การบริหารเงินผิดพลาด ใช้เงินผิดพลาด แม้จะมีหลักสิบล้านบาท ร้อยล้านบาท ก็ทำให้หมดตัวได้เหมือนกัน มีมากก็ยิ่งมีโอกาสสูญ เสียมาก ยิ่งเกิดความประมาทมาก โดยเฉพาะกรณีที่ได้เงินมาง่ายๆ มักจะบริหารไม่เป็น เงินอาจหมดเร็วมาก เพราะมีหลายเรื่องที่อยู่ เหนือการคาดเดา ประสบการณ์เรื่องเงินมากหรือน้อย ก็มักจะขึ้นอยู่กับความผิดพลาดทางการเงินมากหรือน้อยเช่นกัน

 

สาเหตุที่ทำให้เราบริหารเงินผิดพลาด ใช้เงินผิดทาง ผิดคน ผิดที่ ผิดเวลา จนทำให้เสียเงินโดยไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา มีทั้ง สาเหตุที่เกิดจากตัวเราเองและผู้อื่น ตัวอย่างกรณีศึกษาในด้านต่างๆ ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเรา ที่มักจะผิดพลาดบ่อยๆ

 

ใช้เงินผิดพลาดกับการซื้อสินค้า ข้าวของเครื่องใช้

นี่คือสิ่งที่เป็นความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่ ซึ่งก็มีตั้งแต่การใช้เงินซื้อสินค้าราคาถูก จนถึงสินค้าราคาแพง สินค้ารคาถูกมีหลาย รายการที่เราผิดพลาดในเรื่องการใช้จ่าย โดยมักจะเป็นสินค้าราคาถูก บางชิ้นซื้อมาแล้ว ใช้งานได้วันเดียว ก็มี การซื้อสินค้าที่มี คุณภาพดี แม้จะมีราคาสูง แต่มีอายุการใช้งานยาวนานก็ถือว่าคุ้มค่ากว่า อย่าง รองเท้าราคาถูก ใช้งานไม่กี่เดือนก็พัง กับรางเท้า คุณภาพดี ราคาแพงแต่ใช้งานได้เป็นปี ก็คุ้มกว่า กางเกงยีนราคาถูก 199 บาทเป็นตัวอย่างที่ดี ซิพเสียบ่อยมาก เมื่อเทียบกับกางเกงดีๆ ใช้งานกันเป็นสิบปี ยังไม่มีปัญหาเรื่องซิพแต่อย่างใด

 

ใช้เงินผิดพลาดกับการซื้อรถยนต์

รถยนต์เป็นสิ่งของชิ้นใหญ่ที่มีราคาสูง และมีโอกาสทำให้เสียเงินมาก หากซื้อรถผิดประเภท ซื้อรถไม่เหมาะสมกับฐานะ หน้าที่การ งาน หรือวัตถุประสงค์ในการใช้งานของตัวเอง ก็มักจะทำให้ต้องเสียเงินหลักแสน หลักล้านบาทกันเลยทีเดียว ซึ่งบางคนก็เสียเงินซ้ำซาก ไม่รู้จักจำ คิดไม่ได้

 

ก่อนซื้อรถต้องรู้จักตัวเองก่อน มีความจำเป็นต้องใช้รถมากน้อยแค่ไหน ต้องการรถแบบใด รถหรู รถประหยัดน้ำมัน รถตลาด รถ ยอดนิยม ฯลฯ จำเป็นจะต้องรู้ในเรื่องนี้ อย่างรถหรูที่บรรดาคนรวยนิยมใช้ หรือคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง คนเหล่านี้ นิยมซื้อรถแพงๆ มาถ่ายโชว์ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ความสำเร็จของตัวเอง ในกิจการที่ทำ เป็นการใช้รถเพื่อช่วยต่อยอดการทำธุรกิจ รถมี ส่วนช่วยทำมาหากิน ไม่ได้เป็นการซื้อรถมาโซว์มาอวด โดยไม่ช่วยสร้างรายได้แต่อย่างใด

 

