ชีวิตเรียบง่าย อยู่แบบพอเพียง สมถะ เป็นชีวิตที่มีความสงบสุข แต่ไม่ง่ายสำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะคนที่จะสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ ได้ต้องมีคุณลักษณะพิเศษเท่านั้น คนธรรมดาทั่วไปใช่จะสามารถทำได้ง่ายนัก เนื่องจากมีอุปสรรคให้ฝ่าพันเยอะว่าที่คิดไว้มาก

การเรียนรู้และศึกษาถึงมุมมองและวิธีคิดของคนในสังคมไทยเราจริงๆ เกี่ยวกับชีวิตเรียบง่ายและพอเพียง จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ ที่วางแผนจะใช้ชีวิตแบบนี้ มุมมองของผู้เขียนมาจากประสบการณ์ตรงที่เจอกับตัวเอง มันไม่ได้สวยงามอย่างที่คิด โดยเฉพาะปัญหาจาก คนรอบข้างหรือสังคมที่อยู่อาศัย หากผู้อ่านไม่เคยเจอมาก่อน ยังโลกสวย ก็ยากจะเข้าถึง ดังนั้นก็คิดว่าอ่านเพื่อความบันเทิงก็แล้วกัน เพราะประสบการณ์ชีวิตของแต่ละคนนั้น มีมากน้อย เกิดเร็ว เกิดช้า ต่างกัน คนที่ใช้ชีวิตเสี่ยงๆ ลุย โลดโผน จะได้รับประสบการณ์ มากกว่าคนที่ใช้ชีวิตปกติธรรมดาทั่วไป

 

มุมมองและอุปนิสัยพื้นฐานของคนไทยขัดแย้งกับการมีชีวิตเรียบง่าย

คนไทยให้ความสำคัญกับความมีชื่อเสียง ฐานะ เงินทอง ตำแหน่งหน้าที่การงาน และอะไรก็ตามที่แสดงถึงความมีหน้ามีตา มีคน ยกย่องสรรเสริญ ต้องเด่นกว่าคนอื่น คนที่จะใช้ชีวิตเรียบง่ายที่จะได้รับการยอมรับ เราจะเห็นว่า ส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติ พิเศษดังที่ว่ามา ยิ่งมีมาก ก็ยิ่งดี เช่น เป็นคนมีชื่อเสียง เป็นดารา มีรถหรู บ้านหรู มีตำแหน่งหน้าที่การงาน ร่ำรวยเงินทอง แล้วใช้ชีวิต เรียบง่าย กินง่าย อยู่ง่าย คนแบบนี้ คนไทยยอมรับ นับถือมากกก รวยแล้วทำตัวติดดิน คนไทยชอบมากกกก และอีกมุมหนึ่งก็เป็น เกราะป้องกันตัวเองอย่างดีอีกด้วย หากวันใดขีวิตตกต่ำ ทำธุรกิจผิดพลาด คนก็จะเห็นใจ เพราะมองว่าเป็นเวรเป็นกรรม มากกว่าคนที่ ร่ำรวย ใช้ชีวิตหรูหรา ฟุ่มเฟือย ตกอับเมื่อใด ก็จมดิน

 

หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป ไม่รวย ไม่มีสมบัติอะไร เป็นชาวบ้านทั่วไป ไม่มีคุณสมบัติอะไรโดดเด่นแล้ว แต่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ก็ยากที่ คนจะยอมรับ แถมอาจถูกมองว่าเป็นพวกกระจอก ดูถูก ดูแคลน นี่คือเรื่องจริงที่จะต้องเจอ และต้องเตรียมรับมือ โดยเฉพาะในสังคม ยุคนี้ที่มีการแข่งขันค่อนข้างสูง แข่งกันทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องการมีชีวิตเรียบง่าย หรือมีชีวิตพอเพียง สมถะ ซึ่งบุคคลแบบนี้ที่จะได้รับการ ยอมรับจะต้องเป็นนักบวช ครูอาจารย์ ผู้ทรงศีล ปราชญ์ชาวบ้าน ต้องมีอะไรที่เป็นประโยชน์กับคนในสังคม ต้องมีคุณสมบัติบางอย่างที่ เป็นประโยชน์

 

การวางแผนใช้ชีวิตเรียบง่าย หากเป็นคนที่แคร์สังคม แคร์เสียงพูด ลมปากชาวบ้าน อ่อนไหว ก็จำเป็นต้องสร้างเข้าใจเรื่องแบบนี้ให้ ก่อน ไม่เช่นนั้นอยู่ยากมาก

 

มุมมองของคนในครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง

เรื่องนี้ค่อนข้างสำคัญที่จะต้องรู้ว่า พ่อแม่พี่น้องหรือคนในครอบครัวคิดอย่างไร ความคาดหวังของพ่อแม่ ต้องการให้ลูกเป็นอะไร บางครอบครัวคาดหวังให้ลูกเป็นข้าราชการเพราะมีหน้ามีตา มีคนนับถือ ดังนั้นหากใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่สนใจลาภ ยศ สรรเสริญ ชื่อเสียง ก็คงจะไม่ลงรอยกันง่ายๆ

ผู้เขียนเองก็มีปัญหากับทางบ้านสิบกว่าปี เพราะอยากให้เป็นข้าราชการ ซึ่งพ่อแม่มองว่า มีหน้ามีตา มีเงิน รวย (เพราะกู้) ช่วงนั้นเงินเดือนข้าราชการปริญญาตรีเริ่มต้นเพียง 6380 บาทเท่านั้น ในขณะที่การทำอาชีพอิสระ ทำงานส่วนตัว รายรับ มากกว่าหลายเท่าตัว แต่ครอบครัวไม่ชอบ เรื่องนี้จึงกลายเป็นปัญหาที่ทำให้มีปากเสียงกันอยู่หลายปี

 

ดังนั้นถ้าต้องการใช้ชีวิตเรียบง่าย อยู่สบายๆ ใช้ชีวิตแบบพอเพียง แต่หากสวนทางกับความคาดหวังของทางบ้านที่อยากจะให้เป็น การใช้ชีวิตเรียบง่าย ก็คงจะไม่ง่ายอย่างที่คิด ตำแหน่งหน้าที่การงาน การเงิน ลาภ ยศ ชื่อเสียงของลูกๆ หรือสมาชิกในครอบครัว เป็น อีกเรื่องที่ผู้คนมักจะยกมาอวดกัน ลูกหลานใครด้อยกว่า ไม่เพียงไม่ได้รับการยอมรับ แต่ยังโดนดูถูก ติฉินนินทา นี่คือสังคมไทย ความ คาดหวังของคนในครอบครัว คนรอบข้างเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกข์กาย ทุกข์ใจอย่างมาก จนยากที่จะมีชีวิตที่ตัวเองต้องการ

 

เพื่อนสนิท มิตรสหาย ยากที่จะเข้าใจและยอมรับ

คนใช้ชีวิตเรียบง่าย บางทีก็เหมือนแกะดำ ในหมู่เพื่อนๆ หรือที่ทำงาน เช่น ข้าราชการ หรือคนทำงานที่แข่งกันสะสมชื่อเสียงและวัตถุ ซึ่งทางออกก็ต้องกู้อย่างเดียวหากไม่มีรายรับทางอื่น เพื่อให้มีวัตถุเหมือนคนอื่นหรือเด่นกว่า การใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่สร้างหนี้ อยู่แบบ พอเพียง ยังไม่พร้อมจะซื้อรถก็ไม่ซื้อ อาจไม่มีวัตถุเหมือนคนอื่น ก็คงไม่ง่ายนักที่จะได้รับการยอมรับ หรือแม้แต่ในหมู่เพื่อนๆ ก็เหมือน กัน

โดยเฉพาะทุกวันนี้ ที่จะต้องแข่งกันมีวัตถุ มีรถ มี iPhone iPad หน้าที่การงาน การเงินที่ดี คนใช้ชีวิตเรียบง่าย ยากจะได้รับการยอม รับ ถ้าไม่รักกันจริง เมื่อตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่ละคนเริ่มสูงขึ้น การเป็นเพื่อน อาจจะถึงจุดที่จะต้องแยกทาง เพราะแต่ละคนก็จะมี สังคมที่สูงขึ้น ตามตำแหน่งงาน ถ้าไม่มีคุณสมบัติที่เทียบเท่ากับเพื่อนในกลุ่ม ก็จะเป็นได้แค่พลเพื่อนชั้นสองในกลุ่มเท่านั้น และทำให้ หลายคนต้องเดินจากไป คนละแนวทาง

 

อยากมีชีวิตเรียบง่าย พอเพียง ต้องวางแผน และเดินตามแผน

การมีชีวิตเรียบง่ายต้องมีความเข้าใจว่าชีวิตเรียบง่าย พอเพียงนั้น ไม่สร้างปัญหาและมีความสงบสุข และยึดมั่นแนวทางนี้อย่างเด็ด เดี่ยว โดยไม่สนใจใคร โดยเฉพาะความคาดหวังของคนในครอบครัว คนใกล้ตัว การเริ่มวางแผน และค่อยๆ ทำตามแผนเป็นระยะๆ ย่อมจะสร้างแรงกดดันน้อยกว่า กว่าคนรอบข้างจะรู้ตัว ก็เริ่มจะยอมรับแล้วเห็นดีด้วย หรือเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว ก็ต้องจำใจยอม

 

ศึกษาหาความรู้จากผู้มีประสบการณ์ คบค้าสมาคม เยี่ยมเยียนดูงาน และลงมือปฏิบัติ ซึ่งก็จะเริ่มเจอปัญหาในหลายๆ เรื่องดังที่ผู้ เขียนได้เจอะเจอมา อาจจะไม่ทั้งหมด แต่อย่างไรก็เจอแน่นอน การลงมือทำเป็นเรื่องสำคัญ ปัญหาที่เริ่มเจอ จะเริ่มมาทีละเล็กละน้อย แก้ง่ายกว่า หาทางออกง่ายกว่า ทั้งปัญหาที่เกิดกับตัวเอง หรือความคาดหวังของคนรอบข้าง

บางคนแม้จะเป็นข้าราชการตำแหน่งใหญ่โต แต่ก็เลือกจะใช้รถเล็กๆ ไม่ได้ใช้รถหรูราคา 7 หลัก อย่างที่ข้าราชการระดับสูงส่วนใหญ่ นิยมปฏิบัติกัน ชีวิตก็มีความสุขมากกว่า ไม่เครียดกับรายจ่ายทั้งการผ่อน ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน ฯลฯ หรือแม้แต่คนรวยๆ ระดับต้นๆ ของโลกอย่าง วอเรน บัฟเฟด ก็ยังใช้ชีวิตเรียบง่ายมาก ในขณะที่มหาเศรษฐีส่วนใหญ่จะต้องมีเรือยอร์ช บ้านหรู รถสปอร์ตนี่คือการวาง แผนอย่างหนึ่ง แล้วเดินตามแผนใช้ชีวิตเรียบง่าย

คนทำงาน มนุษย์เงินเดือน ที่ยังต้องเกี่ยวพัน ยังต้องแคร์สังคม คงไม่ง่าย เหมือนคนทำอาชีพอิสระ ที่ยืนบนลำแข้งตัวเองได้ ทำอะไร ได้อิสระมากกว่า และมักจะไม่แคร์อะไร ไม่แคร์ใคร ดังนั้นก็ต้องหาทางออกว่าจะเจอกันตรงกลางระหว่างความเรียบง่ายของตัวเอง และ กระแสสังคมในถิ่นที่ตัวเองต้องอยู่อาศัย ต้องดำเนินชีวิตอย่างไร เพื่อหาตำแหน่งและวางตัวเองให้อยู่ในจุดที่ยืนได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องเจอความ กดดันจากคนรอบข้างที่ต้องการให้ทำตามกระแสที่คนส่วนใหญ่ทำกันมากนัก เช่น บางคนต้องใช้รถยนต์ หรือมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดเท่านั้น เป็นต้น ใครด้อยกว่า อาจจะโดนกันออกจากกลุ่ม หรือกลายเป็นพลเมืองชั้นสองของกลุ่ม การวางตำแหน่งของตัวเองในสังคมให้ได้เป็น เรื่องสำคัญ

 

อยากมีชีวิตเรียบง่าย ควรหาสถานที่ของตัวเองโดยเฉพาะ

หากทางบ้าน ครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนบ้าน คนรอบข้างไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับกับแนวทางชีวิตเรียบง่ายและอาจจะแสดงออกด้วยท่า ทาง การกระทำ คำพูด ด้านลบ รบกวนจิตใจ เป็นระยะๆ สร้างความหงุดหงิดรำคาญใจ บางทีการหาสถานที่อยู่อาศัยสำหรับใช้ชีวิตแบบ เรียบง่ายและพอเพียง มีความเป็นส่วนตัวอย่างที่ตัวเองต้องการ เช่น ซื้อบ้าน หรือซื้อที่ดินปลูกบ้านเอง ต้องหาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัว เอง อย่ารับจากใคร ระวังอย่าให้ใครเข้ามาก้าวก่าย จะสร้างปัญหาในภายหลัง ป้องกันความคาดหวัง ที่คนเหล่านั้นจะพากันเรียกร้อง บางคนให้เงิน ให้ความช่วยเหลือไปก่อน แล้วค่อยทวงบุญคุณภายหลัง

สำหรับครอบครัวคนไทยส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งมักแวดล้อมไปด้วยญาติสนิท มิตรสหายมากมาย ซึ่งมักจะชอบ ความมีหน้ามีตา มีชื่อเสียง ดังนั้นจึงเป็นปัญหาอย่างแน่นอน หากมีลูกหลาน ที่อยู่เรียบง่่าย พอเพียง ไม่มีหน้าตา หรือตำแหน่งการงาน ในสังคมที่จะเชิดหน้าชูตา วงศ์ตระกูลได้ การมีปัญหากระทบกระทั่งกันย่อมเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อมีพูดถึงอาชีพ หน้าที่การงานของลูก หลานแต่ละคน แล้วเกิดการเปรียบเทียบ การอยู่บ้านเกิดจึงกลายเป็นปัญหาทันที ให้บางคนต้องหาที่อยู่ใหม่ การเลือกที่อยู่ให้ห่างกัน เพื่อใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการจะเป็นการดีกว่า

ในหมู่เพื่อนฝูงบางคนก็เช่นกัน เมื่อต่างคนต่างมีหน้าที่การเงิน การงานที่สูงขึ้น เจอกันระดับสูงขึ้น แต่คนเรียบง่าย พอเพียง มักจะมี ชีวิตที่เดิมๆ อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น ไม่มีการเลื่อนขั้นเป็นพนักงานพอเพียง ผู้จัดการพอเพียง ก็ยังเป็นคนธรรมดาสามัญชนทั่วไป ไม่ เหมือนพนักงาน คนทำงาน อาจจะไม่ได้รับการยอมรับ การแยกตัวออกไปไกลๆ ไปอยู่ในมุมของตัวเอง จะสบายใจทุกฝ่าย เพราะคนที่มี ชีวิตเรียบง่ายไม่ตามกระแสกับคนที่ตามกระแสวัตถุ ไปกันยากมาก การอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ หรือไม่ต้องห่วงหากันอีกแล้ว จึงเป็น ทางออกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะคนทำงานอิสระกับพนักงาน มนุษย์เงินเดือน ที่มีตำแหน่งงานสูง ที่ยังต้องสวมหัวโขน สามหน้ากากอยู่ ยาก จะคุยกันรู้เรื่อง บางทีต้องรอให้ถอดหัวโขนออกก่อน

 

การเลือกยานพาหนะ สำหรับคนใช้ชีวิตเรียบง่าย

ยานพาหนะเป็นสิ่งจำเป็น ควรเน้นรถอเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลายไว้ก่อน เพราะการมีชีวิตที่เรียบง่าย พอเพียง หากอยู่ต่าง จังหวัดเน้นทำไร่ทำสวน ต้องเน้นพึ่งพาตนเองเป็นหลัก ต้องลดการพึ่งพาคนอื่น เพราะหากแนวทางชีวิตที่เราเลือกนั้น ไม่มีใครเห็นด้วย ก็อาจจะหาคนคบได้ยาก หรือไม่อยากจะคบใคร การพึ่งพาตนเองจึงเป็นเรื่องสำคัญ

ยานพาหนะควรมีหลายแบบ ทั้งจักรยาน จักยานยนต์ และรถยนต์ เพื่อไว้ใช้งานที่หลากหลาย และช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย อย่างการ เดินทางในระยะใกล้ ก็ใช้จักรยาน หรือจักรยานยนต์ เดินทางไกล ออกงานก็ใช้รถยนต์เป็นต้น

การมียานพาหนะนอกจากเพื่อประโยชน์ใช้สวยแล้ว บางทีก็ต้องยอมรับว่า รถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงความมีฐานะ แม้จะใช้ชีวิต เรียบง่าย พอเพียง แต่เป็นคนมีฐานะ จะใช้ชีวิตอย่างเงียบสงบมากขึ้น ไม่มีใครกล้ามาพูดจาดูถูกหรือแสดงท่าทางรังเกียจ นี่คือเรื่องจริง ที่ใครไม่เจอกับตัว ก็ยากจะรู้ว่า มันทำให้หงุดหงิดมากเพียงใด โดยเฉพาะหากต้องเจออยู่บ่อยๆ

