แนะนำเรื่องควรรู้ เมื่อเงินไม่สามารถใช้ซื้อสิ่งที่ต้องการได้ หรือกรณีเกิดเหตุเภทภัยธรรมชาติต่างๆ การมีเงินมีทรัพย์สมบัติบางกรณีก็อาจไม่ สามารถซื้ออะไรได้ แม้เหตุการณ์แบบนี้ จะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่หากต้องตกอยู่ในสถานการณ์นั้นเพียงครั้งเดียว ก็อาจจะไม่มีชีวิตรอดหรือค่อน ข้างลำบากอย่างมากก็ได้ อย่างช่วงที่เกิดโรคระบาด น้ำท่วม ภัยทางธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุไม่คาดคิด

 

การเกิดน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 หลายคนก็คงจะได้สัมผัสประสบการณ์ตรงในเรื่องนี้ มีเงินแต่ก็ไม่สามารถหาซื้ออะไรได้ หนำซ้ำยังไม่ สามารถไปกดเงินจากตู้ หรือ ไปธนาคารไม่ได้ หรือธนาคารปิด เพราะน้ำท่วม ไปไหนไม่ได้ การซื้อของจากร้านค้า ก็ไม่สามารถซื้อได้ เพราะต่าง คนต่างก็กักตุน ของหมด น้ำจะลดลงเมื่อไรก็ไม่รู้ มีเงินแต่ไม่สามารถซื้ออะไรได้ บางคนก็ต้องอาศัยพรรคพวกนำอาหารไปส่งให้ โดยขับรถไป จอดบนทางด่วน แล้วหย่อนเชือกลงไป ส่งอาหาร ส่งน้ำ และของใช้ที่จำเป็น ให้กับเพื่อนที่พายเรือมารับ

 

ในปี 2563 ก็ได้เกิดโรคระบาด ที่ค่อนข้างอันตราย ทำให้หลายคนไม่อยากออกจากบ้าน หากไม่จำเป็น ไม่อยากไปติดต่อกับผู้คน เพราะ กลัวจะติดเชื้อ ต่างก็ซื้ออาหารมากักตุนไว้ ในบางประเทศทำให้อาหารขาดแคลน ในสถานการณ์แบบนี้ ก็จะเห็นว่า มีเงิน แต่ก็อาจจะใช้อะไรไม่ได้ เพราะล้วนสร้างปัญหา ทำให้เกิดความกลัวในการออกไปนอกบ้าน มีเงินแต่ก็ใช้ไม่ได้ ไม่สามารถหาซื้ออะไรได้

 

แนวทางการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์เลวร้าย

สถานการณ์แบบนี้ อาจจะเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก แต่เราก็สามารถเตรียมตัวรับมือได้ ซึ่งอาจจะใช้ในสถานการณ์อื่นได้ด้วยเช่นกัน หรืออาจจะใช้ ในชีวิตปกติ เพราะวิธีที่จะแนะนำต่อไปนี้ มีประโยชน์อย่างมาก ช่วยประหยัดเงินค่าใช้จ่าย และอาจจะทำให้มีชีวิตที่มีความสุขมากขึ้น อย่างการ ใช้ชีวิตเรียบง่ายและพอเพียง

 

การซื้อที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร

หากมีที่ดินเป็นของตนเอง การสร้างแหล่งอาหาร ก็จะเป็นเรื่องง่าย ไม่จำเป็นจะต้องซื้ออาหาร มาเพื่อกักตุน และไม่ต้องกลัวว่าอาหารจะหมด ไป นอกจากปลูกพืช ผัก ผลไม้ ให้หลากหลายชนิดแล้ว ก็สามารถเลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย อย่างน้อยก็เลี้ยงสัตว์ที่สร้างแหล่งอาหารอย่าง ไก่ไข่ กรณี อย่างนี้ก็จะมีแหล่งอาหารที่ไม่มีปัญหา ยกเว้นจะเจอกับภัยทางธรรมชาติที่หนักหนาสาหัส เช่น น้ำท่วม ก็จะสร้างปัญหาไม่ต่างกัน

 

