การปรับเปลี่ยน ปรับแต่งข้าวของเครื่องใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งานของบรรดาผู้สูงวัย ก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตมีความสะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น มีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะเมื่อสังขาร กำลังวังชา เริ่มเปลี่ยนไป หากยังใช้ของแบบมาตรฐาน ก็คง ไม่ดีแน่ และอาจจะเป็นภาระคนอื่น
เมื่ออายุมากขึ้น ความคล่องตัว สังขาร สรีระก็เปลี่ยนไป สำหรับชาวสูงวัยจึงจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง หรือปรับเปลี่ยนเครื่อง มือเครื่องใช้ หรือสิ่งของรอบตัว ให้เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อให้ชีวิตมีความสะดวกสบายมากขึ้น เพราะการใช้สิ่งของที่เป็นมาตรฐานอาจ ไม่เหมาะสมกับตัวเองแล้ว
การปรับเปลี่ยน ปรับแต่งของใช้ต่างๆ ให้เหมาะสมนั้น จำเป็นต้องเป็นคนช่างสังเกตุ ช่างจินตนาการ หรือชอบช่วยเหลือคนอื่น หรือ ผ่านประสบการณ์มามากจึงจะมองออก ศึกษาหาข้อมูลให้มาก มีความคิดสร้างสรรค์ เช่น ชาวสูงวัยบางคนใช้รถเข็นล้อขนาดใหญ่ขนของ แล้วเข็นขึ้นเนินอีกต่างหาก การขนของจะลำบากกว่า หนักกว่า เมื่อเทียบกับการปรับเปลี่ยนล้อให้มีขนาดเล็กลง
ของใช้ส่วนตัว
ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวมีหลายรายการที่ควรปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้สูงวัย ต้องใช้การสังเกตุ เช่น - ปรับเปลี่ยนที่ล้างจานให้ต่ำลง สามารถนั่งได้ เพราะการยืนไม่สะดวกแน่ปวดหลัง - ส่วนทำครัว ปรับลดขนาดความสูงจากยืนเป็นนั่ง ควรมีที่จับยึดกันล้ม - เครื่องครัว อุปกรณ์ทำอาหาร กินอาหารเรียบง่าย บางคนอายุมากแล้วเรื่องมาก อยากกินปลาก็ต้องปลาธรรมชาติ อยากกินแกง หน่อไม้ ก็ต้องใช้มะพร้าวสอยสดๆ จากต้น ข้าวของเครื่องใช้ประจำตัวมีหลายอย่างที่ควรมานั่งคิดวิเคราะห์ ออกแบบให้เหมาะสมกับตนเอง พยายามคิดและสร้าง อย่างใช้ตามมี ตามเกิด
ยานพาหนะขนาดเล็ก
การใช้มอเตอร์ไซต์หรือจักรยานแบบมีสามล้อ หรือพ่วงข้างจะช่วยให้ผู้สูงวัยมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ต้องให้ความสำคัญ กับไฟหน้า ไฟท้ายให้มีความสว่างชัดเจนป้องกันอุบัติเหตุ ผู้เขียนเห็นผู้สูงวัยบางคนปั่นจักรยานไปตลาดไปกลับประมาณ 6 กิโลเมตร แถมปั่นขึ้นเนินอีกต่างหาก หากใช้จักรยานแบบมีเกียร์ หรือจักรยานธรรมดา แต่เปลี่ยนจานหน้าให้เล็กลง สเตอร์หลังเปลี่ยนให้ใหญ่ขึ้น ก็จะปั่นได้ดีกว่า เบาแรง
รถเข็นช่วยถ่ายโอนสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก
การยกของหนักจะเริ่มเป็นปัญหาสำหรับคนสูงวัยดังนั้น รถเข็นขนาดเล็ก จึงเป็นสิ่งจำเป็น หรือกรณีใช้รถเข็นขนาดใหญ่ ให้จัดการ เปลี่ยนล้อให้มีขนาดเล็ก เข็นง่ายกว่าล้อที่มีขนาดโต บางคนอยู่หอพัก แต่ต้องขายของทุกวัน แทนที่จะหารถเข็นแบบพับได้สักคัน และ กล่องใบใหญ่สักใบ แพ็คของที่จะขายลงกล่องจับใส่รถเข็น เข็นเข้าลิฟท์ แทนที่จะให้ลูกหลานช่วยกันขนทีละนิดทีละหน่อย
แว่นตา แว่นขยาย
สายตาคนสูงวัยเริ่มแย่ การทำงานกับสิ่งของที่มีขนาดเล็กจะสร้างปัญหา จึงควรซื้อแว่นขยายติดบ้านไว้ บางทีอาจจะโดนเสี้ยนตำ หรือต้องเย็บผ้า การอ่านข้อความที่มีขนาดเล็ก
โทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน
การใช้โทรศัพท์สำหรับผู้สูงวัยเป็นสิ่งจำเป็น อย่ากลัวการเรียนรู้และคิดว่าการสอนให้คนสูงวัยใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเรื่องเสียเวลา ยอมสละเวลาและสอนด้วยความอดทน เพราะเมื่อสามารถใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ได้แล้ว ก็จะรู้วิธีสร้างความสุขให้ตัวเอง รู้วิธีค้นหาข้อมูล ไม่เอาแต่เรียกร้องความรักจากลูกหลาน แต่ทั้งนี้ก็ต้องสอนทั้งข้อดีข้อเสียด้วยเช่นกัน
ศึกษาเทคโนโลยี่ใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ช่วยงาน
เดี๋ยวนี้มีเทคโนโลยี่ใหม่ๆ ที่จะช่วยลดการทำงานได้ เช่น สวิทซ์ไฟเปิดปิดผ่านมือถือ ซึ่งจะสามารถนำไปปรับใช้กับการรดน้ำต้นไม้ เครื่องให้อาหารสัตว์เลี้ยงแบบมอเตอร์ไฟฟ้า ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ไฮเทคมีข้อมูลมากมายใน Youtube
ห้องน้ำ ห้องสุขา
เมื่อเริ่มสูงวัย ห้องน้ำที่เคยใช้อาจจะมีบางอย่างที่ไม่สะดวก ก็ต้องปรับเปลี่ยนเช่น มีมือจับ ที่ยึดจับ กันล้ม เปลี่ยนที่นั่งถ่ายจากแบบ เก่า นั่งยอง เป็นแบบนั่ง พื้นถ้าลื่นไปก็ต้องปรับเปลี่ยน อาจจะทำห้องน้ำไว้ในห้องนอนสำหรับคนสูงวัย เพื่อความสะดวก เพราะคน โบราณจะไม่สร้างห้องน้ำแบบนี้ จะเข้าห้องน้้ำแต่ละที ลำบากมาก
ห้องนอน
การปรับแต่งห้องนอนให้เหมือนคอนโด มีห้องน้ำ ส่วนทำครัวเล็ก อุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่จำเป็น เผือไว้ยามแก่ชรา เริ่มช่วย เหลือตัวเองลำบาก เผื่อเจ็บป่วยต้องนอนยาว จะไม่ลำบาก คนที่ดูแลก็ไม่ลำบากเช่นกัน บางคนป่วยหน้าร้อน บ้านเป็นหลังคาสังกะสี อากาศร้อนมาก คนดูแลก็ลำบากมาก สร้างปัญหาทั้งคนป่วยและคนดูแล
พื้นบ้าน
เมื่อเริ่มอายุมา การปรับแต่งพื้นบ้านควรให้เหมาะสมกับวัยในอนาคตด้วย เช่น พื้นระดับเดียวกัน พื้นลาดเอียงและจัดวางสิ่งของให้ เป็นระเบียบ กรณีเจ็บป่วยต้องใช้รถเข็น หรือขนของจะเพิ่มความสะดวกมากขึ้น