ผู้เขียนก็มีประสบการณ์ตรงกับรถเก่า เน่าๆ คันหนึ่ง ที่ชอบขับมาก รถใหม่มีแต่ไม่ค่อยแตะ บางคนถึงขนาดขอร้องว่า ไม่ให้ขับเข้า บ้านตัวเอง การเลือกยานพาหนะที่คนส่วนใหญ่ใช้กัน ทำให้เหมือนคนส่วนใหญ่ ก็จะสบายใจทั้งตัวเราเองด้วย และคนอื่นด้วย ที่อาจจะ มองแล้วรู้สึกว่า ขัดตา ไม่สบายตา ก็เลยหาเรื่องว่า ตำหนิ บางคนเดินมาถามตรงๆ เลยว่า ทำไมใช้รถเก่าจัง ก็เลือกรถให้เหมาะสมกับ ฐานะ และสังคมที่เราต้องอยู่อาศัย ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นก็จัดรถแพงๆ หลักล้านไปเลย ช่วยปิดปากพวกชอบพูดจาดูถูกคนอื่นได้ดีนัก

 

วิถีทางใช้ชีวิตพอเพียงของแต่ละอาชีพที่ต่างกัน

เมื่อนึกถึงการใช้ชีวิตเรียบง่าย และพอเพียง หลายคนจะต้องนึกถึงกระท่อมปลายนา บ้านในสวน หรือบ้านเล็ก ปลูกผัก ปลูกผลไม้ เลี้ยงปลา กินเอง ใช้ชีวิตอย่างสงบในต่างจังหวัด แล้วก็จะรีบตัดสินตัวเองทันที ว่าทำไม่ได้ ตอนนี้อยู่ในเมือง ต้องเช่าหอ ไม่มีบ้าน ไม่มี ที่ดินเพราะปลูกตอนนี้ยังต้องทำงานอยู่กทม ดังนั้นเลิกคิดไปเลย แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็สามารถนำหลักการชีวิตพอเพียง มาปรับใช้ได้ทั้งหมด ไม่มีบ้านอยู่หอพัก อพาร์ทเมนต์ ก็สามารถทำได้ เช่น

- แทนที่จะซื้ออาหารกินทุกมื้อ ก็เปลี่ยนเป็นลองทำอาหารกินเองง่ายๆ อย่างข้าวผัดผักรวม 1 จานแบบนี้ ทำกินเอง ต้นทุนประมาณ 15 บาท แต่การซื้ออาหารตามสั่งต้องจ่ายไม่ต่ำกว่า 30 บาท ปกติคนส่วนใหญ่จะกินข้าวประมาณ 10-15 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 300-400 บาท แต่การซื้อข้าวนอกบ้านจะต้องจ่ายประมาณ 700-1050 บาท (ข้าว 1 กก. หุงแล้วได้ประมาณข้าวในร้านตามสั่ง 7 จาน คิดจานละ 10 บาท)

- การอยู่ในอพาร์ทเมนต์ ก็สามารถปลูกผักได้หลายชนิด ก็จะยิ่งประหยัดมากยิ่งขึ้น การทำอาหารกินเองต้นทุนอาจจะเหลือไม่ถึง 15 บาท เป็นต้น

- การรู้จักเลือกซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่มีความทนทาน ใช้งานได้นาน เช่น มือถือบางรุ่นแบตเตอรี่เสื่อมเร็ว มีปัญหาบ่อย ไม่ถึงปีต้อง เปลี่ยน แต่บางรุ่น 4-5 ปี ยังใช้งานได้ ก็ประหยัดเงินกับค่าโทรศัพท์ ใช้ให้คุ้มค่าแบบนี้ ก็เป็นการใช้ชีวิตเรียบง่ายหรือการซื้อของ ปริมาณมากจะจ่ายน้อยกว่าซื้อปริมาณน้อย เป็นต้น

- การซื้อรถยนต์ ซื้อเมื่อพร้อม และจำเป็นต้องใช้จริงๆ เน้นซื้อบ้าน ต้องมีบ้านก่อน - การทำงานผ่านเน็ต ทำเว็บไซต์ หาเงินจาก Youtube หรือผ่านช่องทางอื่นๆ รับทำเว็บ บางคนไปอยู่ต่างจังหวัดไกลๆ อยู่หอพักใกล้ มหาวิทยาลัยในต่างจังหวัด ค่าครองชีพต่ำ ใช้ชีวิตสบายๆ ก็เป็นการใช้ชีวิตเรียบง่าย สบายๆ

ทุกอาชีพสามารถนำหลักการของการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายและพอเพียงไปใช้ได้ทั้งหมด ต้องรู้จักวิธีประยุกต์ ไม่ใช่เอาแต่คิดว่า ต้อง มีที่ดิน ที่สวน ที่นา มีบ้านอยู่ต่างจังหวัด อยู่ในเมืองก็จริง แต่ใช่ชีวิตเรียบง่ายเหมือนคนอยู่ต่างจังหวัด

 

ต้องพร้อมที่จะอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว พึ่งพาตนเองได้

หากการมีชีวิตเรียบง่ายนั้นขัดใจคนรอบข้าง โดยเฉพาะในหมู่ญาติพี่น้องที่มีฐานะ ในสังคมชนบทอาจจะเป็นกันมากกว่าในเมือง แต่ ก็ไม่ใช่ทุกที่ การทำตัวเด่น ก็อิจฉา แต่มีปัญหาการเงิน ก็จะขอยืมเงิน ทำตัวด้อยก็ดูถูก บางทีก็วางตัวยาก หากเกิดความอึดอัดใจ เบื่อ รำคาญ การอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ยุ่งกับใคร แต่มีความสุข พึ่งพาตนเองได้ ก็จะเป็นเรื่องดี ไม่แคร์ใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน คบแต่คน ประเภทเดียวกัน คิดเหมือนกัน ก็จะมีชีวิตอย่างเรียบง่าย พอเพียงอย่างมีความสุข

 

ความเรียบง่าย พอเพียงยังไม่สามารถสร้างความสุขที่แท้จริงให้เราได้

การใช้ชีวิตอยู่กับความรวย เพียบพร้อม หรือไม่รวยแต่เรียบง่าย และพอเพียง มีทุกอย่างพร้อม อาจยังไม่สามารถสร้างความสุขที่แท้ จริงได้ หากเกิดความเบื่อเมื่อใด ก็อาจจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตขึ้นได้เช่นกัน เพราะความรวย หรือจะมีชีวิตเรียบง่าย ไม่สามารถ ช่วยแก้ปัญหาบางอย่างได้ เช่น ความเหงา ความรู้สึกโดดเดี่ยว ความรู้สึกเบื่อทุกอย่างรอบตัวไปหมด เมื่อใดที่เกิดคำถามเกี่ยวกับชีวิต เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน เกิดมาเพื่ออะไร ฯลฯ ความรู้สึกเหล่านี้อาจจะสร้างคำถามมากมายให้คิดและเป็นทุกข์ เมื่อมีชีวิตที่สุขสบาย คนเราจะเริ่มฟุ้งซ่าน ถ้าคิดเรื่องแนวนี้เมื่อไหร่ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับตัวเองทันที

สำหรับชาวพุทธอย่างคนไทยเราแล้ว การเข้าถึงหลักธรรมชาติและธรรมะ หลักธรรมคำสอน ตามแนวทางของพระพุทธศาสนา จะ ช่วยให้ค้นพบความสุขที่แท้จริงได้ ดังนั้นในการใช้ชีวิตเรียบง่ายและพอเพียง ก็จำเป็นต้องศึกษาแนวทางนี้ไปควบคู่กัน เพราะความรวย ความเรียบง่าย ความพอเพียง อาจยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ต้องเข้าถึงธรรมชาติและธรรมะด้วยเช่นกัน

การใช้ชีวิตเรียบง่าย และพอเพียง เป็นแนวทางของในหลวงที่ดีมาก แต่ลองมองไปรอบๆ ตัวเราแล้ว จะเห็นว่า ผู้คนรอบตัวอาจจะไม่ ใช่อย่างที่เราคิด ส่วนใหญ่ไม่มีใครทำตามแนวคิดของท่านอย่างจริงจัง ยังตามกระแสวัตถุนิยม บางคนเริ่มลงมือทำเพราะการตาม กระแสวัตถุนั้นทำให้เกิดปัญหากับชีวิต ไม่ได้มีความสุขและเมื่อได้ลองปฏิบัติแล้วก็ได้ค้นพบว่า แนวทางนี้ดีจริงๆ สร้างความสุขที่ยั่งยืนได้ อย่าง คุณเชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่ เป็นอีกคนหนึ่งที่เน้นการใช้ชีวิตเรียบง่าย พอเพียง และยังเข้าถึงหลักธรรมคำสอน ดูรอยยิ้ม ดูใบหน้า ของเจ้าตัวแล้วไม่ต้องอธิบายเลยว่า มีความสุขกับชีวิตมากแค่ไหน

  

แชร์บทความนี้ :