หากใครได้ลองขับรถยุโรป ก็จะติดใจในความสบาย ความนิ่ง การบังคับง่าย ความหรูหรา และความปลอดภัย จนอาจจะติดใจ อยากจะได้รถเหล่านี้ไว้ครอบครองสักคัน ส่วนคนที่ไม่เคยใช้มาก่อน อาจจะเห็นว่ารถยนต์เหล่านี้มีราคาถูกมาก สามารถซื้อได้ ไม่ว่าจะมีความคิดแบบใดก็ตาม ก่อนจะตัดสินใจเลือกซื้อไว้ใช้งานสักคัน จำเป็นต้องศึกษาอย่างจริงๆ จังๆ

จากรถป้ายแดงราคาหลักแสนหลักล้าน เมื่อรถยุโรปกลายเป็นรถมือสอง ราคาจะตกลงอย่างมาก สำหรับคนที่เคยใช้งานมาก่อน ก็จะรู้ดีว่าไม่ควรซื้อ แต่คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์อาจจะผิดพลาดได้ ผู้เขียนเคยใช้มา 5 ยี่ห้อด้วยกัน คือ Audi, FIAT, Benz, BMW และPeugeot 406 เก่าบ้างใหม่บ้าง แต่แม้จะเป็นรถเก่า อายุเกิน 10 ปี อย่าง FIAT 132 หรือ Benz 300D แต่ก็ขับดีมาก ช่วงล่างล่างดี แม้จะติดใจในคุณภาพรถแต่ก็รู้ซึ้งดีในค่าใช้จ่ายที่จะตามมา ใช้เครื่องยนต์ใหญ่ กินน้ำมัน ไม่เหมาะเอาไว้ขับ

 

ค่าใช้จ่ายรถ ค่าบำรุงรักษาไม่ได้ลดลงตามราคารถ

รถยุโรปแม้จะมีราคาถูกลงมาก แต่ราคาอะไหล่ การซ่อมบำรุงรักษา ก็ไม่ได้ลดลงตามราคารถแต่อย่างใด ดังนั้นแม้รถจะมีราคาถูกมากแต่อย่าได้กระโดดไปซื้อทันที

โดยขาดความยั้งคิดเป็นอันขาด รถที่มีค่าใช้จ่ายน้อยจะเป็นรถเก่าที่ไม่ใช้ระบบไฟฟ้าหรือระบบอีเล็คทรอนิกมากนัก และใช้เครื่องยนต์ดีเซลด้วยแล้ว ก็ยิ่งดูแลง่าย แต่ด้วยความที่เป็นรถขนาดใหญ่เป็นส่วนมาก แม้จะใช้น้ำมันดีเซล ก็ใช่จะประหยัดนะ

 

การขายต่อรถยุโรปมือสอง

รถยุโรปมือสองราคาตก และก็จะตกลงไปเรื่อยๆ ที่สำคัญเป็นรถที่รักเจ้าของ ขายต่อไม่ง่ายนัก จะใช้ต่อก็มีค่าใช้จ่ายสูง ติดแก๊สก็อาจจะมีปัญหา ไม่มีเงินซ่อมบำรุง ก็ยิ่งทุกข์ใจหนักเข้าไปอีก

 

รถยุโรปมือสองต้องการอู่เฉพาะ

การนำรถเข้าไปซ่อมกับศูนย์รถคงจะไม่ไหวแน่ มีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นก็ต้องเข้าอู่เฉพาะ ผู้เขียนเคยใช้ FIAT เก่าๆ เวลาซ่อมต้องเข้าอู่เฉพาะที่จอมทอง หรือหนองจอก หรือสุขาภิบาล 3 เท่านั้น เพราะมีอะไหล่ และรู้จักรถอย่างดี ซ่อมแล้วจบ

 

รถยุโรปมือสองอาจเป็นคันที่ 2 ในบ้าน

รถเหล่านี้ควรเป็นคันที่ 2 ในบ้าน แม้จะเป็นรถใหญ่เครื่องยนต์ใหญ่ แต่หากไว้ใช้เดินทางไกล จะไม่กินน้ำมันมากนัก และประหยัดน้ำมันผู้เขียนเคยไปเที่ยวภูชี้ฟ้า มีเบนซ์ S500 มากัน 7 คน หน้า 3 หลัง 4 อัดมาในเบนซ์คันเดียว เป็นรถที่แรงดีทีเดียว การขับทางไกล รถยุโรปจะให้ความสบาย ช่วงล่างดี เข้าโค้ง ไม่โคลงเคลง ไม่เมื่อย และมีความปลอดภัย

