะไหล่แพงกว่าปกติ การแต่งที่มากเกินไป จึงต้องคิดถึงจุดนี้ด้วย อย่าแต่งรถผิดไปจากมาตรฐานมากนัก ทั้งเครื่องยนต์ ช่วงล่าง ตัวถัง แม็ก ระบบไฟฟ้า ฯลฯ

D. รถแต่งกับการขายต่อ

การแต่งรถ ทำรถให้มีราคา หรือราคาไม่ตกมาก ขายต่อไม่ยาก ต้องทำให้เหมือนเดิมให้มากที่สุด มาจากโรงงานอย่างไร ก็ทำให้เหมือนเดิม การเปลี่ยนอุปกรณ์สำคัญบางชิ้นอย่างเครื่องยนต์ เช่น
1. รถยนต์กระบะเครื่องยนต์ดีเซลที่เปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์เบนซินเพื่อติดแก๊สราคาตกมากกว่าเครื่องยนต์ดีเซลมาก และขายต่อยากหากใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดใหญ่เกิน 1800 cc
2. แต่รถยนต์กระบะที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินซึ่งอาจจะขายในราคาไม่แพง หากเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ดีเซล เวลาขายต่อจะได้ราคาดีกว่า แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงในการเปลี่ยนเครื่อง
3. รถเล็ก ประหยัดน้ำมัน ประหยัดค่าใช้จ่าย ปรับแต่งให้ดี ให้เหมือนมาตรฐานแล้วราคาไม่ตก เมื่อเทียบกับรถใหญ่ เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แม้จะมีสภาพดี แต่ก็ใช่จะขายได้ง่ายๆ

E. อย่าทำรถที่ใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ได้ ขับทุกวันไม่ได้

รถบางคัน แม้จะปรับแต่งอย่างดี ทำเครื่อง ทำแม็ก ภายใน แต่อาจจะไม่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้ หากเป็นรถคันเดียวในบ้านก็ไม่ควรทำ เช่น รถขับเคลื่อนสี่ล้อ รถคลาสิก รถเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ได้รถที่มีสภาพดี แต่ใช้งานไม่ได้ ขับไม่สบาย กินน้ำมัน ฯลฯ

F. แต่งรถคลาสสิคต้องศึกษาให้รอบด้าน

รถคลาสสิคมีความสวยงาม มีเสน่ห์ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายในการตกแต่ง ปรับแต่ง ไม่น้อยเลย บางคันแต่งแล้วจบ บางคันก็ไม่จบต้องศึกษาให้ดี ปัญหาสำคัญก็คือยางขอบกระจก หากไม่ใช่ของแท้ น้ำจะซืมเข้าได้ เห็นมาหลายคันแล้ว จอดตากฝน ตากน้ำค้างไม่นาน น้ำสนิมก็ไหลเป็นทาง สุดท้ายก็ผุทั้งคันเหมือนเดิม ดังนั้นต้องดูแลอย่างดี มีที่จอดกันแดด กันฝนได้

G. ปรับแต่งรถเดิมๆ ให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

การปรับแต่งหรือทำรถในลักษณะนี้ส่วนมากจะเป็นการนำรถเดิมๆ เช่น Nissan Big M รุ่นนี้ ก่อนหน้าไม่ใช่สีนี้ แต่ได้ทำสีใหม่เป็นสีเขียวกระบะใช้กระบะเสตนเลส ทนทานไม่ผุ ไม่ขึ้นสนิม เครื่องยนต์ดีเซลเดิมๆ ระบบเดิมๆ กรณีนี้จะมีปัญหาน้อยกว่า เพราะสีสันภายนอกดูจี๊ดจ๊าดแต่รวมๆ ก็ยังเดิมๆ รถมีสภาพสมบูรณ์พร้อมลุย

