Sponsored Ads

สำหรับรถที่ไม่ได้ใส่น้ำยาคูลแลนด์เพื่อป้องกันสนิม จะต้องดูแลถ่ายน้ำในหม้อน้ำบ่อยๆ เพราะจะเป็นตะกอนแดง และมีโอกาสขึ้นสนิมเร็วมาก โดยเฉพาะในรถเก่า รถมือสอง การถ่ายน้ำสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน

สำหรับคันนี้เนื่องจากเปลี่ยนหม้อน้ำใหม่ เปลี่ยนวาล์วน้ำ ทำความสะอาดหม้อพัก เปลี่ยนปั๊มน้ำ ก็เลยคิดว่าของใหม่คงจะไม่เป็นอะไรไม่น่าจะขึ้นสนิมเร็วนัก น้ำยากันสนิมก็ไม่ได้เติม ผ่านไปไม่กี่เดือน ก็มีสภาพดังที่เห็น น้ำใส ก็เปลี่ยนเป็นสีแดง มีตะกอน สังเกตุจากฝาหม้อน้ำ

 

ส่วนภายนอกที่สังเกตุได้ชัดที่สุดว่า น้ำในหม้อน้ำเป็นตะกอนสีแดงแล้ว ก็คือหม้อพักนั่นเอง ตะกอนจะมาสะสมที่นี่พอสมควร ดูที่สีของหม้อพักเปลี่ยนจากขาวขุ่นเป็นขาวแดงมีตะกอนข้างใน หากปล่อยไว้ไม่ถ่ายน้ำบ่อยๆ สนิมข้างในคงจะถามหาไม่นานนัก

 

 

การถ่ายน้ำในหม้อน้ำทำได้ง่าย แต่ต้องเตรียมน้ำให้พร้อมๆ สำหรับคนอยู่หอพัก คำแนะนำควรซื้อน้ำสะอาดจริงๆ ถัง 6 ลิตร สัก 2-3 ถัง หรือใช้น้ำจากเครื่องกรองน้ำ หรือน้ำสำหรับเติมหม้อน้ำโดยเฉพาะ อย่าใช้น้ำประปา จากนั้นก็เริ่มกันเลย
1. ควรทำในขณะที่เครื่องเย็น ให้สตาร์ตรถ ติดเครื่อง
2. เปิกจุกระบายน้ำ ใต้หม้อน้ำ อาจจะอยู่มุมล่างขวา เช่น จุกสีเหลืองดังภาพ

 


3. ทันทีที่น้ำเริ่มไหลออก ก็จัดการกรอกน้ำลงในหม้อน้ำให้ไหลเวียน ถ่ายน้ำออก เมื่อสีของน้ำที่ระบายออกเริ่มใส ไม่มีตะกอนสีแดงแล้วก็รีบปิดจุกสีเหลือง เติมน้ำยาหม้อน้ำ แล้วก็รีบมาเติมน้ำต่อ จะให้ดีควรมีผู้ช่วย อีกคนคอยเติมน้ำ อีกคนคอยปิดจุก เพราะน้ำจะไหลออกเร็วมาก อาจจะทำให้เครื่องร้อนขึ้นมาเร็วมาก หากน้ำแห้งเครื่องยนต์จะพังได้
4. เมื่อเติมน้ำจนเต็มแล้วก็ปิดฝาหม้อน้ำ แล้วก็ดับเครื่องยนต์


5. ส่วนหม้อพักก็จัดการถอดมาล้างทำความสะอาด เพราะจะมีตะกอนอยู่ข้างใน ซึ่งจะถูกดูดกลับเข้าหม้อน้ำเหมือนเดิม หากไม่ล้างออก

 

คำแนะนำขณะถ่ายเปลี่ยนน้ำในหม้อน้ำ

ในระหว่างถ่ายเปลี่ยนน้ำหม้อน้ำ ต้องเตรียมน้ำให้พอ ไม่น้อยกว่า 2-3 ขวดใหญ่ขนาด 6 ลิตร และต้องทำขณะเครื่องเย็น ซึ่งเมื่อสตาร์ตเครื่องไปสักพัก เครื่องก็จะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ หากน้ำขาดเติมน้ำไม่ทันจะทำให้เครื่องร้อนมาก อาจทำให้เครื่องสึกหรอเร็ว หากเตรียมน้ำไว้ไม่พอ ถ้าเกิดกรณีนี้ขึ้นให้ดับเครื่อง แล้วรอจนกว่าเครื่องจะเย็นสนิท แล้วจึงเติมน้ำลงไป ห้ามเติมขณะที่เครื่องยังร้อนเด็ดขาด ปล่อยให้เย็นเอง

 

เมื่อปิดจุกที่ตัวหม้อน้ำแล้ว หยุดการระบายน้ำแล้ว หากเป็นรถเก่ายังไม่ต้องปิดฝาหม้อน้ำ ลองสังเกตุว่ามีฟองน้ำผุดออกจากฝาหม้อน้ำหรือไม่ หากมีแสดงว่าเครื่องเริ่มจะหลวมหรือปะเก็นมีปัญหา

 

การใช้น้ำยากันสนิมหรือน้ำยาคูลแลนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยป้องกันสนิมข้างในได้ ซึ่งการถ่ายน้ำไม่สามารถชะล้างสนิมที่เริ่มจับข้างในได้ ดังภาพที่เห็นจะมีสนิมเกาะติดข้างใน จึงควรใช้น้ำยาคูลแล้นตั้งแต่แรก อย่างคันนี้พลาดซะแล้ว ไม่ได้ใช้ แม้จะเพิ่งทำหม้อน้ำเปลี่ยนวาล์วน้ำ ปั๊มน้ำ ได้ไม่ถึงปีก็ตาม น้องสนิมก็เริ่มจะมาเข้ามาทำตัวสนิทสนมกันแล้ว หากไม่ดูแลให้ดี คาดว่า ปั๊มน้ำน่าจะไปก่อนหม้อน้ำยังพอล้างได้

 

ให้สังเกตุร่องระบายน้ำ ที่จะทำหน้าที่นำน้ำที่ร้อนจากเครื่องยนต์ให้ผ่านช่องเล็กๆ เหล่านี้เพื่อไประบายความร้อนออกหน้าเครื่อง ตอนนี้ยังสะอาดดีไม่มีตะกอนหรือตะกรันจับ ยังระบายได้ดี ก็ของใหม่ยังไม่ถึงปีนี่นะ แต่รถเก่ารถมือสองทั้งหลาย ก่อนซื้อดูให้ดี ไม่เช่นนั้นเตรียมเสียเงิน 3-4 พันบาทเป็นอย่างน้อย

 

ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำของรถยนต์เป็นเรื่องสำคัญ หากมีปัญหาจะไม่สามารถขับรถต่อไปได้ ฝืนขับก็มีแต่ฟังกับฟังไม่คุ้ม เพราะเครื่องพังว่ากันที่หลักหมื่นบาท

 

การเติมน้ำยาหม้อน้ำหรือคูลแล้น

น้ำยาเติมหม้อน้ำราคาประมาณร้อยกว่าบาท ไม่ว่าจะใช้รถเก่า ก็ควรเติมน้ำยากันสนิมในหม้อน้ำซึ่งจะมีสีเขียว ข้อดีของการเติมในรถเก่าก็คือ หากระบบระบายความร้อนมีรั่ว ซึมที่จุดใด ก็จะมีคราบสีเขียวที่จุดน้น ช่วยให้การหาตำแหน่งรั่วซึมของน้ำ หาได้ง่าย การเติมน้ำยาหม้อน้ำให้ปฏิบัติดังนี้
1. ถ่ายน้ำในหม้อน้ำให้หมดก่อน แล้วปิดจุกใต้หม้อน้ำ
2. เทน้ำยาหม้อน้ำลงไป หรือนำน้ำยาหม้อน้ำมาผสมน้ำตามสูตรที่กำหนด แล้วจึงนำไปเติมในหม้อน้ำหรือเทน้ำยาลงไป แล้วเติมน้ำให้เต็มหม้อน้ำ
3. สตาร์ดเครื่องเพื่อให้น้ำหมุนเวียนและผสมกับน้ำ อย่าลืมตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ

น้ำยาเติมหม้อน้ำมีประโยชน์แต่ก็มีโทษเหมือนกัน เพราะหากเสื่อมสภาพจะกลายเป็นกรด กัดกร่อนข้างใน ดังนั้นจะต้องมีการเปลี่ยนถ่ายตามเวลาที่กำหนดด้วยเช่นกัน