เมื่อคนเรามีเงินมากขึ้น รายได้เพิ่มขึ้น หรือรวยขึ้น พฤติกรรมการใช้เงินมักจะเป็นไปเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเองอย่างผิดๆ อย่างการกิน กินมาก เกินไป เน้นอาหารอร่อย กินอาหารที่ทำร้ายร่างกายโดยไม่รู้ตัว เป็นเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ต่างมาเมื่ออายุมากขึ้น ตามแต่ชนิดของอาหารและ เครื่องดื่มที่กินเข้าไป ซึ่งผู้เขียนจะขอเรียกโรคเหล่านี้ว่า "โรคคนรวย" เพราะถ้าไม่รวย มีเงิน ก็ซื้อไม่ได้

 

เหตุที่เรียกว่า โรคคนรวย ก็เพราะว่า เมื่อมีเงินแล้ว ก็จะให้ความสุขตัวเอง โดยเฉพาะในเรื่องอาหารการกินตามที่ใจต้องการอยากจะลิ้มลอง หากลองสังเกตุเวลาที่คนเราเจอกัน ก็จะไม่พ้นเรื่องกิน ดื่ม ซึ่งบรรดาอาหารและเครื่องดื่มส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นตามสั่ง อาหารสำเร็จรูป แปรรูป ปรุงสำเร็จ อาหารข้างทาง มินิมาร์ท หรือแม้แต่อาหารในบ้านที่ทำกินเอง ก็มักจะเป็นอาหารที่มีส่วนทำลายสุขภาพ และทำให้เกิดโรค หรือความ เจ็บป่วยต่างๆ ตามมา ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบอาหาร ว่าเป็นแบบใด ชอบเค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ด แซ่บ

 

ส่วนคนยากจน รายได้น้อย เงินน้อย ก็มักจะมีตัวเลือกในเรื่องอาหารน้อยกว่า เงินน้อย กินได้น้อยกว่า มีโอกาสเจ็บป่วยจากอาหารได้น้อยกว่า ยิ่งใช้ชีวิตเรียบง่าย ปลูกผักกินเอง กินผักสด ผักลวก น้ำพริก โอกาสเจ็บป่วย หรือเป็น โรคคนรวย จะน้อยกว่า อย่างคนจนในต่างจังหวัดเวลาเจอกัน ก็อาจจะคุยกัน แค่นั้น แต่คนมีเงินเวลาเจอกัน ต้องมีอาหารหรือเครื่องดื่มเสมอ กาแฟ ของมึนเมา อาหารประเภทกับแกล้ม ธัญพืช ฯลฯ ซึ่งมักจะเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพในอนาคต

 

ตัวอย่างโรคต่างๆ ที่เกิดจากการกิน ดื่ม

เมื่อมีเงินมากขึ้น การปรนเปรอตัวเองในเรื่องอาหาร การกิน ก็จะเริ่มมากขึ้น ซึ่งจะมีส่วนทำให้เกิดโรค หรือ ความเจ็บป่วยต่างๆ เช่น
1. มะเร็ง จะเป็นมะเร็งแบบใด ก็ขึ้นอยู่กับว่า ชอบกิน หรือ ดื่มอาหารแบบใด ชอบของมึนเมา ก็มะเร็งตับ เนื้อสัตว์ ก็อาจจะมะเร็งลำไส้ เป็นต้น
2. เบาหวาน เพราะกินน้ำตาล ของหวานมาก
3. ความดันโลหิตสูง กินอาหารรสเค็มมาก
4. โรคหัวใจ
5. โรคไต กินอาหารเค็มหรืออาหารรสจัดมาก ยิ่งแซ่บยิ่งอร่อย
เป็นต้น

 

แต่ละโรคดังที่กล่าวมา ก็จะทำให้ชีวิตยุ่งยาก กับการต้องมารักษาตัวเอง หรือเป็นภาระคนในครอบครัว คนรอบตัว ต้องไปพบหมอ กินยา ควบ คุมเรื่องอาหารการกินอย่างเข้มงวด ผู้สูงวัยบางคนที่ผู้เขียนเคยพบเจอมา บางคนมีค่ายาแต่ละเดือนหลักหมื่นบาท เป็นภาระที่ลูกๆ ช่วยกันดูแล เพราะตัวเองไม่ได้ทำอะไรแล้ว เกษียณแล้ว ไม่มีรายได้ มีแต่โรค

 