รถยนต์หนึ่งคัน หากดูแลอย่างดี จะสามารถใช้งานได้นานเกินสิบปี ซึ่งช่วยประหยัดเงินหลักแสนหลักล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับ บางคนที่ซื้อรถบ่อยๆ เพราะได้รถที่ไม่ต้องกับความต้องการ บางคนจากรถใหญ่ รถหรู สุดท้าย กลับพบว่า รถเล็กๆ ประหยัดน้ำมัน นั้น ดีที่สุด แต่ที่ผ่านไปนั้น เปลี่ยนรถเกือบสิบคัน หมดเงินส่วนต่างไปหลักล้านบาท กับราคารถที่ตกลง และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาของรถ แต่ละคัน

 

รถจักรยานยนต์ก็เช่นกัน แต่ส่วนใหญ่เราจะไม่เปลี่ยนกันบ่อยนัก มักจะใช้กันจนแทบจะพังกันไปข้าง มีน้อยคนที่เปลี่ยนรถ จักรยานยนต์บ่อย อย่างวินมอเตอร์ไซต์ เพราะใช้งานหนัก ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ

 

รายจ่ายจากการใช้ยานพาหนะหรืออุปกรณ์ต่างๆ

ยานพาหนะหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่เรามีอยู่นั้น ล้วนแล้วแต่มีส่วนทำให้เกิดรายจ่ายตามมาตลอดอายุการใช้งาน เสื้อผ้ากางเกงต้องเสียค่าซักรีด รถยนต์มีค่าน้ำมัน ประกันภัย ค่าซ่อมบำรุง มือถือมีค่าโทรศัพท์ ชั่วโมงเน็ต เป็นต้น รายจ่ายเหล่านี้ ต้องคำนวณให้ดี อย่าให้เกิดความผิดพลาด อย่างการซื้อมือถือโปรโมชันราคาถูก แต่ต้องถูกผูกมัดให้ใช้โปรโมชันรายเดือนราคาแพง ซึ่ง เมื่อคำนวณรายจ่ายทั้งหมดแล้ว อาจจะไม่คุ้ม นี่ก็เป็นตัวอย่างความผิดพลาดในการใช้เงินในเรื่องรายจ่ายที่ตามมา เมื่อซื้อข้าวของ เครื่องใช้ต่างๆ

 

ใช้เงินผิดพลาดกับสัตว์เลี้ยง

ความเหงาไม่ปราณีใคร จะผ่านไปได้ ก็ต้องต่อสู้กับความเหงาอย่างที่สุด จนสามารถเอาชนะได้ แต่หากแพ้ หลายคนก็จะหา ทางออกทางอื่นอย่างการเลี้ยงหมา แมว ซึ่งมีรายจ่ายในการดูแล ค่ารักษาพยาบาล ค่าอาหาร ตามมาตลอดอายุขัย ซึ่งสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ มีอายุเกิน 10 ปีเลยทีเดียว

 

แต่หากมีความพร้อมที่จะเลี้ยงหรือดูแล ก็จะไม่มีความทุกข์ เพราะสัตว์เลี้ยงช่วยสร้างความสุขใจ ทำงานเหนื่อยกลับมาบ้าน ก็มีสัตว์ เลี้ยง แสนรัก เป็นเพื่อนเล่น คลายเหงา เป็นต้น กรณีนี้ บางคนก็มองว่าคุ้ม กับความสุขที่ได้รับ จากสัตว์เลี้ยงของตัวเอง

 

ใช้เงินผิดพลาดกับการซื้อบ้าน

บ้านมีมูลค่าสูงกว่า รถยนต์ ความผิดพลาดในการซื้อบ้าน ก็มักจะสร้างปัญหาความปวดหัวมากกว่ารถยนต์ เช่น ซื้อบ้านในทำเลที่มี เพื่อนบ้านไม่ดี หรือชุมชนที่ผู้คนไม่มีคุณภาพ มีแต่ปัญหา การขายบ้านอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย หรือซื้อบ้่านแล้วได้บ้านที่มีปัญหาเกี่ยวกับ ตัวบ้าน หรือตัวผู้ซื้อเอง มีปัญหาการเงิน เพราะซื้อบ้านแพงเกินกำลังเงินของตัวเองเป็นต้น

 