ข้อดีของการมีที่ดิน ยังมีอีกมาก แต่ก็มีข้อเสียที่จำเป็นจะต้องรู้ เช่น
1. ราคาที่ดินค่อนข้างสูง
2. หากยังทำงานประจำ และมีโอกาสเปลี่ยนงาน การมีที่ดิน จะสร้างภาระในการดูแล จึงเหมาะสำหรับคนทำงานส่วนตัว ทำงานอิสระ อยู่บ้าน ไม่ต้องไปไหน ไม่เช่นนั้น จะไม่มีคนดูแล
3. การปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ เป็นภาระในการดูแล และมีค่าใช้จ่ายตามมา ไม่เหมาะสำหรับคนที่ยังทำงานประจำ และมีโอกาสย้ายตำแหน่ง หรือ ต้องไปทำงานที่อื่น จะไม่มีคนดูแล พืช ผัก ต้นไม้ และสัตว์เลี้ยง
4. ต้องระวังภัยจากโจร ขโมย บางทีเจ้าของออกไป
ทำธุระ ก็จะแอบเข้ามาขโมยข้าวของในที่ดิน หากยังทำงานประจำ อย่าว่าแต่พืชผักผลไม้ บน ที่ดิน แม้แต่หน้าดิน ก็อาจจะถูกแอบขุดไปขาย 5. ที่ดินเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง จึงมีโอกาสถูกคนเข้ามาใช้ประโยชน์ หากเจ้าของไม่อยู่
6. กรณีเกิดน้ำท่วม ก็ไม่รอดเหมือนกัน อย่างเมื่อก่อน แถวสามโคก ปทุมธานี มักจะมีรถชาวบ้านมาจอดข้างทาง เพราะน้ำท่วม ต้องมาอยู่ข้าง ถนน การเข้าบ้านก็ต้องพายเรือ พืชผักที่ปลูกไว้ ก็เสียหายหมด

 

ข้อเสียของที่ดินยังมีอีกหลายด้าน สิ่งสำคัญเลยก็คือ ต้องการการดูแล จึงไม่เหมาะสำหรับคนทำงานประจำที่ยังมีโอกาสต้องย้ายที่ทำงาน ต้อง เปลี่ยนงาน ไปทำงานที่อื่น และกรณีเกิดน้ำท่วมหนัก ก็จะทำให้สิ่งต่างๆ บนที่ดิน ต้องได้รับความเสียหายไปด้วย พืชผักผลไม้ สัตว์เลี้ยงก็จะไม่ เหลือ อีกสาเหตุหนึ่งก็คือไฟไหม้ อย่างการมีที่ดินเป็นทุ่งนา ซึ่งจะมีการเผาที่นาหลังเก็บเกี่ยว ก็อาจจะทำให้ไม่เหลือเหมือนกัน หากเจ้าของไม่ อยู่ดูแล และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือ การแอบเผากระท่อมตามทุ่งนา ตั้งใจเผา ดังนั้น การมีที่ดิน จึงต้องวางแผนมากพอสมควร และต้องใช้เงินจำนวน มากเช่นกัน

 

การทำงานส่วนตัว ทำงานอิสระ

งานอิสระ งานส่วนตัวมีหลายแบบ หากทำงานในลักษณะนี้ ชีวิตจะมีความยืดหยุ่นมาก อย่างผู้เขียนทำงานหาเงินผ่านเน็ต ทำเว็บไซต์หาเงิน กับการคลิกโฆษณา ซึ่งงานในลักษณะนี้ยังมีอีกมาก ดังนั้น จึงไม่มีปัญหา เมื่อเกิดเหตุภัยทางธรรมชาติ เพราะสามารถย้ายที่อยู่ได้ทันที แต่สิ่ง สำคัญ อย่างเมื่อครั้งที่น้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพ ผู้เขียนก็ย้ายไปหาที่อยู่ใหม่ในจุดที่น้ำไม่ท่วมได้ทันที ไม่มีปัญหาเหมือนคนทำงานบริษัท ซึ่งไม่ สามารถย้ายไปไหนได้ คนมีบ้าน มีที่ดิน แม้จะทำงานส่วนตัว ก็ไม่สามารถไปไหนได้เช่นกัน ยิ่งคนทำงานส่วนตัว โดยเป็นการเช่าสถานที่ด้วยแล้ว จะยิ่งสร้างปัญหา เพราะมีภาระค่าเช่าทุกเดือน และไหนจะลูกน้องที่ต้องรับผิดชอบอีกด้วย

 

งานอิสระบางประเภท แม้จะเป็นการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย ก็จะมีบริษัท ที่ทำหน้าที่จัดการกับสต็อกสินค้าให้เรา รับออร์เดอร์ ส่งของให้ลูกค้า เราเพียงแค่ส่งของไปเก็บในโกดังของผู้ให้บริการ จากนั้นเราก็สามารถเดินทางไปอยู่ที่ไหนก็ได้

 

