แนะนำแนวทางใช้เงินเยียวยา เราชนะ 7000 บาท แบบต่างๆ สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด ตกงาน ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ เงินน้อย ก็มีประโยชน์ แต่การใช้งานจะต้องวางแผนให้ดี เพราะหากพลาด เงินก็จะหมดไปอย่างรวดเร็ว
เงินไม่ว่าจะมากหรือน้อย หากรู้จักใช้ รู้จักวางแผนการใช้จ่าย ก็ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้ แต่สิ่งสำคัญจะอยู่ที่ผู้ใช้เงินจะต้องรู้ค่าใช้จ่าย ต่อวัน ต่อเดือนของตนเอง ในเรื่องที่จำเป็น หรือ การใช้จ่ายอย่างประหยัดที่สุด ต่อวัน ต่อเดือน เพียงแค่ให้มีชีวิตรอด ผ่านช่วงวิกฤตไปก่อน เงิน ประมาณ 7000 บาท บางคนอาจใช้ได้หลายเดือน บางคนอาจจะใช้ได้ไม่ถึงเดือน ตัวอย่างเช่น
1. การทำอาหารกินเอง รายจ่ายจะน้อยกว่า การซื้ออาหารสำเร็จตามร้านค้า ร้านอาหารตามสั่ง ประหยัดเงินอย่างน้อยเกินครึ่งหนึ่ง นั่นก็หมาย ความว่า หากมีค่าอาหารเดือนละ 7,000 การทำอาหารกินเอง จะมีรายจ่ายไม่เกิน 3,500 บาท
2. การทำอาหารกินเอง หากมีการปลูกพืชผักไว้รอบบ้าน จะช่วยประหยัดเงินได้มากกว่านั้นอีก ค่าอาหารเดือนละ 1000-1500 ก็อยู่ได้สบาย
3. ส่วนคนที่มีบ้าน มีที่ดิน สามารถปลูกพืชผักได้ ไม่มีค่าเช่าบ้าน ค่าเช่าที่พัก เงิน 7,000 บาท ก็อยู่ได้เกินครึ่งปี
ชีวิตคนเราบางครั้ง ก็ต้องเจอกับความลำบาก โดยไม่มีใครช่วยเหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเริ่มโตขึ้น เริ่มแยกตัวออกจากครอบครัว พ่อแม่พี่ น้อง ดังนั้นจึงต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ เพราะจะช้าหรือเร็วก็ต้องเจอกับตัวเอง
ตัวอย่างการวางแผนใช้จ่ายเงินแบบต่างๆ
ซื้อข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต
สำหรับใครที่ไม่มีของใช้ที่จำเป็นต่อไปนี้ ก็ควรซื้อให้เรียบร้อย โดยอาจจะใช้เงินสดที่มี หรือ เงินเยียวยาก็ได้ วิธีง่ายๆ ก็ให้ทางร้านซื้อของจาก เน็ตมาขายต่อ เช่น
1. อุปกรณ์ทำอาหาร หม้อหุงข้าวไฟฟ้า กระทะไฟฟ้า หรือ เตาแก๊สกระป๋อง จาน ชาม ช้อน อาจจะเลือกอุปกรณ์ขนาดเล็ก เอาไว้ทำอาหารง่ายๆ เพื่อช่วยประหยัดเงิน เพราะการทำอาหารกินเอง เราจะสามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายเงินมากน้อยแค่ไหน เงิน 7000 บาท อาจจะใช้ได้เกินครึ่งปี ก็ จะมีเวลาหางานใหม่มีโอกาสเอาตัวรอดได้