ใช้เงินผิดพลาดกับการซื้อที่ดิน

การซื้อที่ดิน ก็ไม่ต่างจากบ้าน เพราะเป็นทรัพย์สินที่เคลื่อนย้ายไม่ได้ แต่บ้านกรณีเป็นบ้านไม้ ก็ยังพอรื้อถอนได้ ความผิดพลาดใน เรื่องนี้มีหลายด้าน เช่น 1. การซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไร แต่ปรากฏว่าราคาที่ดินไม่ได้ปรับตัวขึ้นสูงอย่างที่คิด หากช่วงนั้นมีปัญหาการเงิน ชีวิตก็จะมีปัญหาทันที เพราะไม่มีเงินใช้ เนื่องจากเงินจมไปกับที่ดิน หากจะซื้อที่ดิน สิ่งที่จะต้องทำก็คือ การจัดสรรแบ่งที่ดิน แยกเป็นฉโนดให้เรียบร้อย กรณีมี ปัญหาเรื่องเงินก็สามารถแบ่งขายได้ 2. การซื้อที่ดินเปล่า อาจจะเป็นไร่สวน หรือที่นา ต้องระวังคนใกล้ชิด หรือคนในครอบครัวเข้ามาใช้ประโยชน์ ห้ามใช้ที่ดินฟรีๆ อย่าง เด็ดขาด จะต้องมีการทำสัญญาค่าเช่ากันเป็นรายปีรายปี จะเก็บจริงหรือไม่ ก็ว่ากันไป เพราะปัญหาที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยๆ กับคนใน ครอบครัวก็คือ ถือโอกาสยึดที่ดิน หรือผลประโยชน์เป็นของตัวเอง 3. การซื้อที่นา ที่ดิน ไร่สวน โดยคำแนะนำของคนในครอบครัว โดยที่ตัวเองไม่ได้ใช้ประโยชน์ เงินก็จะไปจมอยู่กับที่ดิน โดยไม่ สามารถทำอะไรได้ 4. การซื้อที่ดินจัดสรร ที่ดินต่างถิ่น ซึ่งไม่รู้ว่ามีใครซื้อบ้าง และมีอิทธิพลมากเพียงใด การเป็นคนต่างถิ่น อาจจะสร้างปัญหาในภายหลัง มีหลายกรณีที่ซื้อแพงแต่โดนบังคับ ข่มขู่ทางอ้อม เพื่อซื้อกลับคืนในราคาถูก 5. การซื้อที่ดิน เมื่อมีปัญหาเรื่องเงินและต้องการขายหรือเปลี่ยนที่ดินให้เป็นเงิน จะเป็นเรื่องที่ยากมาก และได้ราคาไม่มาก ประมาณ 30% ของราคาที่ดิน หากการเงินยังไม่นิ่ง ก็ไม่ควรพลาดในเรื่องนี้ นอกเสียจากว่า ซื้อที่ดินแล้ว ก็ได้ใช้ประโยชน์ สร้างผลตอบแทน เช่น ซื้อที่นา 10 ไร่ ให้เช่าปีละ 10,000 บาท กรณีนี้ ก็ยังถือว่า ที่ดินช่วยสร้างรายได้

 

การลงทุนทำกิจการ เปิดร้าน ค้าขาย ต่าง

ในการลงทุนหรือทำอะไรก็ตามที่ต้องใช้เงิน คนที่มีเงิน เป็นคนเก่ง มีความมั่นใจในตัวเอง คิดว่ามีเงินมีความรู้อย่างดี จะทำอะไร ย่อมประสบความสำเร็จแน่นอน แต่ผลที่ได้มักจะไม่เป็นอย่างที่คิด ส่วนใหญ่จะพากันเอาเงินไปทิ้ง มีเงินมาก็มีโอกาสผิดพลาดมาก เพราะสิ่งที่จะทำ ก็มักจะยิ่งใหญ่ ลงทุนสูงเพื่อให้มีผลกำไรตอบแทนสูงด้วยเช่นกัน

 

อย่างการเปิดร้านค้า บางคนมุ่งไปที่การแต่งร้านมากเกินไป เงินจมไปกับของแต่งร้าน บางคนมีบ้าน มีที่ดิน มีเงิน มีความรู้ การลง ทุน

เปิดร้านโดยไม่ต้องเช่าเพราะเป็นบ้านตัวเอง อุปกรณ์ต่างๆ ก็มีพร้อม กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิด ต้องปิดร้านเลิก กิจการ เพราะไม่ฟังความคิดเห็นของใคร ให้รอบด้าน

 

การลงทุนทำธุรกิจประเภทผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย

ตรงนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของผู้เขียนเอง ขายทุนเป็นจำนวนเงิน 6 หลักเลยทีเดียว โดยการลงทุนผลิตสินค้าที่อัพเดทเร็ว เปลี่ยนรุ่นเร็ว ทำให้ขาดทุนไปหลายแสน แทบหมดตัว การลงทุนผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย สินค้าบางอย่างอยู่ได้นานขายได้เรื่อยๆ สินค้า บางอย่างมีอายุค่อนข้างสั้น เป็นเรื่องที่ต้องศึกษา เพื่อป้องกันความผิดพลาด บางคนขายเสื้อผ้า โดยเน้นผลิตเสื้อผ้าที่มีขนาดหรือ Size พอดีกับตัวเอง หากขายไม่ได้ ก็ใส่เองได้ ซึ่งคนในประเทศไทยเรานั้น คนที่มีขนาด หุ่นใกล้เคียงกันมีเป็นล้านคน แม้จะทำเสื้อไซส์ M ขนาดเดียว ก็ขายได้เป็นหมื่นเป็นแสนตัวแน่นอน

 

การเล่นหุ้น

ในกลุ่มเพื่อนๆ มีหลายคนที่เล่นหุ้น แต่มีคนที่รวยจากหุ้นจริงๆ แค่ 2 คน ที่เหลือ เพราะทั้งหมดเล่นหุ้นโดยแบ่งเป็น 2 แนว กลุ่มแรก ซื้อมากำไรดีเทขาย หลายครั้งที่พลาด ก็ทำให้เงินต้นค่อยๆ หายไปๆ จนต้องเลิกเล่น อีกกลุ่ม เน้นถือไว้ระยะยาว ยาวมาก สิบกว่าปี จากหุ้นราคาสิบกว่าบาทขึ้นมาสามสี่ร้อยบาท ทำกำไรได้หลักสิบล้าน การเล่นหุ้นจึงต้องศึกษาให้ดี เพราะมีโอกาสผิดพลาดได้ สำหรับ เพื่อนสองคนที่ทำกำไรได้นั้น เน้นถือหุ้นที่มีความมั่นคง ถือไว้ระยะยาว เน้นเงินปันผล ไม่รีบ สุดท้ายก็รวย ส่วนที่เหลือเน้นเก็งกำไร ส่วน ใหญ่ไปไม่รอด เพราะเน้นเก็งกำไร บางคนผิดพลาดจนหมดตัวก็มี

 

การใช้เงินหมดไปกับสมาชิกในครอบครัว

บางคนเมื่อมีรายได้ สามารถตั้งเนื้อตั้งตัวได้ ก็อาจจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัว แต่การใช้จ่ายเงินกับครอบครัวก็ต้องมีขอบเขตจะ ช่วยมากน้อยเพียงใด และช่วยนานแค่ไหน หรือต้องทำอะไรตอบแทน จะต้องระบุให้ชัดเจน อย่าช่วยแบบให้เปล่า เพราะจะเป็นการ เพาะนิสัยเห็นแก่ตัวให้คนในครอบครัว สุดท้ายคนเหล่านั้นจะกลับมาทำร้ายตัวเอง นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ ในสังคมไทยเรา ดัง นั้นต้องวางแผนให้ดี

 

การใช้เงินหมดไปการแต่งงาน การมีคู่ครอง

การมีคู่ครองเป็นเรื่องที่สร้างความผิดพลาดทางการเงินไม่น้อย เพราะคนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความต้องการไม่สิ้นสุด การมีคู่ครอง การ มีกิ๊ก อาจจะมีรายจ่ายเกิดขึ้นตามมาหลักล้านบาท หรือต้องสูญเสียเงินหลักล้านเช่นกัน ในวันที่ต้องแยกทางกัน บางคู่ช่วยกันสร้างหนี้ เป็นสิบล้านจากการแต่งงาน บางคู่ก็ช่วยกันเคลียร์หนี้ บางคู่ภาระกลับตกอยู่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเพียงคนเดียว เป็นความผิดพลาดใน เรื่องเงินที่แก้ไขยากมาก หากมีบุตรหลานด้วยกันแล้ว