ผู้สูงวัยหลายคนมีหลายโรค สร้างปัญหาให้ตัวเอง และคนรอบข้าง เพราะบางโรคนั้น เพียงแค่โรคเดียว ก็อาจจะทำให้ชีวิตต้องเจอกับความลำบาก ยุ่งยากมาก อย่างโรคไต ต้องดูแลตัวเองอย่างมากในเรื่องอาหารการกิน ต้องควบคุมชนิดของอาหาร หรือปริมาณอาหาร เน้นรสจืดเป็นหลัก เป็น อาหารไร้รสชาติ รวยแค่ไหน ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะกินได้แค่เท่าที่แพทย์กำหนดเท่านั้น

 

อาหารแบบนี้จะไม่ได้มีค่าใช้จ่ายมาก เพราะจะต้องทำกินเอง ไม่มีการบวกค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส เข้าไปด้วยเหมือนใน ร้านอาหาร ส่วนบรรดาอาหารอร่อยๆ ตามร้านซึ่งอุดมไปด้วยเกลือ ผงชูรส เครื่องปรุงรสแซ่บ เนื้อสัตว์ พืช ผัก บางชนิดที่นำมาทำอาหาร อาหาร สำเร็จรูปแทบทุกชนิด คนเป็นโรคไต ไม่สามารถกินได้ จะเป็นอันตรายต่อไต ต้องทำอาหารกินเอง ถ้าอยากจะอยู่บนโลกนี้นานๆ

 

ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหารกินเอง หรือ มีคนดูแล ก็ตาม ก็ล้วนสร้างความยุ่งยากให้ชีวิต เพราะต้องศึกษาในเรื่องอาหารแต่ละชนิด แบบไหนที่ สามารถกินได้บ้าง และ เน้นการทำอาหารที่มีรสชาติจืดชืดเท่านั้น เพื่อไม่ให้ไตมีปัญา การทำอาหารกินเอง ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หากไม่มีบ้าน อยู่หอ พักแบบผู้เขียน ซึ่งไตเริ่มจะมีปัญหาแล้ว ต้องดูแลตัวเองอย่างมาก นี่แค่โรคเดียว บางคนเป็นทั้งความดัน เบาหวาน หัวใจ ฯลฯ สร้างความทุกข์ให้ ชีวิตอย่างมาก

 

หากมีความเข้าใจเรื่องนี้แล้วว่าจะมีปัญหาอะไรตามมาบ้าง พฤติกรรมการกินของคนเรา ก็จะเปลี่ยนไป เน้นผัก เน้นอาหารง่ายๆ ที่ปลอดภัยต่อ สุขภาพ โรคภัยก็จะไม่ถามหา ตัวอย่างเช่น
1. กินน้ำเปล่าประมาณวันละ 8 แก้ว หรือ วันละขวด 1.5 ลิตร ก็เพียงพอแล้ว หากจะต้องทำงาน ออกนอกบ้าน ก็ใช้ขวดเล็ก พกในรถหนึ่งขวด ที่ ทำงานหนึ่งขวด ที่บ้านหนึ่งขวด การกินน้ำจากขวดง่ายกว่าการกินเป็นแก้ว เสียเวลารินใส่แก้ว วุ่นวาย แต่การกินน้ำแบบนี้ ก็เน้นจิบทีละนิด จิบทั้ง วัน ทั้งคืน อย่ากระดกทีเดียวหมดขวด เน้นจิบทีละนิดทั้งวัน
2. การทำอาหารกินเอง จะสามารถเลือกสารพิษหรือไม่เอาสารพิษเข้าสู่ร่างกายของเราได้ตามต้องการ อาหารสำเร็จรูป อาหารตามสั่งควรเลี่ยง หรืออย่างน้อยก็ควรหาเวลาทำอาหารคลีนๆ กินเองบ้าง เช่น
- อาหารนึ่ง ลดเค็ม ไม่ใช้เครื่องปรุงรสทุกชนิด ในยูทูปมีวิดีโอสอนการทำอาหารเพื่อสุขภาพมากมาย แต่ให้เน้นผู้สอนที่เป็นหมอ หรือ เคยดูแลผู้ ป่วยโรคต่างๆ เพราะจะให้คำแนะนำที่ดีกว่า วิดีโอสอนทำอาหารที่มุ่งเน้นขายสินค้า ใช้เครื่องปรุงรสที่จำหน่ายทั่วไป มีเกลือโซเดียมมาก ซึ่งไม่ใช่ อาหารเพื่อสุขภาพที่แท้จริง
- อาหารประเภททอด ผัดไฟแรง ควรหลีกเลี่ยง หรือหากชอบ ก็ต้องใช้น้ำมันรำข้าวมาทำอาหารเหล่านี้ และควรใช้น้ำมันมะกอกด้วย ไว้เหยาะใส่ อาหารประเภทต้ม หรือสลัด
- ลดอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ หมู วัว ควาย แต่เน้น ไข่ ปลานิล ปลาทู ปลาทับทิม ปลากระพง ทำอาหารประเภทนึ่ง ต้ม ยำ ตามความเบื่อกับอาหาร แบบเดิมๆ
- ลดอาหารสำเร็จ ขนมขบเคี้ยว ซึ่งมีเครื่องปรุงรส เกลือโซเดียม ที่มีโอกาสทำให้เจ็บป่วยในอนาคต
- ศึกษาถึงประโยชน์และโทษของพืช ผัก ผลไม้ แต่ละชนิด เพื่อจะได้เลือกกินให้เหมาะสม ไม่ทำให้เจ็บป่วยภายหลัง
- กินเพื่ออยู่ อย่ากินมากเกินไป
3. ลดบุหรี่ เครื่องดื่มของมึนเมา กาแฟสำเร็จที่มีครีมเทียมเป็นส่วนผสม
4. ลดอาหารสำเร็จรูป หรือปรุงสำเร็จ อาหารตามสั่ง ตามร้าน อาหารแปรรูป อาหารปรุงรส บุหมี่สำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสแซบ ทั้งหลาย ซึ่งอุดมไปด้วยเกลือ ผงชูรส เครื่องปรุงรส ที่มีส่วนทำลายสุขภาพ
5. กินผลไม้สด แทนการดื่มน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลมาก

 

สำหรับคนมีเงิน ยามเจ็บป่วย ก็ใช่ว่าจะไม่ลำบาก เพราะอาจจะไม่สามารถไปหาหมอด้วยตนเองได้ ต้องให้คนรอบข้าง พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อนฝูง ช่วยเหลือ ส่วนคนโสด อยู่คนเดียวก็ต้องว่าจ้างคนอื่นให้ช่วยดูแล ส่วนคนที่เงินน้อย รายได้น้อยด้วยแล้ว จะยิ่งลำบากมาก จึงต้องดูแลตัวเองให้มาก โดยเฉพาะคนที่มีครอบครัว ลำพังเงินใช้จ่ายในบ้าน ก็น้อยอยู่แล้ว ยิ่งเจ็บป่วย ก็จะยิ่งมีรายจ่ายเพิ่มมากขึ้น สร้างภาระให้มากขึ้น

 

ความเจ็บป่วยของคนเรามักจะมาจากอาหารการกิน และเครื่องดื่ม หากสามารถควบคุม และ ดูแลตัวเองในเรื่องนี้ได้ ก็จะห่างไกลจากโรคภัย และเข้าใจความหมายของคำว่า การไม่มีโรคนั้นเป็นลาภอันประเสริฐ จริงๆ

 

ดังนั้น หากไม่อยากเป็น โรคคนรวย ก็ต้องดูแลสุขภาพตัวเอง ทั้งเรื่องการออกกำลังกาย จะเดินหรือวิ่งก็ได้ สถานที่ไม่สะดวก ก็ออกกำลังกายใน ห้อง ในบ้าน เดินย่ำเท้าอยู่กับที่ วิ่งอยู่กับที่ในห้อง โดยไม่หยุดสัก 20-30 นาที ไม่จำเป็นต้องมีลู่วิ่ง ดูแลเรื่องอาหารการกิน จำไว้เสมอว่า อาหาร อร่อยนั้น จะสร้างปัญหาให้สุขภาพในภายหลังเสมือ เพราะความอร่อยมักจะมาพร้อมกับสารพิษ ทำให้เจ็บป่วยในภายหลัง ซึ่งมาจากเครื่องปรุงรส ต่างๆ นั่นเอง รวมทั้งประเภทของเนื้อสัตว์ด้วยเช่นกัน เมื่อร่างกายแข็งแรงทั้งภายนอก และภายใน ก็จะไม่เจ็บป่วย มีความสุขกับเงินทองที่หามาได้ ไปอีกนาน

 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบทความในเว็บไซต์ของเรา ขอให้ผู้อ่านทุกท่าน มีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน