Sponsored Ads

จากประสบการณ์ในการรับจ้างเฝ้าบ้าน ซึ่งก็จะมีสัตว์เลี้ยงอย่าง หมา แมว อยู่ด้วย แต่ละบ้านก็จะมีวิธีให้อาหารต่างกันไป ในบทความนี้ก็จะมาแชร์ประสบการณ์ในเรื่องการให้อาหารหมาแต่ละแบบ เผื่อหลายคนที่มีสัตว์เลี้ยงจะได้นำไปปรับใช้ให้เหมาะสม เพราะบางคนก็เน้นการทำอาหารมากเกินไปจนทำให้เสียเวลา หรือ มีค่าใช้จ่ายในเรื่องอาหารมากเกินไป หรือทำให้ชีวิตตัวเองและคนในบ้านเกิดความยุ่งยากตามไปด้วย

 

 

การมีสัตว์เลี้ยงอย่างหมา บางคนก็ตั้งใจนำมาเลี้ยงเพื่อเฝ้าบ้าน บางคนก็ตั้งใจนำมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เป็นลูกรัก ฯลฯ แต่ละคนก็จะมีเหตุผลต่างกันไป ดังนั้นความรัก ความเอาใจใส่ก็จะต่างกัน ในบทความนี้จะมาแนะนำแนวทางจัดการกับอาหารหมาแบบต่างๆ ตัวอย่างเช่น

 

เน้นอาหารเม็ด ข้อดี ข้อเสีย

สำหรับข้อดีของการให้อาหารเม็ดนั้นสะดวก อาจจะเทใส่ภาชนะที่ให้อาหารโดยเฉพาะ เมื่อสัตว์เลี้ยงกินหมด อาหารเม็ดก็จะไหลออกมาเอง หรือ อาจจะใช้เครื่องตั้งเวลา เมื่อถึงเวลาอาหารก็จะไหลออกมา สามารถอัดเสียงเจ้าของได้ บางรุ่นมีกล้อง มองเห็นสัตว์เลี้ยงได้ เหมาะสำหรับใครที่เลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้าน เฝ้าสวน ตัวเองไม่อยู่บ้านหลายวัน

 

DIY เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ สำหรับหมาหลายตัว ซึ่งจะมีจ่าฝูงที่หวงอาหาร ไม่ยอมให้ตัวอื่นกิน จึงต้องแยกท่ออาหารไปไกลๆ กัน

 

สำหรับข้อเสียของอาหารเม็ด ก็มีหลายอย่างเช่น
1. เมื่อโดนอากาศ อาหารเม็ดอาจจะขึ้นอืด มีกลิ่นไม่น่ากิน
2. การเทใส่ภาชนะทิ้งไว้ หากหมากินไม่หมด ก็จะมีสัตว์ชนิดอื่นมากินด้วย เช่น หนู นก
3. หมาที่เป็นจ่าฝูง มักจะกันท่า ไม่ให้ตัวอื่นกิน ตัวที่อ่อนแอที่สุด ก็อาจจะไม่ได้กิน โดยเฉพาะกรณีที่ใช้เครื่องตั้งเวลาให้อาหาร เว้นแต่จะใส่ในที่ให้อาหาร และวางแยกกันให้ห่างกันมากๆ แต่ก็ยากจะป้องกัน หมาจากที่อื่นที่จะเข้ามาแย่งกิน เครื่องให้อาหารอัตโนมัตจึงเหมาะสำหรับหมาตัวเดียว หรือ หลายตัว แต่ไม่กัดกันเมื่อให้อาหาร


4. อาหารเม็ดอาจจะทำให้เกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะในอนาคต สำหรับหมาตัวผู้

 