 

การให้คนอื่นดูแลการเงินหรือสมบัติ ทรัพย์สิน

เป็นอีกเรื่องที่ต้องระวัง เพราะอาจจะไปเจอพ่อแม่ที่หวังดีแต่กลับเป็นการทำร้ายลูกทางอ้อม เพราะเราจะไม่สามารถนำเงินมาใช้จ่าย ซึ่งบางครั้ง เป็นความจำเป็นจริงๆ อาจจะต้องการลงทุนหรือเพิ่มทุนเพื่อขยายกิจการ เป็นประสบการณ์ที่เพื่อนบางคนได้เจอะเจอรวมทั้ง ผมเองด้วย เงินถูกเก็บไว้ในธนาคารหรือเก็บในรูปทรัพย์สมบัติประเภทอื่น โดยไม่เกิดรายได้ ความหวังดีของพ่อแม่ ในเรื่องนี้บางครั้ง มันทำร้ายลูกๆ มากจริงๆ เป็นอีกเรื่องที่ต้องระวัง หากพ่อแม่เข้าใจเรื่องการทำธุรกิจก็ดีไป แต่หากไม่เข้าใจ คิดแต่เพียงว่า ต้องเอาเงินไป เก็บในธนาคารเท่านั้น หามาได้แล้วก็ต้องเก็บ โดยไม่ได้รับรู้เรื่องเงินเฟ้อ คงจะตายกันพอดี หมดสิทธิถอนมาทำอะไรให้เงินงอกเงย

 

ใช้เงินผิดพลาดกับการให้คนอื่นกู้ยืมเงิน

หากจะมีการลงทุนหรือจำเป็นต้องใช้เงินในอนาคต อย่าได้เสี่ยงให้ใครยืมเงินเด็ดขาด เป็นอีกเรื่องที่ผมเจอกับตัว ทำให้การลงทุน ชะงักไปหมด ทำอะไรไม่ได้ ด้วยความที่คิดว่า คนยืมก็รวยมาก แล้วทำไมเงินมันขาดมือได้ บางทีเงินไม่เท่าไหร่แต่กลับคืนเราไม่ได้ตาม ที่นัด จะรวยแค่ไหนก็ต้องอ่านให้ขาด ยกตัวอย่าง เรามีเพื่อน ซึ่งรวยมาก แต่ธุรกิจที่ทำเป็นธุรกิจครอบครัว เงินที่ได้มาทุกบาท จะเอาไป ใช้นอกลู่นอกทางไม่ได้ แล้วเกิดเจ้าตัวมีเหตุให้ต้องใช้เงิน เพื่ออะไรบางอย่างแบบลับๆ กรณีนี้แม้จะเป็นเงินน้อยๆ แค่หลักหมื่น รวยแค่ ไหนก็ผิดนัดได้เหมือนกัน เพราะหากดึงเงินในครอบครัวไปใช้มันจะเป็นเรื่องใหญ่โต บ้านแตกได้ เป็นอีกเรื่องที่ต้องระวัง เพื่อป้องกัน การบริหารเงินผิดพลาด

 

การบริหารเงิน หรือใช้เงินผิดพลาด สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ตราบที่คนเรายังต้องกินต้องใช้ เพียงแต่จะผิดพลาดมากน้อย เพียงใด ส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่ที่เงินที่มีอยู่ในบัญชี มีมาก หน้าใหญ่มาก โอกาสผิดพลาดในการใช้เงินก็สูงมากเช่นกัน เมื่อมีเงินอยู่ในมือ จึงต้องมีสติให้มาก จะทำอะไร ก็ต้องคิดและศึกษาให้รอบครอบ กรณีศึกษาต่างๆ มีให้เห็นมากมายใน Google หรือ Youtube อย่าเอา แต่คิดว่า มันจะไม่เกิดกับเราหรอก ซึ่งมันก็พร้อมจะเกิดกับทุกคนที่มีเงิน

 

อ่านจบแล้วก็ลองคิดวิเคราะห์ดูครับว่า ขณะนี้เวลานี้ มีความผิดพลาดทางการเงินด้านใดบ้าง กำลังจะเข้ามในชีวิตอยู่หรือไม่ เพื่อจะ ได้หาทางแก้ไข ก่อนจะสายเกินไป