ดังนั้น เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงในเรื่องนี้ ก็ต้องเตรียมตัวหางานสำรองไว้ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา สามารถย้ายไปอยู่ที่อื่นได้ ที่ไหนก็ได้ ให้มีตู้ ATM ที่สามารถถอนเงินออกมาได้ โดยเป็นงานที่ไม่ต้องมีการเช่าที่ ไม่มีลูกน้อง ซึ่งงานทุกประเภทสามารถทำแบบนี้ได้ บางคนเปิดร้าน กาแฟ ก็มีบริการส่งถึงที่ ยิ่งทุกวันนี้บริการจัดส่งสินค้าได้รับความนิยม ดังนั้น กรณีที่ผู้คนไม่ออกมานอกบ้าน เพราะกลัวโรคระบาด หรือไม่สะดวก หากสามารถส่งของถึงมือลูกค้าได้ ก็จะเป็นเรื่องดี มีรายได้อีกทาง

 

ฝึกใช้ชีวิตให้เรียบง่าย

ชีวิตเรียบง่าย กินง่าย อยู่ง่าย ก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องอาหารการกินเรื่องการใช้ชีวิต มีความยืดหยุ่นสูงกว่าคนอื่น ซึ่งจะช่วยให้รับมือได้ดี เมื่อ เกิดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือมีเหตุให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน หรือหากจำเป็นจะต้องย้ายไปอยู่ที่ไหน ก็จะไม่เป็นปัญหามากนัก อย่างช่วงน้ำ ท่วมใหญ่ ทำให้คนไม่มีที่อยู่ บางคนก็ไปอาศัยอยู่บนเขาใหญ่ หรืออุทยานแห่งชาติที่สามารถกางเต็นท์ได้ ไม่มีปัญหาในการใช้ชีวิตแต่อย่างใด เพราะสามารถใช้ชีวิตเรียบง่ายได้

 

เรียนรู้การทำเมนูอาหารเรียบง่าย

เรื่องอาหารการกินนั้น หากสามารถกินอาหารประเภทอื่นได้ ก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตยามประสบปัญหาต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น เช่น การกินพืชผัก ผลไม้ ธัญพืชแทนอาหารหลักอย่างข้าว คุณค่าทางอาหารก็ไม่ได้ต่างกัน ต่างแค่ หน้าตาอาหารพอเข้าปาก ผ่านลำคอไปแล้ว สารอาหารที่ได้ ก็ เหมือนกันๆ กัน อย่างถั่วกับเนื้อสัตว์ ก็ได้โปรตีน เป็นต้น

 

หากสามารถกินอาหารแบบเรียบง่ายได้ การหาวัตถุดิบมาประกอบอาหาร ก็จะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น อย่างการกินกล้วยก็จะมีวิตามินต่างๆ ในขณะที่ราคาพอๆ กับโยเกิร์ต 1 ถ้วย เป็นต้น หากรู้จักใช้ชีวิตยืดหยุ่นแบบนี้ แม้ในยามปกติ ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะการกินอาหารเรียบง่าย จาก ธรรมชาติ จะส่งผลเสียต่อร่างกายน้อยกว่า การกินอาหารที่เราคิดว่าดี อาหารตามสั่ง ตามร้านอาหาร ซึ่งในขั้นตอนการปรุงจะมีการใส่เครื่องเทศ เครื่องปรุงที่เป็นสารเคมี ส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าอาหารเรียบง่ายจากธรรมชาติ

 

อยู่คอนโด หอพักจะทำอย่างไร

การอยู่คอนโด หรือ หอพัก อาจจะดูเหมือนว่าเป็นข้อด้อย ไม่มีพื้นที่ปลูกผัก หรือเลี้ยงสัตว์ แต่จากประสบการณ์การอยู่หอพัก คอนโด มาทั้ง ชีวิต การอยู่แบบนี้ ก็มีข้อดีอย่างมาก เพียงแต่ต้องเลือกทำเลที่ดี เช่น น้ำไม่ท่วม การเดินทางสะดวก และที่สำคัญก็ควรจะมีรถยนต์ไว้สักคัน หรือ อย่างน้อยก็ต้องมีมอเตอร์ไซค์ เผื่อกรณีฉุกเฉินต้องเดินทางไกล อย่างบางครั้งก็เกิดไฟไหม้ในบริเวณนั้น ทำให้มีฝุ่นควันทั่วไปหมด สร้างปัญหา ต่อระบบการหายใจ ก็สามารถย้ายไปพักที่อื่นชั่วคราวได้ หากมีรถยนต์ ก็สามารถย้ายตัวเองไปอยู่ในสถานที่อื่นได้ อาจจะเป็นปั๊มน้ำมัน อุทยาน แห่งชาติ โรงแรม รีสอร์ต แต่ก่อนผู้เขียนจะใช้รถตู้ จึงค่อนข้างสะดวก บางครั้งต้องเจอปัญหาห้องติดกัน มีปาร์ตี้ เสียงดัง กลิ่นควัน การเผาป่า กลิ่นขี้หมูจากฟาร์มหมู ก็ไปนอนในรถ หรือขับไปหาที่นอนไกลๆ ได้