คันนี้ทำไปแล้วรวมค่าตัวรถน่าจะเกิน 150,000 แล้ว ยังเหลือระบบเกียร์ อีกประมาณ 10,000 ก็น่าจะลงตัว ใช้ไปอีกนานนนนนน รุ่นนี้เครื่องยนต์ทนทาน

H. การแต่งรถให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ผู้เขียนเคยใช้รถที่ไม่เหมือนคนอื่น ด้วยความภูมิใจว่าไม่เหมือนใคร แต่ก็สร้างปัญหาให้ จนต้องซื้อรถเพิ่ม เพราะไม่มีความเป็นส่วนตัวขับไปไหน จอดที่ไหนก็รู้หมด ว่ารถใคร อย่างคันนี้สภาพนี้ สีนี้ จอดที่ไหน รู้เลย เมื่อเทียบกับการทำรถให้อยู่ในสภาพเดิมๆ ดูยากกว่าเอกบุรุษไม่ต้องจำเป็นต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แอบไปที่ชอบๆ เวลาเมียตามเจอจะลำบาก นะจ๊ะ

ขั้นตอนการทำรถไว้ใช้ตามสไตล์ของตัวเอง

หากมีความจำเป็นต้องทำรถสักคันไว้ใช้ในสไตล์ของตัวเอง แนะนำแนว ทางต่อไปนี้ แล้วจะใช้งานอย่างมีความสุขคุ้มค่าเงินที่จะต้องจ่าย

1. ศึกษาเครื่องยนต์ที่จะใช้งาน ต้องเป็นเครื่องยนต์ที่ประหยัด ทนทาน หากใช้เครื่องยนต์เบนซินก็ต้องเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กประหยัดกรณีใช้เครื่อง ยนต์ดีเซลก็ไม่ควรใหญ่เกิน 2500 cc จะกินน้ำมันมากไป

2. ศึกษาตัวถังเครื่องยนต์ที่จะนำเครื่องไปวาง มีน้ำหนักมากน้อยเพียงใด อัตราการกินน้ำมัน บางคนเลือกเครื่องยนต์ดีเซลญี่ปุ่นเพื่อนำไปวางกับรถยุโรปที่มีน้ำหนักมากก็จะกินน้ำมันมาก สุดท้ายก็ไม่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันได้

3. ปรับแต่งรถให้อยู่ในสภาพเดิมดีที่สุด เน้นให้เหมือนออกจากโรงงาน อย่าแต่งให้ผิดไปจากมาตรฐาน รถทุกคันเมื่อถึงเวลาก็ต้องขาย รถที่มีสภาพเดิมๆ ขายต่อง่าย และได้ราคา

4. อุปกรณ์เดิมติดรถต้องเก็บไว้เปลี่ยนเมื่อต้องการขายต่อ เช่น กระทะล้อ ยาง โช้ค หรืออื่นๆ แต่ถอดอะไหล่สำคัญเก็บไว้ เผื่อต้องการแต่งคันใหม่ก็นำไป ใช้ได้

สรุป

การแต่งรถหากไม่วางแผนให้ดีมักจะเสียเงินโดยใช่เหตุ ซึ่งหลายครั้ง ก็บานปลายแบบเสียเงินเปล่า จึงต้องศึกษาให้ดี วางแผนให้ดี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเงินในกระเป๋า บางคนมีเงินมาก ก็แต่งเต็มที่ พอสตางค์หมด ถึงได้มีสติ สูงสุดคืนสู่สามัญ เพื่อนผู้เขียนบางคน เลิกแต่งรถแล้ว เน้นเดิมๆ เท่านั้น ขับรถเดิมๆ สบายใจ การแต่งรถที่ดี จึงควรแต่งให้รถมีสภาพเหมือนเดิม เหมือนออกจากโรงงาน วิธีนี้ดีที่สุด ใช้งานสบายใจ อะไหล่หาง่าย ขายต่อคล่อง และได้ราคาดีกว่ารถแต่ง