2. มือถือสมาร์ทโฟน สำหรับใครที่ยังไม่มีมือถือแบบนี้ ก็ควรจัดซื้อเก็บไว้ให้เรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องซื้อมือถือราคาแพง ขอเพียงเป็นยี่ห้อที่ไว้ใจได้ ก็ใช้งานได้นานหลายปี ตัวอย่างเช่น Nokia, Sony, Motorola จะมีรุ่นราคาถูกไม่ถึง 2,000 บาท แต่ประสิทธิภาพไว้ใจได้ เอาไว้ใช้งานต่างๆ เช่น
- ไว้เผื่อสมัครบริการต่างๆ ของรัฐบาล หรือ ใช้แอปต่างๆ เพื่อใช้บริการของรัฐบาล
- ใช้มือถือช่วยทำมาหาเงิน ซึ่งก็มีหลายช่องทาง ตั้งแต่ง่ายที่สุด ก็จะเป็นการขายของผ่านเน็ต มีข้าวของที่ไม่ใช้ ก็นำไปขายผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ผ่าน Kaidee.com ก็ได้ แนวนี้ง่าย แค่หาของมาขาย หรือ ผลิตสินค้าของตัวเอง แล้วนำมาลงประกาศขาย
- ทำช่องยูทูป หารายได้จากโฆษณา หรือทำวิดีโอขายสินค้าผ่านยูทูปวิธีนี้ง่ายที่สุดในการหาเงิน ขายสินค้าค้าผ่านเฟสบุ๊ค ทำเว็บไซต์หาเงินจาก การคลิกโฆษณา วิธีใช้มือถือแอนดรอยด์ช่วยหาเงินมีเยอะมาก
ประสบการณ์ตรงของผู้เขียนที่ทำอาชีพอิสระ ทำงานอิสระ ก็จะมีมือถือหรือแท็บเล็ตแอนดรอยด์เป็นอุปกรณ์หลักในการทำงาน มีแค่เครื่อง เดียวก็เอาชีวิตรอดได้ อยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานหาเงินได้ แต่ต้องมีอุปกรณ์เสริม อย่างเมาส์ แป้นพิมพ์ เพื่อความสะดวกมากยิ่งขึ้น คนรุ่นใหม่ ควรศึกษาวิธีทำงานหาเงินง่ายๆ แบบนี้ ชีวิตก็จะไม่ลำบาก ไม่ต้องไปสมัครงานที่ไหน
ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
รายจ่ายที่ไม่จำเป็น มีหลายรายการที่บางทีเราก็อาจจะมองข้าม ตัวอย่าง เช่น
- ผู้เขียนชอบกินกาแฟกระป๋องๆ ละ 15 บาท แทบทุกวัน บางวันก็ 2 กระป๋อง จึงมีรายจ่ายค่ากาแฟเกิน 500 บาท ต่อเดือน
- ลดการกินอาหารกระป๋อง ปลากระป๋อง อาหารซองแบบต่างๆ ซึ่งแพงกว่าอาหารสำเร็จ อีกทั้งปริมาณที่ได้ก็น้อยกว่าด้วย
- ใช้อินเตอร์เน็ตแบบรายปี ซิมเทพรายปี ค่าใช้จ่ายถูกกว่าแบบรายเดือน หรือเติมเงิน ส่วนใหญ่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อปี
เน้นการทำอาหารกินเอง
เน้นการทำอาหารกินเอง แม้จะทำกินเองแค่บางมื้อ แต่ก็ช่วยประหยัดเงินได้ ตัวอย่างเมนูง่ายๆ เช่น
1. เมนูไข่ต่างๆ ไข่ดาว ไข่เจียว ไข่ตุ๋น
2. ทำเมนูอาหารแบบอื่น ผัด ทอด ต้ม ได้ตามใจชอบ แต่ต้องระวังเมนูที่มีเครื่องปรุงเยอะ เช่น ต้มยำ เพราะจะต้องจ่ายเงินมากขึ้น
3. ถ้าไม่ค่อยมีเวลาทำอาหาร ก็ใช้วิธีง่ายๆ หุงข้าวกินเอง เน้นซื้อกับข้าวสำเร็จ วิธีนี้ก็ยังช่วยประหยัดเงินมากกว่าการซื้ออาหารตามสั่ง