 

ส่วนกรณีใช้รถมอเตอร์ไซค์ ก็ต้องเตรียมรถให้พร้อม สำหรับการขนสัมภาระ มีกล่องท้าย กระเป๋าเป้ ที่สามารถขนของ เครื่องใช้ ที่จำเป็นติด ตัวไปได้ และนอกจากมอเตอร์ไซค์แล้ว การมีจักรยานพับได้สักคัน ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี เพราะจักรยานขนาดเล็กเหล่านี้ สามารถใช้เดินทางไกล เป็นร้อยกิโลเมตรได้เช่นกัน หรืออย่างน้อยก็สามารถใช้เดินทางไปทำธุระในบริเวณใกล้ๆ ได้

นอกจากยานพาหนะแล้ว การอยู่หอพัก จำเป็นจะต้องเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นไว้ เช่น ถังน้ำขนาด 20 ลิตร ไว้เก็บน้ำดื่ม ถังน้ำไว้เก็บน้ำใช้ เผื่อน้ำไม่ไหล ระบบโซล่าเซลล์ ไว้สำหรับชาร์จไฟฟ้า เผื่อไฟดับ อุปกรณ์ทำอาหารง่ายๆ อย่างเตาแก๊สกระป๋อง + เครื่องครัว ข้าวสารอาหารแห้ง ธัญพืชต่างๆ ก็ควรเตรียมให้พร้อม และควรฝึกการทำเมนูอาหารง่ายๆ ไว้เผื่อรองรับในกรณีฉุกเฉิน หากใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ก็จะเป็นเรื่องง่าย และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้สบาย ยิ่งหากทำงานส่วนตัว ไม่ต้องออกไปไหนด้วยแล้ว การอยู่หอพัก จะค่อนข้าง สบายใจ ปลอดภัยและส่วนตัว

การอยู่หอพัก ก็สามารถปลูกพืชผักได้ มีหลายชนิดที่สามารถปลูกได้โดยไม่ต้องใช้ดิน หรือใช้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่จะเป็นผักกินใบเสีย สวนใหญ่ เมื่อผักเริ่มโตแล้ว ก็อาจจะถอนทั้งรากแล้วปลูกใหม่ หรือผักบางชนิด จะสามารถตัดให้เหลือแต่ตอได้ เพื่อให้งอกใหม่ อย่างผักบุ้ง และ ถ้าไม่อยากจะยุ่งยาก ก็เน้นการสะสมธัญพืชต่างๆ เผือก มัน ถั่ว ของพวกนี้เก็บไว้ได้นาน

 

หากรู้จักใช้ชีวิต เรียบง่าย อยู่ง่าย กินง่าย การอยู่คอนโด หรือหอพัก ก็จะไม่ใช่ปัญหา ถ้าจะห่วงก็บางเรื่อง อย่างการมีรถยนต์ ยานพาหนะ และหอพักอยู่ในพื้นที่ต่ำ กรณีเกิดน้ำท่วม ก็จะสร้างปัญหา แต่หากทำงานส่วนตัว มีเงินเก็บ ก็ไม่เป็นปัญหาเลย หลบไปไหนก็ได้ ไม่ต้องพะวงกับ ข้าวของ เหมือนการมีที่ดินมีบ้าน กลับมาก็อาจจะไม่เหลือ หมดตัว โดนงัด โดนขโมย

การนำเงินในลงทุนไว้หลายทาง

เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นยามต้องประสบปัญหาชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ก็ควรมีการนำเงินไปลงทุนไว้หลายช่องทาง และหลายสถานที่ เผื่อเดินทางขยับขยายออกไปได้ หากสถานที่ที่อาศัยอยู่นั้น เกิดปัญหา อย่างบางแห่งมีการเผาป่า ทำให้เกิดฝุ่น ควัน ทั้งจังหวัด ทุกปี ถ้าไม่มีการลงทุนไว้หลายๆ ทาง ก็จะไม่มีทางออก ต้องยอมสูดดมควัน อยู่กับมลพิษทางอากาศอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง

 