การปรับเปลี่ยนของใช้ อุปกรณ์ หรือสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิต จำเป็นต้องคิดต้องพยายามหาทางออกแบบ อย่าเอาแต่ คิดว่า แก่แล้ว ทำไม่ได้ ไม่อยากจะทำ บางคนเหมือนเด็ก จะให้ทำอะไรสักอย่าง ยากมาก กลัวไปหมด เรื่องนี้อย่าไปกลัว ยิ่งทำยิ่งมี ประสบการณ์ ยิ่งมีความรู้ ร่างกายก็ได้ขยับ สมองก็ได้คิด ยิ่งเป็นผลดี ร่างกายยังแข็งแรง สมองดี แม้จะมีอายุเกือบร้อย ย่อมจะดีกว่าอายุ 70 กว่า แต่ทำอะไรไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ชาวสูงวัยสามารถออกแบบเองได้นะ ขอแค่เปลี่ยนความคิด ต้องพร้อมเปลี่ยนตัวเอง และเรียนรู้สิ่ง ใหม่ๆ เพื่อปรับใช้กับชีวิต อย่าเอาแต่รอให้คนอื่นช่วยเหลือ
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้สูงวัย การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้สูงวัย จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้ดีกว่าตามที่ได้กล่าวมา เพราะจะสามารถช่วยชะลอความเสื่อม ของร่างกาย การปรับเปลี่ยนข้าวของเครื่องใช้ ก็อาจจะไม่จำเป็นมากนัก แต่วิธีนี้ค่อนข้างยาก เช่น
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง บางคนแม้จะอายุ 80 แล้วแต่ก็ยังแข็งแรงมาก ขับรถทางไกล ช่วยเหลือตัว เองได้สบายๆ บางคน 90 กว่า ยังสบายๆ ไม่เจ็บป่วย ร่างกายแข็งแรง ช่วยเหลือตัวเองได้ เมื่อออกกำลังกายเป็นประจำกล้ามเนื้อแข็งแรง ก็จะไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นหรือเครื่องมือเครื่องใช้มากนัก
อย่าหยุดใช้สมอง หยุดคิด
นอกจากร่างกายแล้ว ก็ต้องใช้ความคิด เพื่อให้สมองได้ทำงาน บางคนอายุ 90 กว่าแล้ว ยังเล่นหุ้นแต่ละเดือนมีรายได้มากกว่าลูกๆ เสียอีก ร่างกายก็ยังแข็งแรง ไม่ต้องกลัวอาการหลงๆ ลืมๆ บางคนแก่แล้ว ไม่ยอมใช้สมองกลัวจะเสื่อม กลับตรงกันข้าม ยิ่งออกกำลัง กายก็ยิ่งเป็นผลดี
ห้ามหยุดพฤติกรรมที่เคยทำ
สิ่งใดก็ตามที่เคยทำ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และพยายามทำให้มากขึ้น หากพบว่า เริ่มช้าลง เพราะไม่ค่อยได้ทำ บางคนเคยขับรถได้ แต่หยุดไปนาน อายุ 50 กว่าก็ขับไม่ได้แล้ว และก็เอาแต่คิดว่าตัวเองขับไม่ได้อีกแล้ว แม้จะไม่ได้ขับนาน แต่หากยังขับได้ ก็ไม่ใช่ปัญหา เลย เพราะบางคนกำลังเริ่มเริ่มขับรถที่อายุ 50 กว่าก็มี
การปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้เหมาะสมกับตัวเองก็จะช่วยให้ชาวสูงวัยใช้ชีวืตอย่างมีความสุขมากขึ้น การปรับแต่งบางอย่างไม่ต้องรอ จนแก่ชรา ออกแบบไว้เผื่ออนาคตได้เลย อย่างห้องน้ำ เพราะบางครั้งยังไม่แก่แต่ป่วยหนักดูแลตัวเองไม่ได้ บางคนทำห้องน้ำไว้นอกบ้าน สร้างความลำบากอย่างมาก