 

ความปลอดภัยในรถยุโรปสูงกว่ารถญี่ปุ่น

ในเรื่องความปลอดภัย รถยุโรปจะค่อนข้างมั่นใจกว่ารถญี่ปุ่น ผู้เขียนเคยประสบอุบัติเหตุด้วยตนเอง หลับในขับชนต้นไม้ สภาพรถเละดังภาพ แต่คนขับไม่เป็นอะไรเลย หัวแตกนิดหน่อย เพราะโดนเข็มขัดนิรภัยฟาดหัวเท่านั้น หากคาดเข็มขัดก็คงจะไม่เป็นอะไรเลย

 

ซื้อรถยุโรปมือสองมาปรับแต่งเปลี่ยนเครื่องยนต์

สำหรับคนที่ชอบรถยุโรป เพื่อตัดปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา หลายคนก็เลือกที่จะซื้อรถหรือดัดแปลงรถ โดยเฉพาะการเปลี่ยนเครื่องยนต์วางเครื่อง ยนต์ญี่ปุ่นลงไปแทน ได้ตัวถังงที่แข็งแรง ช่วงล่างที่ดีและเครื่องยนต์จากญี่ปุ่นซึ่งทนทานมากกว่า เช่น การวางเครื่อง SR หรือ 3S ใน BMW E30 หรือวางเครื่อง J ใน Benz, BMW หรือ รถรุ่นอื่นๆ หรือนำมาวางเครื่องยนต์ดีเซลล์

 

ผู้เขียนเองก็มีความตั้งใจจะดัดแปลงรถอยู่เหมือนกัน ที่ตั้งใจซื้อ BMW E30 มาใช้ ก็ตั้งใจว่าจะดัดแปลง ใช้จนเครื่องเดิมพัง ก็จะวางเครื่องยนต์ดีเซล 2C Turbo ลงไปแทน แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน เลยไม่ได้ทำ ไม่เช่นนั้น คงจะได้เห็น BMW E30 วางเครื่องดีเซลแน่นอนซึ่งถ้าวางเครื่องยนต์ตัวนี้แล้ว ก็น่าจะใช้งานขับทางใกล้ไกลได้สบาย ประหยัดเช่นกัน รุ่นนี้ไม่ใช้ระบบไฟฟ้าและอีเล็กทรอนิคที่ซับซ้อนมากนัก

 

ผู้เขียนมีความคิดแบบนี้เพราะชอบช่วงล่างของรถยุโรป แต่ไม่ชอบเครื่องยนต์ จึงมีความคิดจะหารถและเครื่องยนต์มาวางใหม่ ที่เลือกรุ่นนี้เพราะน้ำหนักตัวน้อย ใช้เครื่องเล็กๆ ได้ แต่หากใช้รุ่นที่มีน้ำหนักตัวมากกว่านี้ ก็ต้องใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ กินน้ำมันแน่นอน

 

รถยุโรปเปลี่ยนเครื่องยนต์ติดแก๊ส

รถยุโรปมือสองบางคันเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็นของญี่ปุ่นอย่างเคลื่อง J, JZ แล้วติดแก๊ส แม้จะได้เครื่องที่ทนทาน แต่ก็กินน้ำมันไม่ต่างกันใช้แก๊สก็กินแก๊สมากเช่นกัน เพราะน้ำหนักรถมีขนาดใหญ่ ต้องใช้น้ำมันเพื่อสตาร์ทรถก่อนจะสับเปลี่ยนไปใช้แก๊ส เสียทั้งค่าน้ำมันและแก๊ส ก็ยังไม่เหมาะที่จะใช้เป็นรถคันแรกในบ้านอยู่ดี

 

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตามแต่ สำหรับผู้อ่านที่กำลังมองหารถยนต์มือสองเป็นคันแรกแล้ว ผู้เขียนไม่แนะนำให้ใช้งานรถยุโรปมือสองแต่อย่างใดหากจะใช้งานก็ควรเป็นคันที่ 2 ขับไม่บ่อย เพราะค่าใช้จ่ายสูงทั้งค่าเชื้อเพลิงและการบำรุง รักษา เวลาเสียต้องการอู่เฉพาะ จะไม่มีรถไว้ใช้งาน บางรุ่นไม่ได้ซ่อมได้ทุกที่เหมือนอู่ทั่วไป