อาหารไมโครเวฟ ข้อดี ข้อเสีย

สำหรับข้อดีของอาหารไมโคเวฟ ก็จะเป็นการทำอาหารสดแบบต่างๆ บางคนก็ซื้อซี่โครงไก่มาต้มแล้วแบ่งใส่กล่อง ใส่ถุง พอดีในแต่ละมื้อ และจำนวนสัตว์เลี้ยงที่มี จากนั้นก็จะนำไปแช่ตู้เย็นเอาไว้ เมื่อถึงเวลาให้อาหาร ก็จะนำไปอุ่นด้วยเตาไมโครเวฟ วิธีนี้สะดวกอย่างมากสำหรับผู้เลี้ยง

 

สำหรับข้อเสียของอาหารที่นำเข้าไมโครเวฟก็จะมีหลายอย่างเช่น
1. เสียเวลาหน่อย ในการเตรียมอาหาร การปรุง การจัดแบ่งใส่กล่อง ใส่ถุง เพื่อนำเข้าตู้เย็น บางคนก็เน้นทำอาหารในปริมาณมาก แล้วอุ่นเช้าเย็น ก็จะเสียค่าแก๊ส ค่าไฟ
2. เตาไมโครเวฟค่อนข้างกินไฟ ค่าไฟฟ้าแพงขึ้นอย่างแน่นอน หากต้องทำอาหารด้วยเตาชนิดนี้บ่อยๆ

 

ทำอาหารสดใหม่ให้กินทุกวัน

สำหรับข้อดีของการทำอาหารสดใหม่ สัตว์เลี้ยงจะได้กินอาหารปรุงใหม่ๆ ตามแต่เจ้าของอยากจะทำในแต่ละวัน แต่ควรเป็นอาหารที่ไม่มีรสจัด ป้องกันปัญหาตับ ไต อวัยวะภายในของสัตว์เลี้ยงในอนาคต บางคนเน้นต้มโครงไก่ ตับ นึ่งปลา ให้กินทุกวัน คลุกกับข้าว

 

สำหรับข้อเสียจะเป็นเรื่องเวลา ที่อาจจะยุ่งยาก ต้องเตรียม ต้องคิดเมนู แต่บางคนก็เน้นเมนูเดียวเท่านั้น ต้มโครงไก่ คลุกข้าว ให้กินทุกวัน สลับกับอาหารที่เหลือของคน ข้อเสียอีกเรื่องก็จะเป็น เรื่องเวลา เสียเวลา และ มีค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟ ค่าแก๊ส เพราะการทำอาหารสดใหม่ จะใช้เวลามากกว่า การนำอาหารมาอุ่น

 

เน้นอาหารเหลือจากคน

สำหรับข้อดีของการให้อาหารแบบนี้ ก็คือ ไม่ต้องทำอะไรมาก คนกินเหลือ ก็ให้หมากินตามมีตามเกิด หรือ อาจจะทำอาหารในปริมาณมากหน่อย เผื่อคน เผื่อหมาด้วย ความรักสัตว์เลี้ยงของคนเราไม่เท่ากัน คนก็คน หมาก็หมา แยกกัน แต่บางคนรักสัตว์เลี้ยงมาก หมาก็เหมือนสมาชิกในบ้านคนหนึ่ง ไม่ใช่หมา ในเรื่องแบบนี้ ก็ตามสะดวก

 

สำหรับข้อเสียของอาหารที่เหลือจากคน ก็มีหลายอย่าง เช่น
1. สารอาหาร ย่อมจะไม่เพียงพอ กินไปตามมีตามเกิด
2. อาหารของคนซึ่งมีรสจัด โดยเฉพาะรสเค็ม ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง

 

อาหารนึ่ง พร้อมกับการหุงข้าว

สำหรับข้อดีของการทำอาหารแบบนี้ ก็คือประหยัดเวลา โดยการหุงข้าว ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าที่มีซึ้งนึ่ง นึ่งอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ปลา หรือ อุ่นอาหารก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลานำไปเข้าเตาไมโครเวฟ ข้าวสุก อาหารก็สุก พร้อมคลุกให้สัตว์เลี้ยงกินได้ทันที อาจจะวางแผนให้กินวันละมื้อ สะดวกประหยัดเวลาในการประกอบอาหาร นอกจากนี้อาหารประเภทนึ่งก็ยังดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยง

 

สำหรับข้อเสียของการทำอาหารแบบนี้ก็คือ ควรจะมีการแบ่งอาหารสดให้พอดีในแต่ละมื้อ แยกเก็บใส่กล่อง ใส่ถุง จากนั้นก็แช่เย็นเอาไว้ แล้วทยอยนำมานึ่งไปพร้อมกับการหุงข้าว เพื่อนำมาคลุกกับข้าว ให้สัตว์เลี้ยงกินในแต่ละวัน ก็ต้องทำให้กินทุกวัน เหมือนคนที่ต้องกินข้าวทุกวัน

 

ทำอาหารปริมาณมาก อุ่นทุกวัน

สำหรับข้อดีของการทำอาหารแบบนี้ ก็คือ ความสะดวก และ ประหยัดเวลาสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง โดยจะนำอาหารทั้งหมด ไปต้ม ไปนึ่ง ตามแต่ชนิดของอาหาร แล้วอุ่นเช้า อุ่นเย็น หุงข้าวแล้วนำมาคลุกให้กิน

 

สำหรับข้อเสียก็คือ เสียเวลา อุ่นอาหาร เช้าเย็น และ อาจจะใช้เวลาหลายวันกว่าสัตว์เลี้ยงจะกินหมด รสชาติก็อาจจะไม่น่ากิน การอุ่นอาหารทุกวันนอกจากเสียเวลาแล้ว ก็จะเสียค่าไฟ ค่าแก๊สมากขึ้น

 

ซื้ออาหารสำเร็จ

สำหรับข้อดีของการซื้ออาหารสำเร็จก็คือง่าย บางโอกาสที่จะต้องไปเฝ้าบ้านให้เพื่อน ต้องเลี้ยงหมาด้วย ก็จะใช้วิธีซื้อข้าวกล่องมาคลุกให้กิน วันละกล่อง สะดวกทั้งคนทั้งหมา แต่การสั่งอาหารควรเน้นรสไม่จัด โดยเฉพาะเค็ม พวกปลากระป๋องก็ไม่ควรใช้ เพื่อสุขภาพตับไตของสัตว์เลี้ยง การซื้ออาหารสำเร็จอาจจะซื้อแยกเป็นกับข้าวก็ได้ ซื้อมาแช่ตู้เย็นแล้วอุ่น หรือเอาเข้าเตาไมโครเวฟ ไว้คลุกกับข้าวอีกที

 

สำหรับข้อเสียของอาหารแบบนี้ จะเป็นเรื่องราคา ค่าใช้จ่ายสูง อาหารกล่องไม่น้อยกว่า 50 บาทต่อกล่อง จึงไม่เหมาะหากต้องเลี้ยงหลายวัน ผู้เขียนเลือกวิธีนี้ เนื่องจากไปเฝ้าบ้านให้เพื่อนไม่กี่วัน ขี้เกียจทำอาหารให้กิน

 

สรุป

สำหรับใครที่มีสัตว์เลี้ยงอย่างหมา ซึ่งหลายคนก็เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน เลี้ยงไว้เป็นเพื่อน ฯลฯ ในเรื่องอาหารการกิน ก็ควรจะให้เขาได้กินอิ่ม แต่ขณะเดียวกัน ก็ไม่ทำให้เราเสียเวลามากนัก หรือ มีค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป อย่างเพื่อนผู้เขียนเลี้ยงไว้ 3 ตัว ไม่ได้มีรายได้มากนัก ก็จะเน้นเมนูโครงไก่ต้ม คลุกข้าวใหกินทุกวัน ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 50 บาทต่อวัน แต่จะเสียเวลาหน่อยกับการสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ ก่อนจะนำไปต้ม จากที่กล่าวมาทั้งหมด ใครชอบแบบไหน ก็เลือกได้ตามสะดวก