พาหนะที่สามารถเป็นบ้านเคลื่อนที่ได้

ในเมืองไทยเรานั้น มีความโชคดีที่มีอุทยานแห่งชาติ สามารถกางเต็นท์ได้ตลอดทั้งปี หากทำงานส่วนตัว ก็จะสามารถเอาตัวรอดได้ดีกว่า คน อื่น เพราะสามารถย้ายไปอยู่ตามอุทยานต่างๆ ได้ หากมีเงินเก็บมาก ก็ช่วยให้อุ่นใจมากขึ้น เพียงแต่ในบางสถานการณ์อย่าง การเกิดโรคระบาด คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะไม่รู้ว่า ใครได้รับเชื้อ หรือกำลังป่วยอยู่บ้าง ต้องหาสถานที่ส่วนตัวจริงๆ

 

สำหรับคนมีครอบครัวแล้ว รถเอนกประสงค์อย่างรถตู้ รถครอบครัว ที่สามารถดัดแปลงเป็นบ้านเคลื่อนที่ได้ ก็น่าจะเป็นไอเดียที่ดี สามารถ เดินทางไปพักที่ไหนก็ได้ พร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น สามารถพาติดตัวไปได้

 

สรุป

แนวทางเอาตัวรอด ยามเกิดปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือเรื่องใดๆ ก็ตาม ที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน จากประสบการณ์ของผู้เขียนซึ่งทำงานส่วนตัว อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้มีตู้ ATM จึงไม่เคยมีปัญหาในเรื่องนี้เลย เพราะเตรียมตัวค่อนข้างพร้อม อุปกรณ์สำหรับเอาชีวิตรอด ค่อนข้างครบ แต่เริ่มจะมีก็เมื่อ ได้เกิดโรคระบาดในปี 2563 นี่เอง ทั้ง โควิด-19 โคโรน่า การจะเดินทางไปต่างถิ่น อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะแต่ละแห่ง แต่ละจังหวัด ก็จะมีการคัดกรอง ตรวจตรา หรือสถานที่แห่งนั้น อาจจะกลายเป็นแหล่ง แพร่เชื้อ มีคนติดเชื้อ อยู่แล้วก็ได้ ไปรวมกัน อย่างการไปยังอุทยานแห่งชาติ เพื่อหวังจะได้สูดอากาศดีๆ กลับไปเจอผู้คนมากมาย ก็อาจจะไม่ปลอดภัย

แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม แนวทางวางแผนเอาตัวรอดในสไตล์ผู้เขียน ก็น่าจะช่วยได้ในระดับหนึ่งเช่น
1. สร้างรายได้ไว้หลายๆ ทาง ทั้งการทำงานบริษัท และ งานส่วนตัว โดยเฉพาะงานส่วนตัวที่สามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องมีค่าเช่า ไม่ต้องมี พนักงาน หรืออาจจะเป็นรายรับทางอื่น เล่นหุ้น ได้ปันผล เป็นต้น
2. สร้างช่องทางดึงเงิน ถอนเงินเก็บของตนเอง ออกจากระบบไว้หลายทาง เช่น เปิดบัญชีธนาคาร พร้อมสมัครธนาคารออนไลน์ไว้ สามารถโอน เงินผ่านเว็บไซต์ได้ โอนเงินผ่านมือถือได้ เพื่อความสะดวก ไม่ต้องถือเงินสดติดตัว
3. ศึกษาภูมิประเทศแต่ละท้องที่ เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหา เช่น มีโรงงานแบบใดบ้าง จะมีปัญหาเรื่องกลิ่นหรือไม่ แหล่งการเกษตร หรือใกล้ป่า ใกล้ธรรมชาติ มีปัญหาไฟป่าหรือไม่ มีโอกาสน้ำท่วมหรือไม่
4. ศึกษาการใช้ชีวิตเรียบง่าย นำอุปกรณ์แนวผจญภัยมาไว้ใช้กับชีวิตประจำวันและฝึกทักษะการเอาตัวรอดเอาไว้ ก็จะไม่รู้สึกต้องเป็นกังวลมาก นักในเรื่องนี้

 

ปัญหาต่างๆ ดังที่กล่าวมา หลายคนอาจจะคิดว่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพราะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ แต่หากสามารถทำได้เป็นประจำ ก็จะเป็น เรื่องดี เพราะแนวทางดังที่ว่ามา ก็จะช่วยให้ชีวิตมีความมั่นคง และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ในหลายๆ ด้าน ทั้งการใช้ชีวิต รายได้ การทำงาน ยิ่งคนมี ครอบครัว มีภาระต้องดูแลด้วยแล้ว จะช่วยได้อย่างมากเลยทีเดียว