4. ซื้อกับข้าวสำเร็จมาเพิ่มปริมาณ ใส่ผัก ใส่เนื้อเพิ่มลงไป ก็จะได้ปริมาณเพิ่มมากขึ้น เช่น ต้มยำไก่ 30 บาท ก็ซื้อเนื้อไก่มาใส่เพิ่มอีก 35 บาท แบบนี้จะได้ปริมาณมากขึ้น ในห้างจะมีอาหารสำเร็จในลักษณะนี้ขายอยู่แล้ว มีแกง ต้ม สำเร็จรูป ก็ซื้อเนื้อ ซื้อผักใส่เพิ่มเข้าไป ปรุงรสเพื่มอีกเล็กน้อย ก็ทานได้ ประหยัดเงินมากกว่าการทำเอง เพราะไม่ต้องซื้อเครื่องปรุง ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด มะนาว ฯลฯ
ประหยัดอย่างเดียว ไม่ช่วยให้รอด
การประหยัดอย่างเดียว ไม่ใช่เรื่องดี ถ้าไม่มีรายได้ทางอื่นเข้ามา อนาคตก็จะลำบากเหมือนเดิม ดังนั้น สิ่งที่จะต้องทำ โดยเฉพาะคนที่กำลังตกงาน ไม่มีงาน จำเป็นจะต้องช่วยเหลือตัวเอง เพราะรัฐบาลคงจะไม่มีเงินเยียวยาได้ตลอดรอดฝั่ง ตัวอย่างเช่น
1. ประหยัดเงินในทุกๆ ด้าน เพื่อให้มีเงินเหลือ
2. หาทางนำเงินที่เหลือไปเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาพัฒนาตัวเอง เพื่อเตรียมตัวทำอาชีพใหม่ ซึ่งจำเป็นจะต้องซื้อชั่วโมงอินเตอร์เน็ต ก็จะเข้าถึง ข้อมูล บทความ วิดีโอสอนหาเงิน สอนอาชีพ บางคนเปิดร้านอาหารตามสั่งทั้งๆ ที่ยังทำอาหารไม่เก่ง อาศัยศึกษาจากยูทูป จนสามารถเอาตัว รอดไปได้
3. หาทางนำเงินที่เหลือแม้เพียงน้อยนิด ไปหาวิธีลงทุน ให้เกิดรายได้ เช่น หาสินค้ามาขายผ่านเน็ต รับจ้างทำงานต่างๆ บางคนก็รับงานดูแลเฟส บุ๊คเพจ ดูแลเว็บไซต์ร้านค้า ติดต่อลูกค้า ทำงานได้จากที่บ้าน แต่ก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายชั่วโมงอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ในสถานการณ์เกิดโรคระบาดแบบนี้ การปรับตัวเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องทำ สิ่งที่ควรจะต้องมีก็คือ มือถือสมาร์ทโฟน และเมื่อมีแล้ว ก็ต้อง ศึกษาวิธีใช้ช่วยทำมาหากิน ซึ่งก็จะมีวิธีที่ง่ายอย่างการหาสินค้ามาขายผ่านเน็ต อาจจะเริ่มจากของที่ไม่ใช้ในบ้าน ก็เอาไปขายต่อ และวิธีที่ยากขึ้น ก็จะเป็นการทำช่องยูทูป ทำเว็บไซต์หาเงินคลิกโฆษณา นายหน้าขายสินค้า เป็นต้น แนวนี้ยาก และกว่าจะได้เงิน มักจะใช้เวลาเป็นปีๆ แต่จะมี ความมั่นคงในเรื่องรายได้มากกว่า
ผู้เขียนได้ปรับตัวมานานแล้ว เน้นทำงานส่วนตัว อยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ ไม่ต้องมีนายจ้าง หรือลูกจ้าง มีมือถือเครื่องเดียว ก็ทำงานได้ จึงไม่เดือด ร้อนเหมือนคนทั่วไป นั่งๆ นอนๆ เดินไปเดินมา ทำงานบ้าง ไม่ทำบ้าง ก็มีเงินเข้าบัญชีทุกเดือน แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ ก็ใช้เวลาหลายปี
ท้ายนี้ก็ขอ เป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่กำลังประสบความลำบาก ขอให้ผ่านไปด้วยดี